10 วิธีปลุกพลังใจ สร้างไฟในการทำงาน

เมื่อรู้ว่าถึงวันของการทำงานคุณผู้อ่านรู้สึกอย่างไรคะ ?

คุณเคยมั้ยคะที่พอถึงวันจันทร์ทีไรแล้วใจหายทุกที พอรู้ว่าจะต้องออกไปทำงาน อาการบิดขี้เกียจ จิตใจห่อเหี่ยวก็พุ่งขึ้นมา แต่พอใกล้วันศุกร์ทีไรกลับรู้สึกโล่งอย่างบอกไม่ถูก ตื่นเต้นดีใจราวกับว่าเป็นวันปลดปล่อยให้วิญญาณได้ออกจากร่าง อยากให้เราลองสังเกตตัวเองว่าเราเป็นแบบนี้ตลอดเวลาหรือไม่ หรือเรากลายเป็นคนที่ “ชอบวันศุกร์แต่เกลียดวันจันทร์” ไปแล้วจริง ๆ

หากจากที่กวางกล่าวมาข้างต้นเป็นสิ่งที่ตรงกันข้าม คุณผู้อ่านไม่ได้รู้สึกแบบนั้น แปลว่าคุณผู้อ่านก็คงเป็นคนที่มีไฟในการทำงานอยู่ค่ะ แต่ถ้าเป็นอย่างที่กล่าวมาข้างต้นก็อาจเป็นสัญญาณเตือนว่าคุณอาจอยู่ในภาวะหมดไฟในการทำงานหรือ Burnout ก็เป็นได้

ช่วงเวลาในการทำงานก็อาจจะมีช่วงที่เราอ่อนล้าไปบ้าง หรือในบางครั้งการที่มีวันหยุดติดต่อกันหลาย ๆ วัน อาจทำให้ความต่อเนื่องในการทำงานนั้นหายไป ซึ่งเป็นสาเหตุในการเกิดภาวะหมดไฟไปก็เป็นได้ค่ะ หรือการที่เราทำงานยาวนานติดต่อกันจนเกินไป ไม่มีเวลาพักผ่อนเลยนั้น อาจทำให้เราเสียสมดุลในชีวิตได้ อย่าให้เวลาในการทำงานมากจนเกินไป จนลืมใส่ใจชีวิตประจำวันนะคะ เราควรหาเวลาผ่อนคลายในแบบของเราบ้าง

วันนี้กวางมีวิธีปลุกพลังใจ เพื่อป้องกันไม่ให้เราตกอยู่ในสภาวะหมดไฟในการทำงาน

จากการได้ที่สรุปรวบรวมมาให้คุณผู้อ่านดังนี้ค่ะ

1. การตั้งเป้าหมายภาพรวมของชีวิต

เคยมีประโยคที่ว่า “หากเราไม่มีความฝัน ก็จะมีคนมาจ้างเราไปทำให้ฝันของเขาเป็นจริง” แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีประโยคที่ว่า “หากเราหางานที่รักเจอ ก็จะมีคนจ้างให้เรามีความสุข” เช่นกัน ดังนั้นคุณผู้อ่านก็คงต้องเลือกข้อที่สองอยู่แล้วจริงมั้ยคะ เราต้องรู้จักเป้าหมายในชีวิตของเราเองว่าเราต้องการอะไรในชีวิต แล้วคุณสมบัติใดบ้างจะทำให้เป้าหมายของเราเป็นจริง หากเรารู้แล้วเราก็จะมีแรงจูงใจในการทำหน้าที่ตรงหน้าให้ดี ด้วยความตั้งใจและความเอาใจใส่อยู่เสมอ เพราะอนาคตจะดีได้เราก็ต้องทำปัจจุบันให้ดีก่อน

2.ตั้งเป้าหมายในการทำงานทุกวัน

ทุกวันเราจะมีเรื่องที่เหมือนจะยุ่ง ๆ ทั้งวัน จนเราไม่รู้ว่าจะทำอะไรก่อนดี หากเราตั้งเป้าหมายเอาไว้ รวมถึงกิจวัตรประจำวันของเราแล้ว เราจะได้ทำทั้งงานและเรื่องส่วนตัวไปพร้อมกันอย่างลงตัว โดยการโฟกัสแต่เรื่องสำคัญของตัวเองจะเพิ่มประสิทธิ์ภาพในการทำงานเพิ่มขึ้นมากค่ะ

