วิธีจัดการความรู้สึกกดดันในช่วง Lockdown เพราะ COVID-19
หลังจากที่มีการประกาศให้ทุกคนเข้าสู่โหมด Lockdown เพราะการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 คุณเป็นไหมคะ ที่รู้สึกมีแรงบันดาลใจที่จะทำอะไรหลาย ๆ อย่าง รู้สึกกระตือรือร้นที่จะใช้เวลาว่างในช่วง Lockdown นี้ให้เป็นประโยชน์ ยิ่งเวลาเห็นคนในโซเชียลแชร์ว่า วัน ๆ ทำอะไรไปบ้าง ยิ่งมีความรู้สึกต้องการทำอะไรเหมือนเขา และอาจจะได้เริ่มทำอะไรลงไปบ้าง โดยเฉพาะในช่วงแรก ๆ ของการ Lockdown แต่เมื่อผ่านไประยะหนึ่ง หลังจากที่ไม่ได้ออกไปไหนเป็นเวลาหลายสัปดาห์ จนกิจกรรมที่จะทำได้ในบ้านเริ่มลดลงหรือหมดลง มีเวลาว่างมากกว่าเดิม จนสุดท้าย เริ่มมีความรู้สึกกดดันว่าจะ ฉันต้องทำอะไร แต่ไม่มีอะไรให้ทำ หรือ รู้สึกว่าสิ่งที่ทำไปนั้นไม่ดีพอ ไร้ประโยชน์ คุณรู้สึกแบบนี้ไหมคะ
การแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 นี้สร้างความเปลี่ยนแปลงและส่งผลกระทบกับเราทุกคน มีหลายคนที่ติดเชื้อ มีอาการป่วย บางรายหาย บางรายถึงขั้นเสียชีวิต ส่วนผู้ที่ไม่ป่วย บางคนตกงาน หรือ รายได้ลดลง มีหลายคนที่ใช้ชีวิตอยู่ในความกลัว ความกังวล ว่าตัวเองอาจจะติดเชื้อ หรือ อาจจะโดนปลดจากองค์กร แต่ถึงแม้ว่าในขณะที่โลกรอบ ๆ ตัวเราดูเหมือนจะค่อย ๆ ดับลงอย่างช้า ๆ แต่สำหรับบางคน สิ่งที่เกิดขึ้นช่วยให้เขามองว่า มีเวลาและโอกาสในการที่สิ่งใหม่ ๆ ที่อาจจะไม่เคยทำมาก่อน หรือ มีคนที่มองเห็นความสุขกับอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ไม่เคยมองเห็นมาก่อนที่เชื้อ COVID-19 จะระบาด ความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างเช่น การออกไปวิ่งหน้าบ้าน (โดยที่ไม่เข้าใกล้ผู้อื่น) การจัดบ้าน หรือ การวีดีโอแชทกับคนที่เราไม่ค่อยได้เจอ กลายเป็นว่าเรามีโอกาสได้ทำอะไรที่เราอาจจะมองข้ามไปในก่อนช่วงโรคระบาดและทำให้เราได้สนุกและเพลิดเพลินไปกับมัน
แต่เมื่อได้ทำในสิ่งเหล่านี้ไปซักระยะหนึ่ง จนมันเริ่มซ้ำซาก และสิ่งที่เรา list ไว้ในช่วงแรกว่า “อยากทำ” กลายมาเป็นสิ่งที่รู้สึกว่าเรา “ต้องทำ” จึงก่อให้เกิดความกดดันในการดำเนินชีวิตในช่วง Lockdown นี้ เนื่องจากเรามีความคิดไว้แต่แรกว่า การ Lockdown คือช่วงเวลาที่เราจะได้เอาเวลาไปทำในสิ่งสำคัญ ทำอะไรที่สนุกและสร้างสรรค์ หลายคนอาจจะมีกิจกรรมที่คิดว่าจะทำไว้เป็นเรื่องเป็นราวในเมื่อได้อยู่แต่บ้านและมีเวลาเป็นส่วนตัวทั้งที