top of page

Adolescence เมื่อโลกออนไลน์กลายเป็นส่วนหนึ่งของจิตใจ : ผลกระทบของโซเชียลมีเดียต่อสุขภาพจิตของวัยรุ่น

iSTRONG Adolescence เมื่อโลกออนไลน์กลายเป็นส่วนหนึ่งของจิตใจ: 
ผลกระทบของโซเชียลมีเดียต่อสุขภาพจิตของวัยรุ่น

ในยุคสมัยที่โลกออนไลน์กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต จนหลายคนขาดการมีตัวตนในโลกออนไลน์ไม่ได้จนเกิดผลกระทบของโซเชียลมีเดียต่อสุขภาพจิต โดยเฉพาะในช่วงวัยรุ่น คืออายุ 13 – 19 ปี และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในวัยรุ่น Gen Z ที่เติบโตมาพร้อมการพัฒนาของเทคโนโลยีอย่างก้าวกระโดด รู้จักโซเชียลมีเดียก่อนจะพูดได้เสียอีก


จนทำให้การอยู่ในโลกออนไลน์ของวัยรุ่นมีความสำคัญมากพอ หรือมากกว่าโลกจริงที่เขาใช้ชีวิตเสียอีก อันนำมาซึ่งปัญหาวัยรุ่นติดโซเชียลมีเดีย เมื่อมาดูข้อมูลเชิงสถิติเกี่ยวกับการใช้งานโซเชียลมีเดียของวัยรุ่น Gen Z ในประเทศไทย พบว่า มีการใช้โซเชียลมีเดียในการค้นหาข้อมูลมากกว่าร้อยละ 55 โดยแพลตฟอร์มที่นิยมใช้ คือ Instagram, X (Twitter), Pinterest, TikTok, Twitch, Lemon8 และ Discord มีการใช้โซเชียลมีเดียเพื่อความบันเทิง มากกว่า 4 ชั่วโมงต่อวัน


โดยมากกว่าร้อยละ 96 ดูวิดีโอออนไลน์อย่างน้อย 1 ครั้งต่อเดือน และมากกว่าครึ่งใช้ TikTok แทน Google ในการค้นหาข้อมูลต่าง ๆ นอกจากนี้เมื่อสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับผลกระทบของโซเชียลมีเดียต่อสุขภาพจิตของวัยรุ่น Gen Z พบว่า ตามข้อมูลของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ปี 2567 วัยรุ่น Gen Z มีการใช้งานโซเชียลมีเดียโดยเฉลี่ยวันละ 12 ชั่วโมง 8 นาที


ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของทุกกลุ่มวัยที่อยู่ที่ 11 ชั่วโมง 25 นาที ​และมากกว่าร้อยละ 53 ระบุว่าการใช้โซเชียลมีเดียส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิต และร้อยละ 58 รู้สึกว่าโซเชียลมีเดียสร้างแรงกดดันและทำให้เกิดการเปรียบเทียบกับผู้อื่น ​ทั้งนี้ ร้อยละ 62 ให้ข้อมูลว่าตนเองเป็นวัยรุ่นติดโซเชียลมีเดีย เพราะยากต่อการเลิกเล่นโซเชียลมีเดีย


แน่นอนค่ะว่าปัญหาวัยรุ่นติดโซเชียลมีเดียไม่ได้เป็นปัญหาเฉพาะในประเทศไทย แต่เป็นปัญหาไปทั่วโลก Netflix ประเทศอังกฤษจึงได้สร้างซีรีส์สะท้อนสังคมในประเด็นผลกระทบของโซเชียลมีเดียต่อสุขภาพจิตของวัยรุ่นขึ้นมา นั่นก็คือซีรีส์ Adolescence ที่กำลังเป็นกระแสร้อนแรงในโลกออนไลน์อยู่ในขณะนี้ Adolescence เป็นซีรีส์สั้น ๆ จำนวน 4 EP เท่านั้น และถ่ายทำแบบ Long Take ยาว ๆ ทั้ง EP


