การวิ่งที่ยาวที่สุดในชีวิต -- วิ่งเพื่ออะไร?

ขอเกาะกระแสพี่ตูนกับการวิ่งครั้งยิ่งใหญ่ในโครงการ "ก้าวคนละก้าว เพื่อ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ" จากใต้สุดไปเหนือสุดด้วยระยะทาง 2191 กิโลเมตร ด้วยเป้าหมาย 700 ล้านบาท โดยพี่ตูนขอบริจาคเงินจากคนไทย 70 ล้านคนๆละเพียง 10 บาท

แน่นอนในโลกโซเชี่ยลมีการวิพากย์วิจารณ์กันมากมายเกี่ยวกับโครงการนี้รวมไปถึงตัวพี่ตูนด้วยโดยส่วนใหญ่แล้วเป็นไปในทางบวก แต่กระนั้นก็ไม่วายมีทางลบมาขอแจมด้วย ทั้งนี้ก็เหมือน "โลกธรรม 8" ในพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าที่ว่า มีคนสรรเสริญก็ย่อมมีคนนินทาว่าร้าย...และนี่คือความจริงธรรมดาของชีวิต ที่โดยส่วนตัวคิดว่าพี่ตูนรวมถึงทีมงานตระหนักในหลักธรรมข้อนี้อยู่แล้วจึงมิได้มีการออกมาตอบโต้แต่อย่างใด

คนไทยที่รักชาติ เราต่างอยากให้สังคมดี...

: บางคนอยากให้สังคมดีโดยการเฝ้านั่งรอดูคนอื่นมาทำให้เกิดสิ่งต่างๆเหล่านั้นเกิดขึ้น

: บางคนอยากให้สังคมดีโดยการก่นด่าสาปแช่งคนอื่นต่างๆนาๆ โดยที่ก็ไม่ได้ทำให้มีสิ่งดีใดๆเกิดขึ้น

: ในขณะที่บางคนอยากให้สังคมดีโดยการลงมือทำบางสิ่งบางอย่างโดยทุ่มเททั้งกายและใจ เพื่อหวังจะเห็นการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง...เฉกเช่นพี่ตูน

เราเองก็เลือกได้ว่าจะจัดตัวเองไปลงในกลุ่มไหน

จากการวิ่งครั้งที่ผ่านมาเพื่อโรงพยาบาลบางสะพาน มันพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า พี่ตูนไม่ใช่ได้แค่เงินบริจาคกว่า 70 ล้านบาท แต่พี่ตูนได้ใจคนทั่วประเทศทุกเพศทุกวัย แต่พี่ตูนวิ่ง "เพื่อ" ให้ผู้คนได้ออกมาตระหนักถึงสถานการณ์ความขาดแคลนของโรงพยาบาลรัฐ อีกทั้งกระตุ้นให้ผู้คนเห็นความสำคัญของการไม่ป่วยโดยการออกมาวิ่ง...และมันได้ผล

ครั้งนี้พี่ตูนมีแฝงความนัยอีกหนึ่ง "เพื่อ" คือ ขอเงินคนไทยแค่เพียงคนละ 10 บาท จากคนไทย 70 ล้านคน --- เห็นหนึ่ง ความหมายจาก key word ในนั้นมั้ยคะ "คนไทย 70 ล้านคนร่วมกันบริจาคคนละ 10บาท" มาแสดงความสามัคคีเพื่อคนไทยกัน

มาเข้าเรื่องการวิ่ง และเหตุผล หรือ "เพื่อ" ของการวิ่งกัน

แค่ให้ลุกออกมาวิ่งก็ยากแล้ว แต่การวิ่งให้ต่อเนื่องนั้นยากกว่าหลายเท่า

แววมีเทคนิคนึงที่น่าสนใจมาเล่าให้อ่าน เผื่ออาจจะเป็นไอเดียให้ใครออกมาวิ่งได้บ้าง

ที่ทำงานแววคนออกมาวิ่งเป็นร้อยๆคนเลยค่ะ

พวกเขาวิ่ง "เพื่อ" อะไร?