เช่น ลงเรียนคอร์สออนไลน์ ทำงานศิลปะ เขียนหนังสือ จัดบ้าน เป็นต้น เพราะไม่อยากใช้ชีวิตไปวัน ๆ อย่างไร้ค่าหรือให้เสียเวลาไปโดยไร้ประโยชน์ จนเผลอมองข้ามบางสิ่งที่มาเปลี่ยน lifestyle หรือ การดำเนินชีวิตแบบเก่าของเราไปอย่างฉับพลัน ซึ่งก็คือ การสูญเสีย ที่ก่อให้เกิดความรู้สึกด้านลบต่าง ๆ ดังนั้นแล้ว เราควรจะรับมือกับความรู้สึกลักษณะนี้อย่างไร ทางเรามีคำแนะนำมาฝากค่ะ
1. “slow down”
ทางเราอยากแนะนำให้ทุกท่านได้ลอง “slow down” กับการดำเนินชีวิต เนื่องจาก ทางเราเชื่อว่า ก่อนที่เราจะผ่านพ้นวิกฤตอย่างการแพร่ระบาดของโรคและการ Lockdown ไปได้ เราจะต้องให้เวลาตัวเองทำความเคยชินกับการใช้ชีวิตแบบใหม่ และ ไว้ทุกข์ให้กับการใช้ชีวิตแบบเก่าก่อน เป็นการให้สมองเราได้มีการย่อยอารมณ์ความรู้สึกต่อสถานการณ์ที่เป็นอยู่ ก่อนที่เราจะสั่งให้ตัวเราเองไปทำกิจกรรมอะไร เหมือนกับที่กระเพาะอาหารต้องใช้เวลาในการย่อยอาหาร ก่อนที่เราจะลุกไปทำกิจกรรมหลังทานอาหาร เพราะแท้จริงแล้ว การที่ทุกคนต้องเข้าสู่โหมด Lockdown นั้นเป็นการสูญเสียอย่างหนึ่ง ไม่ว่าจะสูญเสียงานที่ทำเพราะตกงาน หรือ สูญเสียการออกจากบ้านไปทำงาน ทำกิจกรรม ไปสังสรรค์ ไปหาความสุข เราไม่ได้มีเวลาให้ตัวเองไว้ทุกข์กับการใช้ชีวิตแบบเดิมของเราที่สูญเสียไปเลย
2. เตือนตัวเอง
การอยากมีความคิดสร้างสรรค์หรือการอยากใช้เวลาให้เป็นประโยชน์นั้นไม่ใช่สิ่งที่ไม่ดีหรือเป็นสิ่งที่ผิด แต่อยากให้เราลองเตือนตัวเองในขณะที่เรากำลังทำกิจกรรมอะไรก็ตาม ว่า “ในการทำสิ่งนี้ เราไม่จำเป็นต้องทำให้ออกมาดีขนาดนั้นก็ได้นะ” โดยเฉพาะในคนที่ชอบทำอะไรเกินความคาดหวัง (Overachiever) เพื่อเป็นการลดความกดดันในการทำสิ่งนั้น ๆ
3. ปลอบตัวเอง
เนื่องจากว่าสังคมของเราไม่เคยเจอสถานการณ์ที่ตึงเครียดลักษณะนี้มาเป็นเวลาหลายรุ่นแล้ว ฉะนั้น ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยถ้าหากว่าเราจะรู้สึกว่าเรารับมือกับมันไม่เป็น หรือ ทำอะไรไม่สำเร็จตามความคาดหวังที่ตั้งไว้ในช่วงเริ่มต้น Lockdown ให้เราลองปลอบตัวเองดู โดยการนึกคำพูดในใจ อย่างเช่น “ไม่เป็นไรหรอกนะที่บางครั้งจะรู้สึกไม่โอเคบ้าง” ในวันที่เรารู้สึกตึงเครียดที่สุด เพื่อเป็นการลดความเครียด ความกดดันในการรับมือกับสถานการณ์
