top of page

ทำไมคุณถึงไม่รู้สึกภูมิใจในงานอีกต่อไป? ชวนรู้จัก 5 สัญญาณของภาวะสิ้นยินดีในที่ทำงาน

iSTRONG ทำไมคุณถึงไม่รู้สึกภูมิใจในงานอีกต่อไป? ชวนรู้จัก 5 สัญญาณของภาวะสิ้นยินดีในที่ทำงาน

ภาวะสิ้นยินดีในที่ทำงาน หรือ Workplace Anhedonia ในทางจิตวิทยา หมายถึง อาการสูญเสียความสามารถในการรับรู้ความสุขหรือความพึงพอใจจากงาน ขาดแรงจูงใจ และขาดความรู้สึกเชื่อมโยงกับงานที่ทำ ซึ่งเริ่มต้นมาจากภาวะหมดพลัง หรือ Brownout อันนำไปสู่ภาวะหมดไฟในการทำงาน หรือ Burnout และนำมาสู่ภาวะสิ้นยินดีในที่ทำงานในที่สุด


อาการเด่นของภาวะสิ้นยินดีในที่ทำงาน คือ เกิดความรู้สึกเฉยชา ว่างเปล่า หรือเบื่อหน่ายต่องาน รู้สึกว่าเราไม่ได้มีความสำคัญต่องาน และไม่มีความสุขในการทำงาน โดยผู้เชี่ยวชาญทางจิตวิทยาองค์กรได้กล่าวว่า ภาวะสิ้นยินดีในที่ทำงาน มีสาเหตุหลัก ๆ มาจาก 5 ปัจจัยดังต่อไปนี้


  1. ความเครียดเรื้อรัง (Chronic Stress)

    งานทุกงานย่อมมีความเครียด ความกดดันอยู่แล้วตามธรรมชาติของแต่ละงาน แต่ถ้าหากคนทำงานต้องเผชิญกับความเครียดเรื้อรังติดต่อกันอย่างยาวนาน ต้องทำงานล่วงเวลา มีภาระงานที่มากเกินไป รวมถึงการไม่ได้รับการสนับสนุนจากหัวหน้างาน หรือเพื่อนร่วมงานย่อมส่งผลให้เกิดภาวะสิ้นยินดีในที่ทำงานขึ้นมาได้


  2. การหมดไฟในการทำงาน (Burnout Syndrome)

    ผู้เชี่ยวชาญทางจิตวิทยาได้อธิบายว่าภาวะหมดไฟในการทำงานสามารถก่อให้เกิดภาวะสิ้นยินดีในที่ทำงาน เนื่องจากภาวะหมดไฟนั้นมีสาเหตุมาจากการขาดสมดุลระหว่างชีวิตและงาน (Work-Life Balance) หรือมีชื่อเล่นว่า Work ไร้ Balance ทำให้เกิดความท้อแท้ ห่อเหี่ยว อันนำไปสู่ภาวะ “Dead Inside”หรือด้านชาทางความรู้สึก และนำไปสู่ภาวะสิ้นยินดีในที่ทำงาน


  3. ความรู้สึกขาดการควบคุม (Lack of Autonomy)

    ความรู้สึกขาดการควบคุม คือ ความรู้สึกว่าเราไม่สามารถควบคุม หรือกำหนด วางแผนในการทำงานได้ ต้องทำงานตามคำสั่ง เสนอความคิดเห็นอะไรไปก็ไร้ค่า ความรู้สึกทางลบที่อัดแน่นและสะสมมาอย่างยาวนานนี้จึงทำให้คนทำงานเกิดภาวะสิ้นยินดีในที่ทำงาน เพราะไม่สามารถใส่ชีวิตและจิตวิญญาณลงไปในการทำงานได้


  4. สภาพแวดล้อมที่เป็นพิษ (Toxic Workplace)

    หากที่ทำงานอยู่กันแบบกาสะลอง - ซ้องปีบ เลือดข้นคนจาง คนทำงานย่อมไม่มีความสุข เพราะต้องเผชิญปัญหาความในที่ทำงาน มาทำงานเหมือนมารบ ต้องคอยระวังตัวอยู่เสมอ ไว้ใจใครไม่ได้ พลาดก็ไม่ได้ คนช่วยก็ไม่มี สภาพแวดล้อมที่เป็นพิษเช่นนี้จึงเอื้อให้เกิดภาวะสิ้นยินดีในที่ทำงานได้ไม่ยาก 


  5. ขาดความหมายและเป้าหมายในการทำงาน (Lack of Purpose and Meaning)

    คติพจน์ในการทำงานที่สวยหรูดูดี แต่ปฏิบัติยากที่สุด คือ “หากไม่ได้ทำงานที่รัก ให้รักงานที่ทำ” เพราะเรารักงาน ไม่ได้หมายความว่างานจะรักเรา และเมื่องานไม่รักเรา เช่น งานหนัก ทำงานที่ไม่ถนัด รู้สึกว่าที่ทำงานไม่ใช่ที่ของเรา เราก็จะเริ่มไม่เห็นคุณค่าในตนเอง งานของเราที่ทำออกมาก็ไม่สะท้อนคุณค่าของเรา จึงทำให้เราทำงานไปวัน ๆ 


