top of page
GDN 980 x 120 psychiatrist.jpg

5 สัญญาณของคนที่ Low Self-esteem เห็นคุณค่าในตัวเองต่ำ และวิธีเปลี่ยนแปลงตัวเอง

การเห็นคุณค่าในตัวเอง หรือ Self-esteem เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้คนเรามีคุณภาพชีวิตที่ดี ซึ่งเกี่ยวข้องกับทั้งทางสุขภาพกายและสุขภาพใจ คนที่เห็นคุณค่าในตัวเองในระดับที่พอเหมาะพอดี จะใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างมีความสุข พวกเขาพร้อมที่จะเติบโตไปพร้อม ๆ กับการมีความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้าง



มีผลการวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการเห็นคุณค่าในตัวเองที่น่าสนใจมากมาย ผู้เขียนจะขอยกบางงานวิจัยมาให้อ่านกัน ดังนี้


  • การเห็นคุณค่าในตัวเองที่สูง ทำให้มีความเป็นอยู่ที่ดีมากขึ้น ในขณะเดียวกันก็ทำให้ภาวะซึมเศร้า ความวิตกกังวล และความเครียดลดลง

  • การเห็นคุณค่าในตัวเองที่ต่ำ สามารถเชื่อมโยงกับพฤติกรรมด้านลบหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการใช้สารเสพติดหรือพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ

  • การเห็นคุณค่าในตัวเองสร้างขึ้นมาจากปัจจัยหลายอย่าง ตั้งแต่ความคิดและความเชื่อของตัวเอง คำติชมและการสนับสนุนจากคนรอบข้าง ตลอดจนเป้าหมายและคุณค่าของเป้าหมายที่ทำสำเร็จ

  • การเห็นคุณค่าในตัวเองสามารถสร้างได้จากสิ่งต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการพูดคุยกับตัวเองในทางบวก การตั้งเป้าหมายขึ้นมาและสามารถบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ได้ รวมถึงการสนับสนุนและคำแนะนำจากบุคคลที่นับถือ

  • บางงานวิจัยพบว่า การเห็นคุณค่าอาจจะทำให้เกิดสิ่งสำคัญในตัวเองอย่างการมีสุขภาพใจที่ดี ในขณะที่ความมั่นใจจะส่งผลเกี่ยวข้องกับผลลัพธ์ในการทำงานมากกว่า เช่น ผลงานและความสำเร็จ

  • ผลเสียของการเห็นคุณค่าในตัวเองที่สูงเกินไป เช่น แนวโน้มที่จะมีความมั่นใจในตัวเองมากเกินไป หรือการคิดว่าตัวเองได้รับสิทธิพิเศษเหนือคนอื่น


อย่างไรก็ตาม การเห็นคุณค่าในตัวเองต่ำยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญในการก่อให้เกิดความสุขและความสำเร็จในชีวิตได้ ขัดขวางเราจากการไล่ตามความฝัน การดูแลความสัมพันธ์ที่ดี และพลาดโอกาสที่จะสร้างความสุขและความสมหวังให้กับตัวเอง เราจึงต้องเรียนรู้ว่าการเห็นคุณค่าในตัวเองต่ำเกิดขึ้นจากอะไร และควรจะจัดการกับมันอย่างไร ซึ่งผู้เขียนรวบรวมมาให้ 5 ข้อดังนี้


การเห็นคุณค่าในตัวเองต่ำ เกิดจากอะไรได้บ้าง


1. การเห็นคุณค่าในตัวเองต่ำเกิดจากความเชื่อและความคิดกับตัวเองในด้านลบ อาจจะรวมถึงการพูดถึงตัวเองในแง่ลบ การสร้างมาตรฐานของตัวเองเอาไว้สูง ไม่พอใจกับสิ่งที่ตัวเองทำ และเป็นคนที่โฟกัสจุดด้อยและความล้มเหลวมากกว่าการมองไปที่จุดแข็งและความสำเร็จ ถ้าเราบอกตัวเองอยู่เสมอว่ายังไม่ดีพอ ฉลาดไม่มากพอ ยังมีเสน่ห์ไม่มากพอ การจะทำให้รู้สึกดีกับสิ่งที่ตัวเองเป็นจึงเป็นเรื่องยาก


2. ขาดการสนับสนุนจากคนรอบตัวและขาดความสัมพันธ์ในทิศทางบวกมีผลทำให้การเห็นคุณค่าในตัวเองต่ำได้ หากเรารู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่าและยังไม่ได้รับการสนับสนุนจากคนรอบตัวอีก การคงรักษาความรู้สึกที่มีกับตัวเองในทิศทางบวกจะทำได้ยากขึ้นอีก สิ่งเหล่านี้มักเกิดขึ้นในวัยเด็กและวัยรุ่นที่อยู่ในช่วงการพัฒนาความเป็นตัวเอง