บางคนอาจจะรู้สึกเข้มแข็งและมีแรงบันดาลใจเป็นพิเศษในช่วง Lockdown อย่างต่อเนื่อง ถ้าหากคุณเป็นคนกลุ่มนี้ ทางเราก็อยากให้คุณเฉลิมฉลองความรู้สึกดี ๆ และดำรงชีวิตในช่วง Lockdown ต่อไปอย่างปลอดภัย แต่สำหรับคนอื่นหลาย ๆ คนที่อาจจะรู้สึกเฟล รู้สึกล้มเหลว และ รู้สึกไร้ค่า อันเนื่องมาจากความกดดันที่บอกเราว่าเราไม่สามารถใช้เวลาได้อย่างเป็นประโยชน์ ทางเราอยากย้ำอีกทีว่า ความรู้สึกแบบนี้ เป็นความรู้สึกที่ปกตินะคะ ไม่ว่าจะเป็นความทุกข์ รู้สึกว่าไม่รู้จะทำอย่างไรดี รู้สึกไม่เอาไหน รู้สึกว่าเรารับมือกับเหตุการณ์ไม่เก่งเท่าคนอื่น ลองให้ตัวเองได้ย่อยความรู้สึกเหล่านี้ เตือนตัวเอง ปลอบและให้อภัยตัวเองเมื่อทำอะไรไม่สมความคาดหวัง เพื่อที่จะลดความกดดันและจัดการกับความเครียดที่จะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน นอกจากนั้นแล้ว จะเป็นการช่วยให้เราปรับตัวกับการดำเนินชีวิตแบบใหม่ได้อย่างราบรื่นและเร็วขึ้นอีกด้วยค่ะ
หากว่าท่านใดต้องการความช่วยเหลือในด้านดูแลสุขภาพจิตในระหว่างช่วง Lockdown นี้ บริษัท iStrong มีผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตพร้อมดูแล สามารถติดต่อเราได้โดยการคลิกที่นี่ และอย่าลืมนะคะ ว่า ถ้าหากคุณกำลังรู้สึกกดดันเพราะสถานการณ์ที่ย่ำแย่ คุณไม่ได้คิดไปเอง แต่เป็นเพราะตอนนี้ทุกอย่างมันวุ่นวายจริง ๆ ค่ะ
สำหรับใครที่กำลังเครียด กังวล คิดมาก ทั้งเรื่องของปัญหา Burn Out จากการทำงาน ปัญหาความสัมพันธ์ต่างๆ ในครอบครัว คนรัก ไปจนถึงภาวะต่างๆ เช่น ซึมเศร้า ทุกปํญหาสำคัญและเป็นเรื่องใหญ่สำหรับเราเสมอ
iSTRONG ยินดีให้บริการ ปรึกษาด้านสุขภาพจิตโดยผู้เชี่ยวชาญ ทั้งจากจิตแพทย์และนักจิตวิทยา ดูรายละเอียดได้ที่นี่
iSTRONG Mental Health
ผู้ดูแลสุขภาพใจให้กับบุคคล ครอบครัว และองค์กร
บริการของเรา
สำหรับบุคคลทั่วไป
• บริการปรึกษา จิตแพทย์และนักจิตวิทยา : http://bit.ly/3lmThUa
• คอร์สฝึกอบรมทักษะด้านจิตวิทยา : http://bit.ly/3RQfQwS
สำหรับองค์กร
• EAP โปรแกรมสำหรับองค์กร : http://bit.ly/3RLI8Z8
โทร. 02-0268949 หรือ Line : @istrong
อ้างอิง : Haas, S.B. (2020). COVID-19: It’s OK to feel overwhelmed and be unproductive [Blog post]. Retrieved from https://www.psychologytoday.com/intl/blog/prescriptions-life/202003/covid-19-it-s-ok-feel-overwhelmed-and-be-unproductive
Comentarios