top of page
GDN 980 x 120 psychiatrist.jpg

หยุดการ Verbal Abuse ในบ้าน ช่วยเพิ่ม Self-esteem ให้ลูกรักได้


การ Verbal Abuse หรือ การทำร้ายกันด้วยคำพูด ดูจะเป็นการลงโทษสากลที่หลาย ๆ บ้านใช้ในการอบรมลูก ๆ แต่รูปแบบก็จะแตกต่างกันออกไป ซึ่งมีทั้งแบบด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ใช้คำพูดประชดประชัน การพูดถึงทั้งต่อหน้าและลับหลังในเชิงล้อเลียน การสรรหาคำมาเรียกแทนชื่อให้คนฟังอับอาย หรือการพูดด้วยคำพูดสุภาพ แต่น้ำเสียง และอารมณ์ที่สื่อออกมาเป็นไปในทางลบ และไม่ว่ารูปแบบของ Verbal Abuse แต่ละบ้านนั้นจะแตกต่างกัน แต่สิ่งหนึ่งที่นักจิตวิทยากล้ายืนยันเลย ก็คือ ผลของ Verbal Abuse ได้สร้างบาดแผลทางใจที่รุนแรง และส่งผลอย่างมากต่อตัวตน การมองโลก บุคลิกภาพ รวมไปถึงสภาพจิตใจของเด็กน้อยมาจนโตค่ะ


จากผลการศึกษาทางจิตวิทยา พบว่า Verbal Abuse ส่งผลโดยตรงต่อ Self-esteem เนื่องจาก Self-esteem คือการเห็นคุณค่าในตนเอง แต่เมื่อถูกต่อว่าในทุก ๆ วัน ทำอะไรก็โดนด่า โดนดุ ก็จะขาดความมั่นใจ มีมุมมองต่อตนเองในเชิงลบ เกิดความเชื่อผิด ๆ ว่า ฉันมันโง่ ฉันมันไม่เก่ง ฉันมันไม่ดี และที่แน่ ๆ คือ “ฉันไม่ได้เป็นที่รักของพ่อ แม่” หรือพูดอีกแบบ ก็คือ คำใด ๆ ที่เราได้ด่าลูกไว้ มันได้สมพรปากแล้วละค่ะ


นอกจากลูกจะกลายไปเป็นคนที่เราว่า เราด่าเขาแล้ว ลูกยังต้องได้รับผลกระทบทั้งในระยะสั้น และระยะยาวที่สะเทือน Self-esteem มากมายเลยค่ะ ดังเช่น จากผลการศึกษาทางจิตวิทยา พบว่า Verbal Abuse ได้ส่งผลระยะสั้นทำให้เด็ก หรือบุคคลที่ถูก Verbal Abuse มีภาวะซึมเศร้า เก็บตัว แยกตัวออกจากสังคม ไม่ไว้ใจใคร หวาดระแวง มีความเครียดสูง วิตกกังวลง่าย นอกจากนี้ยังทำให้ลูกกลายเป็นคนที่ขาดความมั่นใจในตนเอง ไม่เข้าสังคม ไม่กล้าแสดงออก กลัวการอยู่ในที่สาธารณะ รู้สึกว่าตัวเองเป็นตัวประหลาด และยังทำให้ลูกมีปมด้อย รู้สึกว่าตนเองไม่ดี ไม่เก่ง ไม่ฉลาด ไม่เท่าคนอื่น และหากมีอาการเรื้อรัง หรือสะสมนานเข้า ๆ ลูกก็จะกลายเป็นโรคซึมเศร้า (Major Depression) หรือโรคอารมณ์สองขั้ว (Bipolar) หรืออาจมีพฤติกรรมต่อต้านสังคม (Antisocial personality disorder)ซึ่งจะไปก่อความเดือดร้อน หรือไปทำร้ายผู้อื่นในสังคมได้



สำหรับผลกระทบในระยะยาวนั้น จะทำให้เด็กเกิดปัญหาด้านสุขภาพอันเนื่องมาจากสภาวะอารมณ์ที่ไม่ปกติ หรือผลกระทบทางสุขภาพจิตที่เกิดจาก Verbal Abuse เช่น เมื่อเด็กมีภาวะซึมเศร้า ก็มีพฤติกรรมการกินที่ผิดปกติ ไม่ว่าจะกินน้อยลงมาก หรือกินมากเกินไป มีพฤติกรรมการนอนที่ผิดปกติ เช่น นอนมาก นอนข้ามวันข้ามคืน นอนแบบไม่อยากตื่นขึ้นมาเจอใคร หรือนอนไม่หลับ เครียด ฝันร้าย ซึ่งจะส่งผลให้เกิดอาการเจ็บป่วยเรื้อรังตามมาได้ ทั้งนี้ เมื่อเด็กเกิดภาวะ Low Self-esteem หรือเห็นคุณค่าในตนต่ำ ก็จะขาดความมั่นใจในตนเอง เป็นเป้าโดนแกล้งที่โรงเรียน หรือเมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ก็จะเป็นผู้ใหญ่ที่ไม่ฉายแสง ในที่ทำงาน ขาดความมั่นใจ ขาดภาวะผู้นำ ไม่กล้าลงมือทำ ไม่กล้าติดสินใจ และกลายเป็นคนที่ไม่ประสบความสำเร็จในที่สุด นอกจากนี้ ผู้ที่เกิดภาวะ Low Self – esteem จะมีลักษณะเด่นอีกประการ ก็คือ มองโลกในแง่ร้าย ทำให้เขามองทุกคนในแง่ลบ ไม่เชื่อใจใคร ไม่ไว้ใจใคร ซึ่งจะส่งผลให้เกิดปัญหาด้านความสัมพันธ์กับคนอื่น มีแนวโน้มสูงที่จะติดสารเสพติด ทำร้ายตนเอง ทำร้ายผู้อื่น ซึ่งรุนแรงที่สุด ก็คือ กลายเป็นผู้ทำผิดกฎหมาย เป็นภัยสังคมเมื่อเขาโตขึ้น