3. บาดแผลทางใจที่เคยได้รับหรือพบเจอเหตุการณ์เชิงลบในอดีตอาจจะส่งผลต่อการเห็นคุณค่าในตัวเองระยะยาว เช่น ประสบการณ์ในอดีตของการถูกทำร้าย ถูกทอดทิ้ง หรือเหตุการณ์ที่กระทบกระเทือนจิตใจในรูปแบบอื่น ๆ ที่ทิ้งรอยแผลที่ฝังลึกเอาไว้และส่งผลต่อการทำให้รู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่า


4. การเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นอาจจะเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดการเห็นคุณค่าในตัวเองต่ำ ปัจจุบันสื่อสังคมออนไลน์และแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ มีความแพร่หลายมาก ทำให้สามารถเปรียบเทียบตัวเรากับคนอื่นได้ง่ายขึ้นด้วย เราอาจจะรู้สึกว่าตัวเองอยู่ในสถานการณ์ที่ตกต่ำจากการได้เห็นชีวิตที่ “สมบูรณ์แบบ” ของคนอื่น แม้เราจะรู้ว่าสิ่งที่ถูกเผยแพร่ในสังคมออนไลน์นั้นย่อมถูกคัดเลือกมาแต่เรื่องดี ๆ ก่อนอยู่แล้วและบางเรื่องอาจจะไม่ใช่เรื่องจริงก็ตาม


5. การพบเจอกับสถานการณ์ที่ยากลำบากในชีวิตสามารถนำไปสู่การเห็นคุณค่าในตัวเองต่ำได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นความลำบากด้านการเงิน ความลำบากส่วนบุคคล หรือเรื่องอื่น ๆ อาจจะทำให้เรารู้สึกหนักใจและรู้สึกว่าเราไม่มีความสามารถพอที่จะแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิตได้


การเห็นคุณค่าในตัวเองที่ต่ำอาจจะส่งผลร้ายแรงต่อสุขภาพกายและสุขภาพใจของเรา และมักเชื่อมโยงกับพฤติกรรมเชิงลบที่เกิดขึ้นได้ เช่น การใช้สารเสพติดและพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ ตลอดจนปัญหาทางสุขภาพใจ เช่น ภาวะซึมเศร้า ความวิตกกังวล และความเครียด นอกจากนี้การเห็นคุณค่าในตัวเองต่ำยังเป็นสิ่งที่ขัดขวางไม่ให้เราไขว้ขว้าโอกาส ละทิ้งความสัมพันธ์ที่อาจจะนำพาความสุขและความสมหวังกับตัวเราได้


แล้วเราสามารถทำอย่างไรได้บ้างหากเป็นคนที่เห็นคุณค่าในตัวเองต่ำ ?


การเห็นคุณค่าในตัวเองไม่ใช่ลักษณะที่อยู่คงทนถาวรในตัวบุคคล และสามารถพัฒนาให้ดีขึ้นได้ด้วยกลยุทธ์ต่าง ๆ อย่างการพูดกับตัวเองในเชิงบวก การตั้งเป้าหมายและบรรลุเป้าหมายที่สามารถทำให้เป็นจริง ตลอดจนการขอแรงสนับสนุนและคำแนะนำจากบุคคลที่ไว้ใจ สิ่งเหล่านี้ล้วนมีประโยชน์ที่จะก่อให้เกิดการเห็นคุณค่าในตัวเอง อีกสิ่งที่สำคัญคือเราจะต้องโฟกัสกับจุดแข็งและความสำเร็จของเรามากกว่าไปหมกมุ่นกับจุดอ่อนและความล้มเหลวที่เคยเกิดขึ้น


แม้ว่าการเกิดคำถามในตัวเองจะเป็นเรื่องปกติ แต่จำไว้ว่าเราทุกคนย่อมมีเอกลักษณ์และมีคุณค่าในแบบของเราเองตามจุดแข็งและจุดอ่อนที่แต่ละคนมี โดยการเรียนรู้ที่จะรักและยอมรับตัวเองนั้น จะเป็นรากฐานที่ทำให้เราสามารถสร้างความสุขและเติมเต็มสิ่งต่าง ๆ ในชีวิตได้


แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเราเห็นคุณค่าในตัวเองต่ำเกินไปหรือเปล่า?


สัญญาณที่สื่อว่าคุณเป็นคนที่เห็นคุณค่าในตัวเองต่ำ


  1. ชอบพูดเชิงลบกับตัวเอง : หากคุณมักพูดคุยกับตัวเองในแง่ลบหรือพูดเพื่อให้ตัวเองรู้สึกตกต่ำ ไม่สามารถสู้กับคนอื่นได้ นั่นอาจจะเป็นสัญญาณของการเห็นคุณค่าในตัวเองต่ำ

  2. ใฝ่หาแต่ความสมบูรณ์แบบ : การตั้งมาตรฐานที่เกินจริงหรือความสมบูรณ์แบบที่มากเกินไป ทำเท่าไหร่ก็รู้สึกว่ายังไม่ดีพอ นั่นอาจจะเป็นสัญญาณของการเห็นคุณค่าในตัวเองต่ำ เนื่องจากสามารถบ่งบอกถึงการไม่ยอมรับในตัวเองได้

