8 วิธีทำลายความไว้วางใจกับคนรอบตัว

ความไว้วางใจเป็นพื้นฐานสำคัญของทุกความสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์กับครอบครัว เพื่อน คนรัก หรือเพื่อนร่วมงาน แต่การสร้างความไว้วางใจกับใครซักคนนั้นต้องใช้เวลา และบางครั้งก็ต้องทุ่มเททั้งเวลาและพลังของคุณให้กับใครซักคน
ในทางตรงกันข้าม การทำลายความไว้วางใจนั้นกลับใช้เวลาเพียงไม่นานและทำได้ไม่ยากเลย
บทความนี้จะมาพูดถึง 8 พฤติกรรมที่จะยิ่งทำลายความไว้วางใจที่ทำให้ความสัมพันธ์ของคุณกับใคร ๆ พังทลายลง เพื่อช่วยให้คุณได้ตระหนักและเพิ่มความระมัดระวัง หากคุณไม่อยากให้ความไว้วางใจกับคนที่คุณรักต้องสลายลง
1. โกหกหรือไม่พูดความจริง
หนึ่งในวิธีที่รวดเร็วที่สุดในการทำลายความไว้วางใจคือการโกหกหรือปิดบังความจริง เมื่อใดก็ตามที่คุณพูดไม่ตรงกับความเป็นจริงหรือพยายามซ่อนบางสิ่งบางอย่าง ผู้คนรอบตัวคุณจะเริ่มรู้สึกไม่สบายใจและสงสัยในคำพูดของคุณ ความจริงก็คือไม่มีใครชอบที่จะถูกหลอก หากคุณโกหกเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ บ่อยครั้ง หรือพยายามปกปิดความจริงเพราะกลัวผลกระทบในระยะสั้น มันจะนำไปสู่ปัญหาที่ใหญ่กว่ามากในอนาคต
ผลกระทบ: การโกหกอาจทำให้ผู้คนรู้สึกว่าไม่สามารถไว้ใจคุณได้อีกต่อไป แม้ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยก็ตาม เมื่อคนรอบข้างรู้สึกว่าคำพูดของคุณไม่น่าเชื่อถือ ความสัมพันธ์ก็จะเริ่มสั่นคลอนและสูญเสียไปในที่สุด
2. ไม่ทำตามสัญญา
การไม่รักษาสัญญาหรือทำสิ่งที่คุณบอกว่าจะทำเป็นอีกวิธีหนึ่งในการทำลายความไว้วางใจ หากคุณมักจะบอกว่าจะทำบางสิ่งแต่กลับไม่ทำ ผู้คนจะเริ่มสงสัยในความจริงใจและความน่าเชื่อถือของคุณ การผิดคำสัญญาไม่ใช่แค่การสร้างความผิดหวังเท่านั้น แต่ยังทำให้ผู้คนรู้สึกว่าพวกเขาไม่สำคัญสำหรับคุณพอที่จะทำให้คุณยึดมั่นในคำพูด
ผลกระทบ: การไม่ทำตามสัญญาจะทำให้ความเชื่อมั่นที่คนอื่นมีต่อคุณลดลง และทำให้คนรอบตัวรู้สึกว่าคุณไม่จริงใจในการกระทำของคุณ นี่เป็นจุดเริ่มต้นของการสูญเสียความไว้วางใจ
3. นินทาลับหลัง
การพูดลับหลังหรือนินทาเกี่ยวกับคนอื่นเป็นวิธีที่ทำให้ความสัมพันธ์แตกหักได้อย่างรวดเร็ว การทำเช่นนี้ไม่เพียงแต่ทำให้คนอื่นมองว่าคุณไม่จริงใจ แต่ยังทำให้พวกเขาไม่แน่ใจว่าคุณจะทำแบบเดียวกันกับเขาหรือไม่เมื่อเขาไม่อยู่ตรงนั้น
ผลกระทบ: การนินทาหรือพูดลับหลังทำให้ผู้คนรู้สึกไม่ปลอดภัยในการพูดคุยกับคุณ เพราะพวกเขาไม่รู้ว่าคุณจะนำเรื่องที่พูดไปเล่าให้คนอื่นฟังในทางใด การกระทำเช่นนี้สร้างความระแวงและความไม่ไว้วางใจในวงสังคมของคุณ
4. ละเมิดความเป็นส่วนตัว
ความเป็นส่วนตัวเป็นสิ่งที่สำคัญมากในทุกความสัมพันธ์ การเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของคนอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือการกระทำที่ละเมิดความเป็นส่วนตัวของพวกเขา เช่น การแอบอ่านข้อความ การเปิดดูสมุดบันทึก หรือการเปิดเผยเรื่องส่วนตัวกับคนอื่น โดยเฉพาะในเรื่องที่เขาไม่อยากให้เปิดเผย ล้วนเป็นสิ่งที่ทำลายความไว้วางใจโดยตรง
ผลกระทบ: เมื่อคนรอบตัวรู้สึกว่าความเป็นส่วนตัวของพวกเขาไม่ได้รับการเคารพ พวกเขาจะเริ่มห่างเหินและระวังตัวมากขึ้นเมื่ออยู่กับคุณ นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างความไม่พอใจและความอับอายให้กับผู้ที่ถูกละเมิด ทำให้ความสัมพันธ์ยิ่งแย่ลง
5. เห็นแก่ตัว
