top of page

Thunderbolts*: จะทำอย่างไรเมื่อคุณรู้สึกว่าชีวิตไม่มีจุดหมายอีกต่อไป?

iSTRONG Thunderbolts*: จะทำอย่างไรเมื่อคุณรู้สึกว่าชีวิตไม่มีจุดหมายอีกต่อไป?

“จะทำอย่างไรเมื่อคุณรู้สึกว่าชีวิตไม่มีจุดหมายอีกต่อไป?” เป็นคำถามที่เป็นโจทย์ใหญ่ในชีวิตของใครหลาย ๆ คน ตามทฤษฎีจิตวิทยาได้อธิบายว่า หากบุคคลไม่สามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับบุคคลอื่น หรือไม่สามารถทำสิ่งที่มีความหมายได้ อาจรู้สึกถึง Stagnation หรือความซบเซาของชีวิต ส่งผลให้รู้สึกว่า “ชีวิตไม่มีจุดหมาย”


ซึ่งสามารถนำไปสู่ภาวะที่เรียกว่า Existential vacuum หรือ “สุญญากาศทางการดำรงอยู่” โดยจะแสดงออกในรูปแบบของความเบื่อหน่าย ความรู้สึกว่างเปล่า ชีวิตไม่มีจุดหมาย จนนำไปสู่ภาวะ Dead inside หรือภาวะว่างเปล่าทางความรู้สึก แบบอยู่ก็ได้ ตายก็ดี ใช้ชีวิตไปวัน ๆ เพื่อรอวันสุดท้ายที่ไม่รู้ว่าเมื่อไรจะมาถึง


การใช้ชีวิตภายใต้คำถามที่ว่า “จะทำอย่างไรเมื่อคุณรู้สึกว่าชีวิตไม่มีจุดหมายอีกต่อไป?” ถูกแสดงออกมาให้เราเห็นอย่างเป็นรูปธรรมผ่านภาพยนตร์เรื่อง Thunderbolts*ภาพยนตร์ของเราฮีโร่ตกชั้น แต่ต้องมารวมตัวกันเพื่อเอาชีวิตรอดจากสถานการณ์บีบบังคับ จนกลายเป็นทีมฮีโร่ Underdog ที่แต่ละคนชีวิตไม่มีจุดหมาย ใช้ชีวิตไปวัน ๆ อย่างไร้ค่า


ไม่ว่าจะเป็น Yelena น้องสาวบุญธรรมของ Black Widow ที่หลังจากสูญเสียพี่สาว ก็เหมือนว่าชีวิตเธอสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง หรือ Bob ชายหนุ่มปริศนาที่มีปัญหาครอบครัว แม่ป่วยเป็นจิตเภท พ่อชอบใช้ความรุนแรง ส่วนตัวเองก็ติดยาเสพติด รวมไปถึง John Walker หรือกัปตันอเมริกันก๊อปเกรด A ที่หลังจากถูกปลดฟ้าฝ่าจากตำแหน่ง U.S. Agent ชีวิตก็เสียศูนย์


และ Ava Starr หรือที่รู้จักในนาม Ghost สาวผู้มีพลังหายตัวได้ ซึ่งเกิดจากการทดลองผิดพลาดของคุณพ่อของเธอ ที่ทำให้เธอต้องกลายเป็นเด็กกำพร้าที่ดันได้พลังวิเศษมา แต่ก็ถูกผู้ใหญ่ใจร้ายหลอกให้ทำเรื่องผิด ๆ จนเป็นตราบาปที่กัดกินจิตใจเธอเรื่อยมา


ถึงแม้ว่าในทีม Thunderbolts* จะยังพอมีคนที่ดูจะมีสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจอยู่บ้างอย่าง Bucky เพื่อนสนิทของกัปตันอเมริกัน ผู้ซึ่งพยายามหาที่ทางของตนเอง และพยายามหลุดพ้นจากตราบาปของการเป็น Winter Soldier ในอดีต และ Alexei หรือ Red Guardian คุณพ่อบุญธรรมของ Yelena ที่มุ่งหวังว่าสักวันจะกลับมายิ่งใหญ่ จะกลับมามีแสงในตัวเองอีกครั้ง


แต่ทั้ง Bucky และ Alexei ต่างก็ใช้ชีวิตแบบติดกับดักที่ว่า “ฉันดีไม่พอ” จนส่งผลให้ทั้งสองมักจะมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับผู้คนรอบข้าง เมื่อเหล่าคนว่างเปล่า เว้าแหว่ง กลวงโบ๋มารวมตัวกัน กลับกลายเป็นว่า ทั้ง 6 คนกลับเป็นส่วนที่ขาดที่มาเติมเต็มกันและกัน จนนำไปสู่คำตอบของคำถามที่ว่า “จะทำอย่างไรเมื่อคุณรู้สึกว่าชีวิตไม่มีจุดหมายอีกต่อไป?” ดังนี้


