ทำไมดูเป็นคนดีจัง? เป็นคนดีแบบไหนถึงจะดีต่อใจตัวเองและคนอื่น
คุณเคยรู้จักกับคนที่ดูเป็นคนดีแต่พอใกล้ชิดกันไปนาน ๆ แล้วกลับรู้สึกอึดอัดหรือรู้สึกแปลก ๆ บ้างไหมคะ? หรือในทางกลับกัน คุณรู้สึกว่าตัวเองก็เป็นคนดีคนหนึ่งแต่ทำไมถึงมีปัญหาความสัมพันธ์บ่อยจังจนท้อใจ คำว่า “คนดี” ถ้าหากใช้คำภาษาไทยมาอธิบายก็อาจจะทำให้แยกรายละเอียดได้ไม่ชัดเท่าไหร่เพราะมีคำศัพท์น้อยกว่าในภาษาอังกฤษ
ซึ่งคำว่า “ดี” นั้นมีคำศัพท์อยู่หลายคำ เช่น good หรือ nice ซึ่งแปลว่า “ดี” เหมือนกันแต่รายละเอียดไม่เหมือนกัน โดยจากบทความที่ผู้เขียนได้ไปค้นคว้ามาพบว่าการเป็นคนดีแบบ “good” จะมีอะไรที่มากกว่าเป็นคนดีแบบ “nice” และจะช่วยให้ความสัมพันธ์ยั่งยืนมากกว่าด้วย โดยเหตุผลที่เป็นเช่นนั้นมีดังนี้
1. คนดีแบบ Good จะให้ความสำคัญกับความถูกต้องจริงแท้ ขณะที่แบบ Nice จะให้ความสำคัญกับการทำให้คนอื่นพึงพอใจ
หัวใจสำคัญของ Good คือการเน้นในเรื่องของความซื่อสัตย์และจริงแท้แม้ว่ามันอาจจะทำให้มีความไม่สบายใจเกิดขึ้นบ้าง ขณะเดียวกันก็จะแคร์ด้วยกว่าคนอื่นจะรู้สึกยังไงหรือต้องการอะไร ไม่ใช่เพียงแค่สื่อสารในสิ่งที่คนอื่นอยากจะได้ยิน แต่จะสื่อสารด้วยความจริงใจและมีความรับผิดชอบต่อการกระทำของตัวเองด้วย ตรงข้ามกัน Nice จะเป็นการทำดีโดยปฏิเสธความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเอง เช่น กลัวความขัดแย้งจึงหลีกเลี่ยงที่จะเผชิญหน้าไปแบบตรง ๆ
2. คนดีแบบ Good จะให้ความสำคัญกับระยะยาว ส่วนแบบ Nice จะมุ้งเน้นที่ระยะสั้น
การทำดีแบบ Nice จะมีลักษณะเป็นเหมือน “quick fixes” เพื่อไม่ให้มีปัญหาความขัดแย้งเกิดขึ้นหรือเลี่ยงความรู้สึกไม่สบายใจ แต่แบบ Good จะให้ความสำคัญกับการรักษาความสัมพันธ์ในระยะยาวมากกว่าจึงเลือกที่จะคุยกันหรือให้ข้อเสนอแนะในทางที่สร้างสรรค์ รวมไปถึงกำหนดขอบเขต (boundaries) ส่วนการเลี่ยงที่จะไม่สื่อสารกันนั้นมันอาจจะช่วยให้ไม่มีความขัดแย้งเกิดขึ้น ณ ตอนนั้น แต่ในระยะยาวมันจะทำให้เกิดความตึงเครียดสะสม
3. คนดีแบบ Good จะทำให้เกิดความเคารพ (respect) ส่วนแบบ Nice จะนำไปสู่ความเหนื่อยล้าทางอารมณ์
คนดีแบบ Good ไม่ได้หมายถึงเป็นคนดีอย่างไร้ที่ติแต่จะเป็นคนที่ซื่อสัตย์ต่อข้อบกพร่องของตัวเอง ขอโทษอย่างจริงใจ และทำอะไรที่แสดงถึงความใส่ใจและรับผิดชอบ ซึ่งจะช่วยให้เกิดความเคารพและความไว้วางใจกัน ตรงข้ามกับ Nice ที่มักจะพยายามมากไปเพื่อให้อีกฝ่ายพึงพอใจจนในที่สุดตัวเองก็รู้สึกเหนื่อยล้า
4. คนดีแบบ Good จะส่งเสริมให้เกิดการเติบโตงอกงามในขณะแบบ Nice ไม่ทำให้เกิด คนดีแบบ Good จะให้ความช่วยเหลือ ให้ข้อเสนอแนะที่สร้างสรรค์ ช่วย “empower” อีกฝ่าย ส่วนแบบ Nice จะพยายามทำให้อีกฝ่ายได้รับความสะดวกสบายเพราะไม่ได้มองว่าอุปสรรคมันคือความท้าทายที่มันช่วยให้อีกฝ่ายเติบโตได้
อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนก็เชื่อว่าลึก ๆ แล้วทุกคนก็อยากจะเป็นคนดีในสายตาของคนอื่นด้วย หลายคนจึงพยายามที่จะทำตัวให้ “Nice” ด้วยการทำให้คนอื่นพึงพอใจซึ่งอาจจะมีสาเหตุปัจจัยอยู่ในรายละเอียดเส้นทางของการเติบโตส่วนบุคคล แต่หากคุณพบว่าการพยายามที่จะ Nice มันเริ่มบั่นทอนจิตใจตัวเองและไม่ได้ช่วยให้ความสัมพันธ์มันยั่งยืนขึ้นมาได้เลย คุณอาจจะต้องลดความ Nice ลงด้วยวิธีดังนี้
1. ช้าลงเพื่อให้ตัวเองตระหนักว่าที่จริงแล้วคุณรู้สึกยังไง