  3. เลี่ยงที่จะเปิดรับประสบการณ์ใหม่ : หากคุณหลีกเลี่ยงการลองทำสิ่งใหม่ ๆ หรือไม่กล้าเสี่ยงเพราะกลัวความล้มเหลว นั่นอาจจะเป็นสัญญาณของการเห็นคุณค่าในตัวเองต่ำ

  4. ไม่กล้าแสดงออก : เกิดความยากลำบากในการยืนหยัดเพื่อตัวเอง ไม่สามารถแสดงความต้องการและความปรารถนาของคุณได้ นั่นอาจจะเป็นสัญญาณของการเห็นคุณค่าในตัวเองต่ำ

  5. ยอมรับคำชมได้ยาก : หากคุณมีปัญหาในการรับคำชมหรือยากที่จะยอมรับจุดแข็งและความสำเร็จของคุณ นั่นอาจจะเป็นสัญญาณของการเห็นคุณค่าในตัวเองต่ำ


วิธีการจัดการกับการเห็นคุณค่าในตัวเองต่ำ


แทบทุกอย่างในตัวเราสามารถพัฒนาหรือเปลี่ยนแปลงได้ ขึ้นอยู่กับว่าตัวคุณเองต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองมากพอหรือไม่ ลองมาดู 5 วิธีในการเปลี่ยนแปลงตัวเอง เพื่อเปลี่ยนคุณให้เป็นคนที่เห็นคุณค่าในตัวเอง


  1. ฝึกฝนการพูดคุยกับตัวเองในเชิงบวก : แทนที่จะพูดคุยกับตัวเองในเชิงลบ ให้พยายามโฟกัสไปในสิ่งที่ถนัดและคุณสมบัติเชิงบวกที่คุณมี

  2. ตั้งเป้าหมายที่เป็นจริงได้ : แทนที่จะตั้งมาตรฐานความสมบูรณ์แบบให้กับตัวเอง ลองตั้งเป้าหมายที่ทำได้และสอดคล้องกับค่านิยมของคุณดู

  3. ขอการสนับสนุนและคำแนะนำ : การขอความช่วยเหลือและคำแนะนำจากบุคคลที่เชื่อถือได้อาจจะเป็นประโยชน์ในการเพิ่มการเห็นคุณค่าในตัวเองให้มากขึ้น เช่น นักบำบัด เพื่อน หรือสมาชิกในครอบครัวที่ให้การสนับสนุน

  4. ดูแลตัวเอง : การดูแลสุขภาพร่างกาย อารมณ์ และจิตใจสามารถช่วยเพิ่มการเห็นคุณค่าในตัวเองได้

  5. ฝึกฝนที่จะขอบคุณสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิต : โฟกัสกับสิ่งที่คุณรู้สึกขอบคุณสามารถช่วยเปลี่ยนความสนใจของคุณออกจากความคิดเชิงลบและไปสู่การมองโลกในแง่บวกมากขึ้น


การเห็นคุณค่าในตัวเองเป็นเรื่องสำคัญ แต่ก็มีด้านอื่น ๆ ที่สำคัญไม่แพ้กัน Self-esteem เป็นส่วนหนึ่งของความเป็นอยู่ที่ดี เราจึงต้องให้ความสำคัญกับด้านอื่น ๆ ด้วย เช่น สุขภาพร่างกาย การมีความสัมพันธ์คนอื่น และการเติบโตของบุคคล


สำหรับใครที่กำลังเครียด กังวล คิดมาก ทั้งเรื่องของปัญหา Burn Out จากการทำงาน ปัญหาความสัมพันธ์ต่างๆ ในครอบครัว คนรัก ไปจนถึงภาวะต่างๆ เช่น ซึมเศร้า ทุกปํญหาสำคัญและเป็นเรื่องใหญ่สำหรับเราเสมอ


iSTRONG ยินดีให้บริการ ปรึกษาด้านสุขภาพจิตโดยผู้เชี่ยวชาญ ทั้งจากจิตแพทย์และนักจิตวิทยา ดูรายละเอียดได้ที่นี่


 

iSTRONG Mental Health

ผู้ดูแลสุขภาพใจให้กับบุคคล ครอบครัว และองค์กร


บริการของเรา

สำหรับบุคคลทั่วไป


  • บริการปรึกษา จิตแพทย์และนักจิตวิทยา : http://bit.ly/3lmThUa

  • คอร์สฝึกอบรม การเป็นนักจิตวิทยาให้คำปรึกษา : http://bit.ly/3RQfQwS

สำหรับองค์กร

โทร. 02-0268949 หรือ Line : @istrong

 

------------------------


แปลและเรียบเรียงโดย

Nattanicha Prathumsrikajorn นิสิตชั้นปีที่ 4 ภาควิชาจิตวิทยาอุตสาหกรรมและองค์การ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

facebook album post - square (1).png
1.พวกหลีกเลี่ยงความผูกพัน (2).png
บทความล่าสุด
bottom of page