ด้วยเหตุนี้แล้ว เราจึงควรหยุดการ Verbal Abuse ทั้งในบ้านและในสังคม เพราะนอกจากความสะใจของผู้พูดแล้ว ก็ไม่ได้เกิดประโยชน์อันใดอีกเลย หนำซ้ำยังจะนำพามาซึ่งปัญหาที่เกิดกับลูก หากรักเขา และต้องการเสริม Self – esteem ให้เขา ลองมาใช้วีการลงโทษทางบวกดูนะคะ นอกจากจะไม่สร้างบาดแผลทางใจแล้ว ยังสามารถปรับพฤติกรรมทางลบ และเสริมพฤติกรรมทางบวกได้อีกด้วยละค่ะ


1. ลดการดุด่า มาลงมือแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดไปด้วยกัน

หากลูกทำผิด หรือทำพลาด เช่น ทำของแตก ทำบ้านเลอะ ทำของเสียหาย ทำของหาย โดยปกติแล้วสิ่งที่เราจะทำ ก็คือ เอ็ดตะโรลูกด้วยเสียงใช่ไหมคะ ทีนี้มาเปลี่ยนใหม่ เป็นหายใจเข้า – หายใจออก ลึก ๆ ยาว ๆ ให้ใจเย็น หรือถ้ายังไม่สงบแนะนำให้ไปหาที่กรีดร้อง หรือชกกระสอบทรายก่อนได้ เมื่อสงบแล้วจึงค่อยชวนลูกมาเก็บกวาดบ้าน มาประกอบของ มาแก้ไขในสิ่งที่เขาทำ แล้วเขาจะได้เห็นความยากลำบากในการแก้ไขสถานการณ์ ไปพร้อม ๆ กับเรียนรู้เรื่องความรับผิดชอบค่ะ


2. ลดการทำให้เจ็บใจ เป็นมาใช้เวลาเพื่อส่วนรวม

หากลูกมีพฤติกรรมที่สร้างปัญหาให้คนรอบข้าง เช่น แกล้งเพื่อ ขโมยของ แทนที่เราจะลงโทษลูกด้วยคำพูดรุนแรง หรือริบของเล่นลูกให้ลูกเจ็บใจ เปลี่ยนมาชวนลูกทำกิจกรรมเพื่อสังคม ไม่ว่าจะเป็นบริจาคของ เก็บขยะ ปลูกต้นไม้ ช่วยเหลือสัตว์ในสถานสงเคราะห์ หรือร่วมกิจกรรมของชุมชน เพื่อให้ลูกได้เห็นว่าโลกนี้ยังมีคนที่รอคอยความช่วยเหลืออีกมาก แล้วเราจะยังไม่สร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นอีกหรือ และลูกก็สามารถใช้พลังของลูก ใช้แรงของลูก ในการช่วยเหลือคนอื่น ๆ ได้


3. พาไปดูผลกระทบของสิ่งที่ทำ

หรือถ้าลูกมีมีพฤติกรรมก้าวร้าว ทำให้คนรอบข้างได้รับความเดือดร้อน และไม่เต็มใจที่จะไปทำกิจกรรมเพื่อส่วนรวม ก็พาเขาไปดูผลของการกระทำของเขาเลยค่ะว่าสิ่งที่เขาทำ ทำให้คนอื่นเดือนร้อนขนาดไหน เช่น พาลูกไปเยี่ยมเพื่อนที่บาดเจ็บ พาไปขอโทษเพื่อน ขอโทษผู้ปกครองของเพื่อน พาไปดูว่าการที่เขาเล่นซนจนของพังเสียหาย เจ้าของสิ่งของต้องเดือดร้อนขนาดไหน เพื่อให้เขาได้ตระหนักถึงผลของการกระทำค่ะ