2. ฝึกปฏิเสธ
3. ใช้ความโกรธของตัวเองให้เป็นประโยชน์ในการทำความเข้าใจความต้องการของตัวเอง และฝึกสื่อสารออกไปให้คนอื่นรู้ว่าคุณต้องการอะไร
4. ฝึกเป็นคนที่จริงใจมากขึ้น เช่น ถ้ารู้สึกไม่โอเคก็ควรที่จะบอกออกไปแทนที่จะพูดว่า “ไม่เป็นไร”
5. ใช้อาการของตัวเองเป็นตัวจับ “red flag” ว่าตอนนี้ไม่ไหวแล้ว อย่าพยายามซ่อนปัญหาไว้ใต้พรม เมื่อคุณมีพฤติกรรมแบบ “passive-aggressive” เช่น ใช้คำพูดประชดประชัน หรือมีอาการเหนื่อยล้าหมดไฟ ก็นำอาการเหล่านั้นมาใช้เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าคุณอาจจะเก็บกดความต้องการของตัวเองมากไป มันอาจจะถึงเวลาต้องเลิกพูดคำว่าขอโทษและบอกออกไปว่าคุณต้องการอะไร
6. สู้กลับเสียงวิจารณ์ (ในหัวของตัวเอง) เวลาที่คุณลองทำสิ่งต่าง ๆ ด้านบนมันอาจจะทำให้คุณเกิดความรู้สึกผิด วิตกกังวลว่าจะมีเรื่องที่ไม่ดีเกิดขึ้น ซึ่งมันเป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้เมื่อคุณเริ่มต้นที่จะทำอะไรที่แตกต่างไปจากแพทเทิร์นเดิม ๆ ที่ตัวเองเคยทำ หากมันเกิดขึ้นขอให้คุณสูดหายใจลึก ๆ ตบหลังตัวเองเบา ๆ แล้วไปข้างหน้าต่อ
แต่ถ้าหากคุณลองทำมาทั้งหมดก็ยังไม่สามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองไปในทางที่ดีขึ้นได้เลย ก็อาจจะเป็นไปได้ว่าคุณมีบางอย่างที่อยู่ลึกลงไปข้างในจิตใจที่ไม่สามารถสะสางได้ด้วยตัวเอง หรือคุณพอจะรู้ว่าตัวเองมีบาดแผลทางใจที่ทำให้คุณไม่อาจที่จะเลิกเป็นคนดีแบบ Nice ที่พยายามเอาอกเอาใจคนอื่น (people pleaser) จนส่งผลให้คุณมีแต่ความสัมพันธ์ที่ไม่ยั่งยืนซึ่งคุณเองก็ไม่อยากจะเป็นแบบนั้นอีกต่อไปแล้ว ก็สามารถปรึกษาจิตแพทย์/นักจิตวิทยา/นักจิตบำบัดได้นะคะ
iSTRONG Mental Health
ผู้ดูแลสุขภาพใจให้กับบุคคล ครอบครัว และองค์กร
บริการของเรา
สำหรับบุคคลทั่วไป
บริการปรึกษา จิตแพทย์และนักจิตวิทยา : http://bit.ly/3lmThUa
คอร์สฝึกอบรมทักษะด้านจิตวิทยา : http://bit.ly/3RQfQwS
สำหรับองค์กร
EAP โปรแกรมสำหรับองค์กร : http://bit.ly/3RLI8Z8
โทร. 02-0268949 หรือ Line : @istrong
บทความที่เกี่ยวข้อง
อ้างอิง:
[1] Why Being ‘Good’ Outweighs Being ‘Nice’ In Lasting Relationships—By A Psychologist. Retrieved from https://www.forbes.com/sites/traversmark/2024/10/30/why-being-good-outweighs-being-nice-in-lasting-relationships-by-a-psychologist/
[2] The Dangers of Being Nice. Retrieved from https://www.psychologytoday.com/us/blog/fixing-families/201807/the-dangers-of-being-nice
ประวัติผู้เขียน
นิลุบล สุขวณิช (เฟิร์น) มีประสบการณ์ทำงานเป็นนักจิตวิทยาการปรึกษาในมหาวิทยาลัยและเป็นวิทยากรเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพจิต/การพัฒนาตนเองให้แก่นักศึกษาเป็นเวลา 11 ปี ปัจจุบันเป็นแม่บ้านในอเมริกาที่มีความสนใจเกี่ยวกับ childhood trauma และยังคงมีความฝันที่จะสื่อสารกับสังคมให้เกิดการตระหนักเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพจิต
Nilubon Sukawanich (Fern) has work experiences as a counseling psychologist and speaker in university for 11 years. Currently occupation is a housewife in USA who keep on learning about childhood trauma and want to communicate to people about mental health problems awareness.
Commentaires