1.เราจัดการแข่งขัน 45 วัน challenge โดยมีรางวัลเป็นรองเท้าวิ่งยี่ห้อดัง เราให้พนักงานตั้งกลุ่มขึ้นมากลุ่มละ 6 คน ทุกกลุ่มมีผู้นำดูแลคนของตัวเองตั้งแต่คนที่วิ่งได้เยอะสุดแบบมืออาชีพจนถึงคนที่เพิ่งเริ่มวิ่งและเสมือนๆจะวิ่งได้น้อยสุด แต่ทุกคนต้องมีเรคคอร์ดของการวิ่ง ใครคนใดคนหนึ่งจะวิ่งคนเดียวไม่ได้ แต่ทีมต้องวิ่งในระดับที่ได้ตั้งเป้าไว้

เริ่มต้นวิ่ง "วิ่งเพื่อรางวัล"

วิ่งไประยะหนึ่ง ทุกคนตั้งหน้าตั้งตา "วิ่งเพื่อทีม"

แต่เมื่อเวลาผ่านไปจนวิ่งกันติดเป็นการออกกำลังแล้วน้องๆกลับรู้สึกได้เลยว่าตอนนี้เค้าวิ่ง "เพื่อตัวเอง" เพราะเห็นการเปลี่ยนแปลงของสุขภาพอย่างชัดเจน ทั้งกายและใจ

และมันจะเริ่มกลายเป็น "วิ่งเพื่อครอบครัวและคนรอบข้าง" ครอบครัวเริ่มออกมาวิ่งด้วย ข้างบ้านเริ่มเห็น เริ่มเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนอื่นๆ

2. เราจัดการวิ่งการกุศลโดยทุก 1 กิโลเมตรของการวิ่งที่พนักงานไปวิ่งในรายการต่างๆจะถูกบริจาค"เพื่อ" เป็นอาหารสุนัข 1 กิโลกรัมให้สุนัขจรจัดตามสถานรับเลี้ยงต่างๆ เราเลยวิ่งกันใหญ่เลย เพราะเหล่าสุนัขจรจัดจะได้มีชีวิตรอดจากอาหารดีๆของเรา วิ่ง "เพื่อ" ให้ชีวิต!

โดยส่วนตัวแววเองนั้น วิ่งมานานแล้ว และมี "เพื่อ" ที่ชัดเจนคือ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่นๆลุกขึ้นมาวิ่ง และดูแลสุขภาพกันเยอะๆ

สิ่งที่อยากบอกในเรื่องนี้เหมือนที่กูรูทางการพัฒนาตัวเองหลายท่านบอก โดยเฉพาะ Simon Sinek - Start with WHY ว่า "เหตุผล หรือ เพื่อ" ของการทำสิ่งต่างๆนั้นสำคัญมาก มันคือตัวกระตุ้นความรู้สึกส่วนลึกที่จะทำให้เราลงมือทำบางสิ่งบางอย่าง

ยิ่ง "เพื่อ" ใหญ่เท่าไหร่ เรายิ่ง "มีแรงมีพลัง" ในการทำมากเท่านั้น

พี่ตูนทำ "เพื่อ" โรงพยาบาล เพื่อหมอ เพื่อพยาบาล เพื่อผู้ป่วยชาวไทย

พ่อของเราบนฟ้าทำ "เพื่อ" ลูกของท่านทุกคนในประเทศไทยได้อยู่ดีกินดี

แล้วเราล่ะ...ทำอะไร "เพื่อ" ใครบ้างหรือยัง?

สิ่งที่เราทำอยู่ทุกสิ่งอย่างนั้น เราทำเพื่ออะไร

:-) อ่านจบแล้ว ออกไปวิ่ง และบริจาค 10 บาทกันค่ะ

จากประสปการณ์ตรง และบางช่วงบางตอนของหนังสือ How To - Start With Why by Simon Sinek