    เมื่อทราบสาเหตุของการเกิดภาวะสิ้นยินดีในที่ทำงานแล้ว ทีนี้มาดู 5 สัญญาณของภาวะสิ้นยินดีในที่ทำงานกันบ้างนะคะ ว่ามีอะไรบ้าง


  1. ไม่มีความสุขในการทำงาน

    หากคุณมีอาการเกลียดเช้าวันจันทร์ และเกลียดทุกวันที่ต้องทำงาน รู้สึกปวดหัว คลื่นไส้ อยากลาป่วยทุกวัน และเมื่อมาทำงานก็ไม่มีความสุข ทำงานตามหน้าที่แบบไร้หัวใจ ทำงานแค่ตามเวลา ไม่อยากจะคิดงานใหม่ ไม่อยากจะสร้างสรรค์งานใด ๆ เพียงแค่อยู่ไปวัน ๆ นั่นแสดงว่าคุณกำลังอยู่ในภาวะสิ้นยินดีในที่ทำงานแล้วค่ะ  


  2. ไม่มีแรงจูงใจในการทำงาน

    เมื่อคุณอยู่ในภาวะสิ้นยินดีในที่ทำงาน คุณจะรู้สึกว่าตนเองหมดไฟ ไม่มีแรงจูงใจ เฉื่อย ๆ เอื่อย ๆ ไม่มี Passion ที่จะสร้างสรรค์งานใหม่ ๆ ทำงานซ้ำ ๆ เดิม ๆ เป็นกิจวัตร ขาดความกระตือรือร้น ไม่มีแรงบันดาลใจ ทำงานตามคำสั่งเท่านั้น 


  3. ไม่มีเพื่อนในที่ทำงาน และไม่อยากมีเพื่อนในที่ทำงาน

    ผู้ที่อยู่ในภาวะสิ้นยินดีในที่ทำงานจะมีเพื่อนน้อย เพราะเกิดความเบื่อหน่ายและไม่รู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนหนึ่งกับสังคมในที่ทำงาน จึงหลีกเลี่ยงที่จะพูดคุยหรือมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน เพียงมาทำงาน รอเวลาเลิกงาน แล้วก็กลับบ้าน


  4. ไม่เห็นคุณค่าในการทำงาน

    หากคุณเริ่มมีความรู้สึกว่างานที่คุณทำไม่มีประโยชน์ หรือไม่เห็นว่างานที่ทำอยู่จะก่อให้เกิดคุณค่าใด ๆ จนเกิดความรู้สึก “ว่างเปล่า” ต่อการทำงาน นั่นเป็นสัญญาณว่าคุณกำลังอยู่ในภาวะสิ้นยินดีในที่ทำงาน และเป็นจุดที่ทำให้งานของคุณมีประสิทธิภาพต่ำกว่าที่ควรจะเป็นอีกด้วย


  5. ไม่ยินดียินร้ายกับความสำเร็จของงาน

    และสัญญาณอันตรายสุดท้ายของภาวะสิ้นยินดีในที่ทำงาน ก็คือ การไม่มีความรู้สึกใด ๆ ต่องาน แม้ว่างานนั้นจะประสบความสำเร็จก็ตาม การที่เราไม่รู้สึกภูมิใจหรือยินดีกับความสำเร็จหรือผลงานที่ทำได้เป็นสัญญาณที่บอกว่าเรา “หมดใจ” กับการทำงาน เพราะขนาดว่าได้รับคำชม งานเป็นที่ยอมรับ เรายังเฉยชาและว่างเปล่า


    อย่างไรก็ตาม หากคุณพบว่าคุณมีสัญญาณของภาวะสิ้นยินดีในที่ทำงาน ตั้งแต่ 3 ข้อขึ้นไป ผู้เชี่ยวชาญทางจิตวิทยาก็มีข้อแนะนำในการเยียวยาภาวะสิ้นยินดีในที่ทำงาน ดังนี้ค่ะ


  1. พักผ่อนให้เพียงพออยู่เสมอ

    หากรู้สึกหมดใจกับการทำงาน ลองนอนหลับให้เต็มที่ กินให้อิ่ม ไปเที่ยวพักผ่อนให้สบายใจแล้วค่อยกลับมาทำงานใหม่ เพราะบ่อยครั้งสภาพร่างกายที่อ่อนล้าก็เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดภาวะสิ้นยินดีในที่ทำงานได้ และอย่าลืมออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อกระตุ้นสาร Serotonin และ Dopamine ให้หลั่งออกมา เพื่อให้เราผ่อนคลายและมีความสุขมากขึ้น