โดย Adolescence เล่าเรื่องของ “เจมี่” ยุวอาชญากรอายุเพียง 13 ปี ที่ก่อเหตุรุนแรงกับ เคที่ เพื่อนสาวร่วมชั้นเรียน ซึ่ง Adolescence จะพาเราไปรู้จักกับกระบวนการดำเนินการกับยุวอาชญากรรมที่ค่อนข้างละเอียด การสำรวจจิตใจของเจมี่ ผ่านการประเมินของนักจิตวิทยา และความรู้สึกอันทุกข์ระทมของพ่อ และครอบครัวของเจมี่ ที่ร้าวรานไม่ต่างจากครอบครัวของเหยื่อ


Adolescence เป็นซีรีส์ที่ชวนให้เราตระหนักถึงผลกระทบของโซเชียลมีเดียต่อสุขภาพจิตของวัยรุ่น ทั้งในประเด็นวัยรุ่นติดโซเชียลมีเดีย การกลั่นแกล้งทางไซเบอร์ (Cyberbullying) และการกลัวตกกระแส หรือ FOMO (Fear of Missing Out) ซึ่งในบางประเด็นละเอียดอ่อน และยากที่ผู้ใหญ่อย่างเราจะทำความเข้าใจ เช่น ประเด็นอีโมจิที่เคที่พิมพ์ตอบเจมี่ใน Instagram ซึ่งทางตำรวจมองว่าเป็นการโต้ตอบกันปกติ


จนเมื่อ อดัม ลูกชายของสารวัตรทีมสืบสวนได้อธิบายให้พ่อเขาฟังว่า อิโมจิที่ผู้ใหญ่อย่างเรามองว่าธรรมดา ล้วนมีความหมาย และอิโมจิที่เคที่ใช้ในการโต้ตอบกับเจมี่นั้นเต็มไปด้วยความหมายในทางลบ ทั้งการดูถูก เหยียดหยาม จนนำไปสู่การก่อเหตุรุนแรงของเจมี่นั่นเอง


ด้วยความห่วงใยในสุขภาพจิตของเด็กและวัยรุ่น จึงขอนำเสนอข้อมูลทางจิตวิทยาเกี่ยวกับผลกระทบของโซเชียลมีเดียต่อสุขภาพจิตของวัยรุ่น ดังนี้ค่ะ


  1. การเกิดความเครียดและภาวะซึมเศร้า

    ผลการวิจัยทางจิตวิทยา พบว่า การใช้โซเชียลมีเดียอย่างหนักในกลุ่มวัยรุ่นมีความสัมพันธ์กับสุขภาพจิตในทางลบ และและความมั่นใจในตัวเองที่ลดลง โดยเฉพาะในเพศหญิง เนื่องจากการใช้โซเชียลมีเดียติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน จะส่งผลให้ผู้ใช้หมกมุ่นอยู่กับการตอบรับในโลกออนไลน์


    ไม่ว่าจะเป็น การตอบคอมเมนต์ หรือรอการกดไลก์ จนส่งผลกระทบต่อการทำกิจกรรมในโลกจริง ทั้งนี้งานวิจัยทางจิตวิทยา ยังพบอีกว่า วัยรุ่นที่ใช้โซเชียลมีเดียเกิน 3 ชั่วโมงต่อวัน มีความเสี่ยงสูงขึ้นต่อภาวะซึมเศร้าและวิตกกังวล


  2. การเกิดความผิดปกติในการนอนหลับ

    การใช้โซเชียลมีเดียก่อนนอนสามารถส่งผลต่อคุณภาพการนอนหลับของวัยรุ่น เนื่องจากร่างกายได้รับแสงสีฟ้าจากหน้าจอ ซึ่งรบกวนการผลิตฮอร์โมนเมลาโทนิน (Melatonin) ที่ช่วยให้หลับสบาย


    ส่งผลให้ระยะเวลาการนอนของวัยรุ่นติดโซเชียลมีเดีย สั้นลงและคุณภาพการนอนแย่ลง ​อีกทั้งยังเพิ่มระดับความเครียด ทำให้สมองอ่อนล้า และเพิ่มโอกาสเกิดภาวะซึมเศร้าได้


  3. การกลั่นแกล้งทางไซเบอร์ (Cyberbullying)