  1.  ฝึกสติและการยอมรับในสิ่งที่เป็น 

    สิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญทางจิตวิทยากล่าวว่าเป็นสิ่งที่ทำได้ยากที่สุด แต่สำคัญที่สุดในการรักษาแผลใจ คือ การยอมรับต่อปัญหาที่เกิด เหมือนที่เหล่า Thunderbolts* ได้สูญเสียจนเสียศูนย์ เมื่อเราสามารถยอมรับได้ว่าชีวิตมีการเปลี่ยนแปลง แล้วให้เราค่อย ๆ อยู่กับมันอย่างมีสติ อยู่กับปัจจุบันขณะ


    สำรวจสิ่งที่มีอยู่ และใช้ชีวิตโดยไม่ทำร้ายตนเองเพิ่ม รวมถึงตระหนักอยู่เสมอว่าชีวิตเรายังมีค่า ยังทำประโยชน์ต่อสวนรวมได้ เรายังมีชีวิตอยู่ เท่ากับเรายังมีโอกาสที่จะสร้างความสุขให้ตนเอง เราไม่สามารถย้อนเวลากลับไปแก้ไขอดีตได้ แต่เรายังมีปัจจุบันที่สามารถใช้อย่างคุ้มค่า เพื่อสร้างอนาคตที่ดีกว่าเดิมได้


  2. ค้นหาความหมายของชีวิต

    เหตุผลหลักที่ผู้คนรู้สึกว่าชีวิตไม่มีจุดหมาย เพราะเขาไม่เข้าใจความหมายของชีวิต มองไม่เห็นคุณค่าของการมีชีวิต ไม่รู้ว่าตัวเองอยู่เพื่ออะไร จึงกลายเป็นใช้ชีวิตไปวัน ๆ บางคนก็ใช้แบบไม่คำนึงถึงผลที่จะตามมาในอนาคต เพราะเขาไม่เห็นอนาคตของเขาเอง


    โดย Viktor Frankl ผู้เชี่ยวชาญทางจิตวิทยา เชื่อว่า ความทุกข์ของมนุษย์จะเบาลงได้ เมื่อเราค้นพบความหมายของมัน (Meaning) ดังนั้นเมื่อรู้สึกไร้จุดหมาย เราควรหันไปตั้งคำถามว่า “อะไรคือสิ่งที่ฉันให้คุณค่า” หรือ “อะไรคือสิ่งที่ทำให้ฉันมีค่า”


    ทั้งนี้ การค้นหาความหมายของชีวิตไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งยิ่งใหญ่ แต่อาจอยู่ในความสัมพันธ์ การทำงาน หรือการช่วยเหลือผู้อื่น ดังที่ชาวแก๊ง Thunderbolts* ตัดสินใจใช้พลังของตัวเองในการปกป้องชาวเมืองเมื่อเกิดภัย รวมถึงปกป้องกันและกันด้วยพลังกายน้อยนิด แต่พลังใจอันยิ่งใหญ่ จนโลกปลอดภัยได้อีกครั้ง


  3. มองหามุมบวกในชีวิต

    ตัวละครที่บอบช้ำทางจิตใจมากที่สุดในบรรดา Thunderbolts* ต้องยกให้ Bob ชายที่คิดว่าชีวิตไม่มีอะไรจะเสีย จึงเสี่ยงตายไปเป็นหนูทดลองให้โครงการ Sentry แต่ด้วยความไม่สมบูรณ์ทางจิตใจ จึงทำให้แทนที่โลกจะมีซุปเปอร์ฮีโร่คนใหม่ กลายเป็นได้สุดยอดตัวร้ายที่ใครก็เอาไม่ลงมาแทน


    แต่ถึงอย่างนั้น Bob ก็ยังพยายามที่จะใช้ชีวิต โดยการหามุมที่สงบที่สุดในจิตใจและตัดขาดจากโลกภายนอก ซึ่งวิธีการนี้กลับทำให้ปัญหามันกัดกร่อนจิตใจจนก่อให้เกิดโรคทางจิตเวชเรื้อรัง จึงทำให้เราเกิดคำถามว่า แล้ว “การมองบวก” ต้องเป็นแบบไหน


    ซึ่งผู้เชี่ยวชาญทางจิตวิทยาก็ได้แนะนำว่า ชีวิตที่ดี (Flourishing) คือ ชีวิตที่ได้รับการเติมเต็มความรู้สึก มีจุดหมายผ่านการมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่มีคุณค่า และการเป็นส่วนหนึ่งของบางสิ่งที่ใหญ่กว่าตนเอง เช่น ครอบครัว ชุมชน หรืออุดมการณ์ เหมือนที่ Thunderbolts* กลายเป็นครอบครัวใหม่ของ Bob ที่ทำให้ Bob เกิดอุดมการณ์ที่จะปกป้องโลก และเป็นคนที่ดีกว่าเดิมขึ้นมา


  4. สร้างความผูกพันกับบางคน หรือบางสิ่ง

    การสร้างความผูกพันกับบางคน หรือบางสิ่งค่อนข้างเป็นดาบสองคม ดังที่เกิดขึ้นกับ Yelena ที่เธอยึด Natasha Romanoff พี่สาวบุญธรรมของเธอเป็นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิต เมื่อมีพี่เธอพยายามเป็นคนที่ดีกว่าเดิม แต่เมื่อเธอเสียพี่ไปเธอจึงหมดสิ้นทุกอย่าง