คนที่มุ่งเน้นแต่ตัวเองและให้ความสำคัญกับความต้องการของตนเองมากกว่าผู้อื่น มักทำให้คนรอบตัวรู้สึกว่าความสัมพันธ์นั้นไม่เท่าเทียมกัน หากคุณมักจะเอาแต่ได้โดยไม่ให้กลับคืน หรือแสดงออกถึงความเห็นแก่ตัว เช่น ไม่สนใจความคิดเห็นของคนอื่น หรือไม่คำนึงถึงความรู้สึกของพวกเขา ความไว้วางใจจะถูกทำลายลงเรื่อย ๆ
ผลกระทบ: การเห็นแก่ตัวทำให้คนอื่นรู้สึกว่าคุณไม่ใส่ใจในความต้องการและความรู้สึกของพวกเขา ซึ่งส่งผลให้ความสัมพันธ์นั้นเริ่มกลายเป็นภาระและเกิดความห่างเหิน
6. หาผลประโยชน์จากความสัมพันธ์
หากคุณเข้าหาคนรอบตัวเพื่อหวังผลประโยชน์ส่วนตัว เช่น การใช้คนอื่นเพื่อผลประโยชน์ทางการงาน การเงิน หรือสถานะทางสังคม คนอื่นจะเริ่มสังเกตเห็นถึงความไม่จริงใจในความสัมพันธ์ เมื่อพวกเขารู้สึกว่าคุณไม่ได้สนใจในตัวพวกเขาจริง ๆ แต่เพียงแค่ใช้พวกเขาเพื่อความได้เปรียบของตัวเองเท่านั้น ความไว้วางใจก็จะถูกทำลายลง
ผลกระทบ: เมื่อความจริงเผยออกมาว่าคุณเข้าหาคนอื่นเพียงเพื่อตัวเอง พวกเขาจะรู้สึกถูกหักหลังและไม่สามารถเชื่อใจคุณได้อีกต่อไป นี่เป็นการทำลายความสัมพันธ์ที่ยากจะกู้คืนกลับมาได้
7. ไม่ใส่ใจในความรู้สึกของผู้อื่น
การไม่ใส่ใจหรือไม่สนใจความรู้สึกของคนรอบตัว แสดงให้เห็นว่าคุณไม่ได้ให้คุณค่าหรือความสำคัญกับพวกเขา การทำเช่นนี้อาจเป็นการพูดจาในลักษณะที่ทำให้คนอื่นรู้สึกถูกละเลย หรือการกระทำที่ทำให้เขารู้สึกว่าคุณไม่ให้ความสำคัญกับความรู้สึกและความต้องการของพวกเขา
ผลกระทบ: การไม่สนใจในความรู้สึกของคนอื่นจะทำให้พวกเขารู้สึกเหงา โดดเดี่ยว และไม่เป็นที่ต้องการในความสัมพันธ์ ซึ่งทำให้ความไว้วางใจถูกทำลายลงเรื่อย ๆ
8. หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับปัญหา
หลายคนเลือกที่จะไม่เผชิญหน้ากับปัญหาโดยการเงียบ ไม่พูดคุย หรือหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง ซึ่งอาจทำให้ปัญหานั้นใหญ่ขึ้นและซับซ้อนมากขึ้น การหลีกเลี่ยงนี้แสดงให้เห็นว่าคุณไม่พร้อมที่จะแก้ไขปัญหาหรือทำความเข้าใจกับความรู้สึกของคนรอบตัว
ผลกระทบ: การหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับปัญหาส่งผลให้ความไว้วางใจถูกลดทอนลง เพราะคนรอบตัวจะรู้สึกว่าคุณไม่จริงใจในการแก้ไขปัญหาและการรักษาความสัมพันธ์ให้ดีขึ้น
การทำลายความไว้วางใจอาจเกิดขึ้นได้ง่ายกว่าการสร้างและรักษามันไว้ การกระทำเหล่านี้ทำให้ความสัมพันธ์มีความเสี่ยงและยากที่จะกู้คืนได้ ความไว้วางใจต้องการเวลา ความซื่อสัตย์ และความเข้าใจในกันและกัน การทำลายมันลงเพียงครั้งเดียวอาจทำให้ความสัมพันธ์ที่เคยมีค่าหมดไปอย่างสิ้นเชิง
ดังนั้น การรับรู้ถึงพฤติกรรมเหล่านี้และปรับเปลี่ยนการกระทำของตนเองให้ดีขึ้นเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ความสัมพันธ์กับคนรอบตัวเป็นไปในทางที่ดีและมีความไว้วางใจซึ่งกันและกัน
หากคุณกำลังเผชิญกับวิกฤตความไว้วางใจในความสัมพันธ์กับคนรัก การเข้ากระบวนการปรึกษาและบำบัดคู่รักจะช่วยให้ทั้งสองฝ่ายก้าวผ่านสถานการณ์เหล่านี้ไปได้ และค่อยๆ สร้างความไว้วางใจกันกลับคืนมา คุณสามารถดูรายละเอียดการบำบัดคู่รักได้ที่นี่
iSTRONG Mental Health
ผู้ดูแลสุขภาพใจให้กับบุคคล ครอบครัว และองค์กร
บริการของเรา
สำหรับบุคคลทั่วไป
บริการปรึกษา จิตแพทย์และนักจิตวิทยา : http://bit.ly/3lmThUa
คอร์สฝึกอบรมทักษะด้านจิตวิทยา : http://bit.ly/3RQfQwS
สำหรับองค์กร
EAP โปรแกรมสำหรับองค์กร : http://bit.ly/3RLI8Z8
โทร. 02-0268949 หรือ Line : @istrong