    การใช้โซเชียลมีเดียเป็นเวลานาน ๆ และบ่อยครั้ง มีความเกี่ยวข้องกับการถูกข่มเหงรังแกทางออนไลน์ ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพจิตของวัยรุ่น ​เนื่องจากวัยรุ่นที่ใช้โซเชียลมีเดียมีโอกาสถูกกลั่นแกล้งทางออนไลน์ เช่น ข้อความดูถูก การล้อเลียน หรือการเผยแพร่ข้อมูลเท็จ


    การตกเป็นเป้าหมายของการกลั่นแกล้งนี่เองที่สามารถนำไปสู่ภาวะซึมเศร้า ความเครียด ความวิตกกังวล เกิดความรู้สึกโดดเดี่ยว และหากพบการกลั่นแกล้งที่รุนแรง เช่น การแชร์ภาพลับ การเผยแพร่คลิปโป๊ ก็อาจนำไปสู่การทำร้ายตนเองได้ โดยมีงานวิจัยทางจิตวิทยา พบว่า วัยรุ่นที่ถูกกลั่นแกล้งทางไซเบอร์มีแนวโน้มมีภาวะซึมเศร้ามากกว่าวัยรุ่นที่ไม่เคยถูกกลั่นแกล้งมากถึง 2.3 เท่าเลยทีเดียว


  4. การสูญเสียภาพลักษณ์และมีความมั่นใจในตัวเองลดลง

    ​โดยปกติแล้ววัยรุ่น เป็นช่วงวัยที่กำลังค้นหาอัตลักษณ์แห่งตน จึงมักเปรียบเทียบชีวิตตนเองกับภาพลักษณ์ที่สมบูรณ์แบบในโซเชียลมีเดีย ซึ่งผ่านการปรับแต่งหรือเลือกนำเสนอแต่ด้านดีมาแล้ว การเปรียบเทียบกับคนที่ดูสมบูรณ์แบบในโลกออนไลน์นี้นี่เองที่ทำให้วัยรุ่นเกิดความรู้สึกว่าตนเอง "ไม่ดีพอ" หรือ "ด้อยกว่า"


    ส่งผลให้เกิด ความเครียด ความกดดัน และความพึงพอใจในตนเองที่ลดลง โดยงานวิจัยทางจิตวิทยา พบว่า วัยรุ่นหญิงที่ใช้โซเชียลมีเดียบ่อยครั้งมีแนวโน้มที่จะมีปัญหาเกี่ยวกับภาพลักษณ์ของตนเองและความพึงพอใจในรูปร่างของตนที่ลดลง


  5. การเสพติดโซเชียลมีเดีย

    พฤติกรรมเสพติดโซเชียลมีเดีย (Social Media Addiction) เป็นภาวะที่บุคคล ใช้โซเชียลมีเดียมากเกินไป และ ควบคุมการใช้งานไม่ได้ จนกระทบต่อชีวิตประจำวัน สุขภาพจิต และความสัมพันธ์ทางสังคม โดยวัยรุ่นติดโซเชียลมีเดีย สมองจะหลั่งสารโดปามีน (Dopamine) ออกมาขณะเข้าสู่โลกออนไลน์


    จนเสพติดความสุขเสมือนจริง จนมีอาการเหมือนผู้เสพสารเสพติด คือเมื่อขาดไปจะเกิดอาการ Withdrawal Symptoms ซึ่งภาษาบ้าน ๆ เรียกว่า “ลงแดง” ก็คือ จะหงุดหงิด อารมณ์ร้าย แต่เมื่อได้ใช้โซเชียลก็จะหมกมุ่น ติดอยู่ในโลกออนไลน์แบบถอนตัวไม่ขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อร่างกายและจิตใจ และเสี่ยงต่อการเกิดโรคซึมเศร้า ความเครียด สมาธิสั้น และไบโพลาร์ได้

  6. ความรู้สึกโดดเดี่ยว (Loneliness & FOMO)

    การใช้โซเชียลมีเดียจะทำให้วัยรุ่นเห็นว่าคนอื่นกำลังทำกิจกรรมที่สนุกสนาน ซึ่งอาจนำมาเปรียบเทียบกับชีวิตจริงของตนเองแล้วเกิดความรู้สึกกังวลว่าตนเองกำลังพลาดสิ่งสำคัญ หรือไม่เป็นส่วนหนึ่งของสังคม ซึ่งความรู้สึกนี้สามารถกระตุ้นให้เกิดความเครียด ความวิตกกังวล และภาวะซึมเศร้า