  2. รักษา Work-Life Balance ให้เหมาะสม

    โดยการกำหนดเวลาในการทำงานให้ชัดเจน เมื่อเลยเวลาเลิกงานให้เปลี่ยนโทรศัพท์เป็นโหมดเครื่องบิน (Airplane mode) งดรับสายเรื่องงาน เวลาพักคือพัก เมื่อถึงเวลางานจะได้ทำงานได้เต็มที่ และเมื่อมีเวลาว่างแล้วเราก็สามารถ Up skill และ Reskill พัฒนาตนเองได้อีกด้วย


  3. เปลี่ยน Mindset ชีวิตเปลี่ยน

    หากการทำงานเป็นเรื่องน่าเบื่อ ก็ลองเปลี่ยนมุมมองจากไปทำงาน เป็นไปหาประสบการณ์ชีวิต ด้วยการหาเรื่องดี ๆ ที่ดึงดูดใจให้เราอยากไปที่ทำงาน เช่น ร้านอาหารเจ้าอร่อยที่ต้องไปทานทุกเที่ยง เพื่อสนิทสักคนที่เราสามารถพูดคุยสารทุกข์สุขดิบได้ แมวจรขาประจำที่เราต้องนำอาหารไปบริการ หรือการเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ จากที่ทำงาน เพื่อเติมไปให้เรามี Passion ไปทำงานค่ะ


  4. ปรับสภาพแวดล้อมในที่ทำงานให้เป็นมิตรมากขึ้น

    หากที่ทำงานมีบรรยากาศเป็นพิษ ก็ทำให้เป็นมิตรมากขึ้น ด้วยการตกแต่งโต๊ะทำงานตามใจชอบ แต่ถ้าเป็นพิษระดับร้ายแรง ก็ขอแนะนำให้ย้านแผนก ย้ายงาน หางานใหม่จะดีกว่าค่ะ เพราะยิ่งอยู่ไปพิษจะกัดกร่อนและลดทอนคุณค่าของคุณลง 


  5. หากความรู้สึกกัดกร่อนจิตใจ ควรขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ

    ข้อดีอย่างหนึ่งของภาวะสิ้นยินดีในที่ทำงาน คือไม่มีความคิดที่จะทำร้ายตนเองถึงชีวิต แต่ความรู้สึกสิ้นไร้หัวใจก็จะกัดกร่อน ทำให้เราไร้ซึกจิตวิญญาณตามไปด้วย ดังนั้นแล้วหากคุณรู้ตัวว่าไม่ไหวกับภาวะที่เป็นอยู่ แนะนำให้ปรึกษานักจิตวิทยาหรือจิตแพทย์ เพื่อรับการปรึกษาหรือทำจิตบำบัด (Psychotherapy) เพื่อให้ชีวิตกลับมาปกติสุขอีกครั้งค่ะ


    ภาวะสิ้นยินดีในที่ทำงานเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบทั้งสุขภาพจิต สุขภาพกาย และประสิทธิภาพในการทำงาน หากปล่อยไว้โดยไม่จัดการอาจนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าได้ ดังนั้นขออนุญาตฝาก 5 สัญญาณของภาวะสิ้นยินดีในที่ทำงานเพื่อให้คุณได้สังเกตตนเอง และเยียวยาตนเองเบื้องต้น ด้วยความห่วงใยนะคะ

iSTRONG Mental Health

ผู้ดูแลสุขภาพใจให้กับบุคคล ครอบครัว และองค์กร


บริการของเรา

สำหรับบุคคลทั่วไป

  • บริการปรึกษา จิตแพทย์และนักจิตวิทยา : http://bit.ly/3lmThUa  

  • คอร์สฝึกอบรมทักษะด้านจิตวิทยา : http://bit.ly/3RQfQwS 

สำหรับองค์กร

โทร. 02-0268949 หรือ Line : @istrong

บทความแนะนำ

อ้างอิง BeDee. (2025, January 21). ภาวะสิ้นยินดี (Anhedonia) รับมืออารมณ์ว่างเปล่า ไม่มีความสุข. https://www.bedee.com/articles/mental-health/anhedonia


Gminds. (n.d.). แชร์ประสบการณ์ “ภาวะสิ้นยินดี” และวิธีเยียวยารักษา.

ประวัติผู้เขียน

จันทมา ช่างสลัก บัณฑิตจิตวิทยาคลินิกจากรั้ว มช. และมหาบัณฑิตจาก NIDA ปัจจุบันเป็นคุณแม่ลูก 1 ผู้เป็นทาสแมว ที่มุ่งมั่นจะพัฒนาการเขียนบทความจิตวิทยาให้โดนใจผู้อ่าน และสร้างแรงกระเพื่อมทางสังคม ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกบนโลกใบนี้


iSTRONG ผู้ให้บริการด้านสุขภาพจิต Solutions ด้านสุขภาพจิต ให้คำปรึกษาโดยนักจิตวิทยา นักจิตบำบัด นักจิตวิทยาคลินิกที่มีใบรับรอง รวมถึงบทความจิตวิทยา

© 2016-2025 Actualiz Co.,Ltd. All rights reserved.

contact@istrong.co                     Call 02-0268949

  • Facebook Social Icon
  • YouTube Social  Icon
  • Instagram
  • Twitter
bottom of page