4. ถ้าลูกขาดอะไร ก็เสริมในส่วนนั้น

หากลูกมีความสามารถในส่วนไหนที่ไม่เป็นไปตามความคาดหวังของเรา ลองดูสิว่านอกจากการพูดจาดูถูก หรือการเปรียบเทียบกับคนอื่นแล้ว เราสามารถพาเขาไปฝึกฝนอะไรได้บ้าง เช่น เรามีเวลาสอนการบ้านลูกมากขึ้นไหม เราสามารถพาลูกไปเรียนพิเศษได้ไหม หรือเราสามารถฝึกฝนลูกด้วยตนเองอะไรได้บ้างไหม แล้วเราก็จะได้เห็นค่ะว่าลูกชอบอะไร ถนัดอะไร ลูกไม่จำเป็นต้องเก่งเหมือนใครเพราะเขามีดีในตัวเอง เพียงแค่เราต้องหาให้เจอและสนับสนุนให้ถูกทาง


5. ลดการเปรียบเทียบ เพิ่มการตั้งเป้าหมาย

ถ้าลูกไม่เก่งเท่าลูกข้างบ้าน ลูกยังไม่ดีเท่าเพื่อนร่วมชั้น หรือเรามองว่าลูกยังไม่เจ๋งเท่าเด็กในข่าวแล้วละก็ ลองเปลี่ยนคำพูดเปรียบเทียบที่ทำให้เกิดปมด้อย มาเป็นการตั้งเป้าหมายชีวิตลูก ระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาวไปด้วยกันดีไหมคะ แล้วเราจะได้มองเห็นว่าในอีก 3 เดือน 6 เดือน 1 ปี 3 ปี 5 ปี ลูกอยากจะทำอะไรให้สำเร็จ วิธีการนี้จะช่วยลดแรงกดดันทั้งตัวเราและลูกลงได้มาก และยังสามารถวางแผนชีวิตได้อย่างง่ายด้วยละค่ะ


บ่อยครั้งที่เราใช้คำพูดในการทำร้ายกัน และบ่อยครั้งที่เราพูดโดยไม่คิด แต่คนฟังจำติดไปจนวันตาย ซึ่งผลของมันรุนแรง เรื้อรัง และยาวนาน เกินกว่าที่เราจะคาดคิดเชียงคะ หวังว่าบทความนี้จะช่วยลดการ Verbal Abuse ในครอบครัวลงได้บ้าง เพื่อเสริมสร้าง Self-esteem ของคนในบ้านที่เหมาะสมต่อไป


สำหรับใครที่กำลังเครียด กังวล คิดมาก ทั้งเรื่องของปัญหา Burn Out จากการทำงาน ปัญหาความสัมพันธ์ต่างๆ ในครอบครัว คนรัก ไปจนถึงภาวะต่างๆ เช่น ซึมเศร้า ทุกปํญหาสำคัญและเป็นเรื่องใหญ่สำหรับเราเสมอ


iSTRONG ยินดีให้บริการ ปรึกษาด้านสุขภาพจิตโดยผู้เชี่ยวชาญ ทั้งจากจิตแพทย์และนักจิตวิทยา ดูรายละเอียดได้ที่นี่


 

iSTRONG Mental Health

ผู้ดูแลสุขภาพใจให้กับบุคคล ครอบครัว และองค์กร


บริการของเรา

สำหรับบุคคลทั่วไป

  • บริการปรึกษา จิตแพทย์และนักจิตวิทยา : http://bit.ly/3lmThUa

  • คอร์สฝึกอบรม การเป็นนักจิตวิทยาให้คำปรึกษา : http://bit.ly/3RQfQwS

สำหรับองค์กร

โทร. 02-0268949 หรือ Line : @istrong

 

บทความแนะนำ :



อ้างอิง :

[1] Starfish Academy. (2564). Verbal Abuse ระวังความรุนแรงทางคำพูด สร้างแผลในใจลูกตลอดกาล. [ออนไลน์]. สืบค้นเมื่อ 27 มิถุนายน 2565 จาก https://www.starfishlabz.com

[2] พบแพทย์. (กันยายน 2564). Self Esteem การเห็นคุณค่าในตัวเองที่สร้างได้. [ออนไลน์]. สืบค้นเมื่อ 27 มิถุนายน 2565 จาก https://www.pobpad.com

 

ประวัติผู้เขียน : จันทมา ช่างสลัก บัณฑิตสาขาวิชาเอกจิตวิทยาคลินิก เกียรตินิยมอันดับ 2 จากรั้ว มช. และมหาบัณฑิตด้านการพัฒนาสังคม NIDA มีประสบการณ์ด้านจิตวิทยาเด็ก 4 ปี เป็นผู้ช่วยนักวิจัย ด้านจิตวิทยา 1 ปี ปัจจุบันเป็นนักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการ ที่มีประสบการณ์ในการนำศาสตร์จิตวิทยามาใช้ในการดูแลครอบครัว มากว่า 7 ปี อีกทั้งยังประยุกต์ใช้ศาสตร์ทางจิตวิทยาในการใช้ชีวิต และมีความสุข กับการเขียนบทความจิตวิทยา


facebook album post - square (1).png
1.พวกหลีกเลี่ยงความผูกพัน (2).png
บทความล่าสุด
bottom of page