    หรือแม้กระทั่งความคิดทำร้ายตนเอง หรือรุนแรงขนาดฆ่าตัวตายได้เลยทีเดียว โดยงานวิจัยทางจิตวิทยา พบว่า การกลัวตกกระแส (FOMO) มีความสัมพันธ์กับภาวะซึมเศร้าและความไม่พอใจในชีวิตของวัยรุ่นในระดับสูง

จากข้อมูลข้างต้นจะเห็นว่าการใช้โซเชียลมีเดียเป็นส่วนสำคัญในชีวิตประจำวันของวัยรุ่น แต่การใช้งานโดยขาดสติและขาดการควบคุมอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพจิต พฤติกรรม และพัฒนาการทางสังคมของวัยรุ่นได้ เพราะฉะนั้นการใช้งานอย่างมีสติ (Mindful Social Media Use) จึงเป็นแนวทางที่ช่วยให้วัยรุ่นได้รับประโยชน์จากโซเชียลมีเดียโดยไม่ส่งผลกระทบด้านลบ และยังช่วยส่งเสริมสุขภาพจิตที่ดีได้

iSTRONG Mental Health

ผู้ดูแลสุขภาพใจให้กับบุคคล ครอบครัว และองค์กร


บริการของเรา

สำหรับบุคคลทั่วไป

  • บริการปรึกษา จิตแพทย์และนักจิตวิทยา : http://bit.ly/3lmThUa  

  • คอร์สฝึกอบรมทักษะด้านจิตวิทยา : http://bit.ly/3RQfQwS 

สำหรับองค์กร

โทร. 02-0268949 หรือ Line : @istrong

บทความที่เกี่ยวข้อง  

อ้างอิง: Dataxet. (2567). เจาะลึกพฤติกรรมดิจิทัลคนไทย 2024: Gen Z ฟินช้อปติ๊กต๊อก.


Elhai, J. D., Yang, H., McKay, D., & Montag, C. (2021).

Fear of missing out (FOMO): Psychometric network analysis and comparisons across multiple measures. Journal of Affective Disorders, 278, 1-9.


Kowalski, R. M., Giumetti, G. W., Schroeder, A. N., & Lattanner, M. R. (2019).

Bullying in the digital age: A critical review and meta-analysis of cyberbullying research among youth. Psychological Bulletin, 140(4), 1073-1137.


The 101 World. (2566).

The Anxious Generation: ผลกระทบของโซเชียลมีเดียต่อสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่น.


Twenge, J. M., Joiner, T. E., Rogers, M. L., & Martin, G. N. (2018). Increases in depressive symptoms, suicide-related outcomes, and suicide rates among U.S. adolescents after 2010 and links to increased new media screen time. Clinical Psychological Science, 6(1), 3-17.


สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2568).

รายงานภาวะสังคมไทยไตรมาสสี่และภาพรวม ปี 2567. สืบค้นจาก

ประวัติผู้เขียน

จันทมา ช่างสลัก บัณฑิตจิตวิทยาคลินิกจากรั้ว มช. และมหาบัณฑิตจาก NIDA ปัจจุบันเป็นคุณแม่ลูก 1 ผู้เป็นทาสแมว ที่มุ่งมั่นจะพัฒนาการเขียนบทความจิตวิทยาให้โดนใจผู้อ่าน และสร้างแรงกระเพื่อมทางสังคม ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกบนโลกใบนี้


iSTRONG ผู้ให้บริการด้านสุขภาพจิต Solutions ด้านสุขภาพจิต ให้คำปรึกษาโดยนักจิตวิทยา นักจิตบำบัด นักจิตวิทยาคลินิกที่มีใบรับรอง รวมถึงบทความจิตวิทยา

© 2016-2025 Actualiz Co.,Ltd. All rights reserved.

contact@istrong.co                     Call 02-0268949

  • Facebook Social Icon
  • YouTube Social  Icon
  • Instagram
  • Twitter
bottom of page