

เหนื่อยเพราะงาน หรือเพราะความคาดหวังในใจ จิตวิทยาที่จะช่วยให้คุณหยุดกดดันตัวเองเกินไป
“งานก็ไม่หนักมาก แต่ทำไมใจมันเหนื่อยเหลือเกิน?” หลายคนมีช่วงเวลาที่ถามตัวเองแบบนี้ ทำงานตามหน้าที่ไม่ได้มีดราม่าในทีมไม่ได้ทะเลาะกับใครงานก็ไม่ได้ล้นจนรับไม่ไหว แต่ทำไมใจมันหนัก เหนื่อย อ่อนล้า แบบไม่มีเหตุผล?


ทำไมเราถึงไม่มั่นใจ ทั้งที่ทำได้ดี ค้นพบ Self-worth ที่ทำให้เกิดคุณค่าในตัวเรา
“ทำไมฉันยังไม่มั่นใจ ทั้งที่ทุกคนบอกว่าฉันเก่ง?” เคยสงสัยไหมว่า… ทำไมบางครั้งทำงานดี มีผลงาน มีคนชมแต่ในใจกลับไม่รู้สึกว่าตัวเอง “ดีพอ” ทำไมเวลาคนอื่นให้โอกาส เรากลับรู้สึกว่า“เขาคงให้เพราะยังไม่รู้ข้อบกพร่องของเรา” หรือแม้แต่ประโยคที่หลายคนพูดเหมือนกันอย่างน่าเหลือเชื่อ “ฉันทำได้…แต่ไม่รู้ทำไมฉันถึงไม่มั่นใจ”


ชีวิตเรากำลังไปทางไหน? เมื่อความหมายในงานเริ่มหาย และหาเป้าหมายในชีวิตไม่เจอ
หลายคนเรียกภาวะนี้ว่า Mid-career Void หรือ “หลุมอากาศกลางชีวิตการทำงาน” ไม่ถึงขั้น Burnout แต่ทำให้รู้สึกขาดแรงจูงใจอย่างบอกไม่ถูก และที่น่ากลัวคือ…ยิ่งเราพยายามไม่คิด ยิ่งรู้สึกเหมือนกำลังไหลไปเรื่อย ๆ แบบไม่มีทิศทาง


คนที่เรารัก อยากให้เราฟังมากกว่าแก้ปัญหา ทักษะการฟังด้วยใจ ที่ช่วยเยียวยาความสัมพันธ์
คำพูดหนึ่งที่คนมักบ่นเหมือนกันทั้งโลก แต่เราไม่ค่อยสังเกต “ทำไมเธอไม่ฟังฉันเลย” จะเป็นคู่รัก พ่อแม่ ลูก เพื่อนสนิท หรือแม้แต่เพื่อนร่วมงาน เรามักเผลอ “แก้ปัญหาให้เร็วที่สุด” เพราะคิดว่านั่นคือการช่วย


เราโตมาแบบไหน มีแนวโน้มใช้แบบนั้นที่งาน เพราะความสัมพันธ์ในครอบครัว คือรากฐานการสื่อสารและทำงาน
ทำไมครอบครัวจึงเป็นโรงเรียนสอนทักษะจิตวิทยาที่สำคัญที่สุดของคนวัยทำงาน เพราะในทุกวันเราทำงานกับผู้คนมากมาย หัวหน้า, ลูกน้อง, เพื่อนร่วมทีม, ลูกค้า แต่หลายครั้งความตึงเครียด ความไม่เข้าใจ และช่องว่างในการสื่อสารกลับไม่ได้เกิดจาก “งาน” อย่างเดียว แท้จริงแล้วมันเริ่มจากบางอย่างที่เราพกมาจากบ้านโดยไม่รู้ตัว


เป็น HR ที่ “เข้าใจเขา รู้ใจเรา” เรียนรู้จิตวิทยาที่ทำให้ HR เข้าใจพนักงานมากกว่าเดิม
ทำไม HR ยุคนี้ถึง “เข้าใจคนยากขึ้นกว่าเดิม” แม้ HR จะทำงานกับคนทุกวัน แต่กลับเป็นตำแหน่งที่ “โดนเข้าใจผิดมากที่สุด” เช่นกัน หลายองค์กรยังเห็น HR เป็น “ฝ่ายบริษัท” ไม่ใช่ “ฝ่ายคนทำงาน” และนั่นทำให้ “ความจริง” ของพนักงานแทบไม่เคยถูกส่งต่อไปถึงผู้บริหารอย่างถูกต้อง เพราะพนักงานไม่เปิดใจ ในองค์กรของคุณลองสำรวจดูว่าคุณเคยเจอเหตุการณ์เหล่านี้บ้างไหม?


หัวหน้าที่ตั้งใจฟัง จะได้พลังจากทีม จิตวิทยาการฟังที่เปลี่ยนพลังทีมเวิร์ค
หัวหน้าที่คิดว่าตัวเอง “ฟังแล้ว” แต่ลูกน้องกลับรู้สึกว่า “ไม่กล้าพูด” บางครั้งแค่สีหน้าเล็กน้อย หรือคำพูดอย่าง “สรุปมาเลยละกัน” ก็เพียงพอที่จะทำให้ลูกน้องปิดใจ


เข้าใจตัวเอง = เข้าใจคนอื่น เรียนรู้จิตวิทยาความเข้าใจที่จะช่วยให้อะไรง่ายขึ้น
เมื่อความเหนื่อยในงาน...ไม่ใช่แค่งานที่ทำ คุณเคยรู้สึกไหมว่า “งานมันไม่หนักเท่าใจ” เหนื่อยจากการต้องเข้าใจคน ต้องแปลอารมณ์จากน้ำเสียงและสีหน้า ต้องควบคุมความรู้สึกไม่ให้ปะทะกับใคร บางวันแค่ประชุมหนึ่งชั่วโมงก็หมดพลังชีวิตแล้วที่จริง “คน” ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เราเหนื่อย แต่เพราะแต่ละคนต่างมี “ความรู้สึก” ที่ไม่ได้พูดออกมา


พูดให้เป็น ฟังให้ลึกซึ้ง : ทักษะจิตวิทยาที่คนทำงานควรรู้
หลายคนคงคุ้นกับบทสนทนาแบบนี้ บทสนทนาจากคนใกล้ตัวที่ว่าคนใกล้ตัวระบายว่าเหนื่อย เครียด รู้สึกโดดเดี่ยว แล้วเราตอบไปว่า “สู้ ๆ นะ เดี๋ยวก็ผ่านไป” แต่ผลลัพธ์คือความเงียบ ความสัมพันธ์แข็งตัว และปัญหาเดิมยังอยู่ครบ ไม่ใช่เพราะเราไม่หวังดี แต่เพราะเรา “พูด” แบบให้กำลังใจเร็วเกินไป และอาจ “ฟัง” ไม่ลึกพอจะสัมผัสความรู้สึกจริงของเขาได้


HR ที่พนักงานไม่กล้าเข้าใกล้ จะเป็น “ที่พึ่งทางใจ” ได้อย่างไร
หลายองค์กรมักมีหัวหน้าที่เก่งมากในเชิงงาน วางแผนเก่ง แก้ปัญหาเฉียบขาด แต่สิ่งสำคัญอย่างนึงที่ขาดไปคือ “ทักษะด้านคน” ผลที่ตามมาคือทีมทำงานด้วยความกลัว ไม่ใช่ด้วยความสมัครใจ และนั่นอาจทำให้ประสิทธิภาพการทำงานและประสิทธิภาพขององค์กรลดลงในระยะยาวได้เลย