3.หาแรงบันดาลใจในการทำงาน

การที่เราจะทำงานให้บรรลุเป้าหมายได้นั้น ย่อมต้องอาศัยแรงบันดาลใจและทัศนคติที่ดี สิ่งนี้หาได้จากการที่เราอ่านหนังสือ ฟังคลิปดี ๆ คลิปสร้างแรงบันดาลใจ เพจที่ให้ความรู้และพูดคุยกับคนที่เราคุยด้วยแล้วรู้สึกดีและมีความรู้เพิ่มมากขึ้นค่ะ

4.จัดโต๊ะให้น่าทำงานอยู่เสมอ

การที่เราจะมีแรงจูงใจในการทำงานนั้น ส่วนหนึ่งมาจากบรรยากาศในการทำงาน โต๊ะทำงานก็เปรียบเสมือนบ้านของเราเอง หากดูสะอาดตาก็น่าอยู่และน่าทำงาน สร้างสรรค์ผลงานดี ๆ ดังนั้นควรเก็บทำความสะอาดอยู่เสมอ ของใช้อะไรที่ไม่ใช้แล้วก็ทิ้งไปได้เลยค่ะ

5. ให้คะแนนตัวเองในแต่ละวัน

การที่เราจะทำงานได้อย่างมีความสุขได้นั้น ก็คือการที่เรารู้สึกว่าเราได้พัฒนาขึ้นจากเดิม ซึ่งเราสามารถสังเกตและให้คะแนนตัวเราเองได้ อย่างที่คุณเอ๋ นิ้วกลมเคยกล่าวไว้ เราสามารถมีความรู้เพิ่มขึ้นจากการทำงานแต่ละอย่างเสมอ

6. ให้รางวัลเล็ก ๆ น้อย ๆ

การที่เราทำอะไรสำเร็จสักอย่าง แม้จะดูเล็กน้อย แต่การที่เราให้กำลังใจตัวเองได้ แปลว่าเราสามารถสร้างแรงจูงใจในการทำงานให้กับตัวเองได้ ดังนั้นการให้รางวัลตัวเองบ้างจะทำให้เรา สร้างความภูมิใจเล็ก ๆค่ะ

7. หาเวลาพักผ่อนหรือเที่ยวบ้าง

แม้ว่าคนเราจะขยันทำงานสักแค่ไหน เราก็ไม่สามารถทำงานได้ตลอดเวลาจริงมั้ยคะ ดังนั้นเราควรหาเวลาที่จะออกไปพักผ่อนหย่อนใจบ้าง จากนั้นก็เรียนรู้จากตัวเองว่า เรามีวิธีผ่อนคลายความสุขแบบไหน แบบไหนคือวิธีที่เราทำแล้วมีความสุขและผ่อนคลาย เพราะคนเรามีวิธีการไม่เหมือนกัน

8. รักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงเสมอ

สุขภาพร่างกายเป็นปัจจัยหลักสำคัญในการทำงานก็ว่าได้ ดังนั้นเราควรที่จะดูแลร่างกายของเราให้ดีนะคะ การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอนั้นสำคัญมาก

9. หางานอดิเรกทำบ้าง

จากการทุ่มทำงานหนัก การหางานอดิเรกทำช่วยให้เราผ่อนคลายได้มากเลยค่ะ ลองหางานอดิเรกที่คุณชอบทำดูนะคะ ที่สำคัญคืองานอดิเรกคือสิ่งที่อธิบายตัวตนของเราเองค่ะ

10. ฝึกเป็นคนที่ยิ้มและอารมณ์ดีอยู่เสมอ

การที่เรายิ้มและหัวเราะเป็นกระบวนทางร่างกายที่สร้างความสุขให้กับเราได้ทันที และทำให้สถานการณ์ที่ดูตึงเครียดนั้นผ่อนคลายขึ้นได้ค่ะ ดังนั้นยิ้มบ่อย ๆ นะคะ