    นั่นจึงทำให้ Yelena  ต้องสร้างความผูกพันใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม ผ่านการเป็น Thunderbolts* ที่มีบทบาทในการปกป้องโลก และเยียวยาจิตใจสมาชิกทีมไปพร้อมกัน ดังที่ Erik Erikson เจ้าพ่อทฤษฎีจิตวิทยาพัฒนาการ อธิบายไว้ว่า


    หากบุคคลไม่สามารถสร้างความผูกพันกับผู้อื่น หรือไม่มีความรู้สึกว่าตนได้ “ก่อเกิดสิ่งที่มีความหมาย” (Generativity) จะเกิดความรู้สึกว่างเปล่า ส่งผลให้ชีวิตเดียวดายและใช้ชีวิตอย่างไร้คุณค่า   


  5. ขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น

     แม้ว่าสมาชิกของ Thunderbolts* ต่างคนต่างแบกปัญหาหนักอึ้งไว้เต็มบ่า จนมันกดทับจิตใจ แต่ทุกคนก็ไม่เคยไปขอความช่วยเหลือจากใคร ปล่อยให้ความรู้สึกถูกทำร้ายแบบเรื้อรัง จนเกิดเป็นบุคลิกภาพต่อต้านสังคม (Antisocial Personality Disorder)


    จนเมื่อมารวมทีมเป็น Thunderbolts* โดยไม่ได้นัดหมาย การเป็นว่าคนบกพร่อง 6 คนมาแบ่งปันความเจ็บปวด มาแชร์ประสบการณ์โหดร้าย และได้เจอคนที่มีประสบการณ์ร่วมคล้าย ๆ กัน ได้เปิดใจพูดคุยกัน และกล้าที่จะยอมรับบาดแผลใจของตนเองและเพื่อนร่วมทีม จนเกิดเป็นประโยคที่แสนจะซึ้งใจว่า “เธอไม่ได้โดดเดี่ยว” 

เมื่อกลับมาพิจารณาคำถามที่ว่า “จะทำอย่างไรเมื่อคุณรู้สึกว่าชีวิตไม่มีจุดหมายอีกต่อไป?” โดยส่วนตัวมองว่าเป็นคำถามที่แสดงให้เห็นถึงความพยายามที่จะใช้ชีวิต แม้จะเกิดวิกฤตในการหาเป้าหมายชีวิตไม่เจอ


แต่ก็ยังพยายามแก้ไขปัญหาโดยการตั้งคำถามเพื่อให้ชีวิตไปต่อไปได้ ในนามของ iSTRONG ขอเป็นกำลังใจและส่งบทความจิตวิทยานี้เป็นตัวแทนในการเคียงข้างให้ผู้ที่กำลังค้นหาจุดหมายในชีวิต พบแสงสว่างและมีความสุขในการใช้ชีวิตต่อไปนะคะ

iSTRONG Mental Health

ผู้ดูแลสุขภาพใจให้กับบุคคล ครอบครัว และองค์กร


บริการของเรา

สำหรับบุคคลทั่วไป

  • บริการปรึกษา จิตแพทย์และนักจิตวิทยา : http://bit.ly/3lmThUa  

  • คอร์สฝึกอบรมทักษะด้านจิตวิทยา : http://bit.ly/3RQfQwS 

สำหรับองค์กร

โทร. 02-0268949 หรือ Line : @istrong

บทความแนะนำ

อ้างอิง

1. American Psychological Association. (2023).


2. Erikson, E. H. (1968).

Identity: Youth and crisis. W. W. Norton & Company.


3. Frankl, V. E. (1985).

Man’s search for meaning (Rev. ed.). Washington Square Press.


4. Hayes, S. C., Strosahl, K. D., & Wilson, K. G. (2012).

Acceptance and commitment therapy: The process and practice of mindful change (2nd ed.). Guilford Press.


5. Seligman, M. E. P. (2011).

Flourish: A visionary new understanding of happiness and well-being. Free Press.

ประวัติผู้เขียน

จันทมา ช่างสลัก บัณฑิตจิตวิทยาคลินิกจากรั้ว มช. และมหาบัณฑิตจาก NIDA ปัจจุบันเป็นคุณแม่ลูก 1 ผู้เป็นทาสแมว ที่มุ่งมั่นจะพัฒนาการเขียนบทความจิตวิทยาให้โดนใจผู้อ่าน และสร้างแรงกระเพื่อมทางสังคม ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกบนโลกใบนี้


iSTRONG ผู้ให้บริการด้านสุขภาพจิต Solutions ด้านสุขภาพจิต ให้คำปรึกษาโดยนักจิตวิทยา นักจิตบำบัด นักจิตวิทยาคลินิกที่มีใบรับรอง รวมถึงบทความจิตวิทยา

© 2016-2025 Actualiz Co.,Ltd. All rights reserved.

contact@istrong.co                     Call 02-0268949

  • Facebook Social Icon
  • YouTube Social  Icon
  • Instagram
  • Twitter
bottom of page