top of page
GDN 980 x 120 psychiatrist.jpg

4 เหตุผลทางจิตวิทยาที่ผู้ปกครองยกให้ Paper Planes เป็นหัวหน้าแก๊งฟันน้ำนมดีเด่น


จากกระแสเพลงฮิต “ทรงอย่างแบด” ที่เป็นกระแสในแก๊งฟันน้ำนมชนิดที่ว่าข้ามปีมาแล้วก็ยังไม่แผ่วเลย จนมาสู่กระแส “ทรงอย่างกู้ด” ของ 2 ศิลปินวง Paper Planes คุณฮาย - ธันวา เกตุสุวรรณ และคุณเซน - นครินทร์ ขุนภักดี ที่พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าทั้งสองท่านเป็น Good boy จนพ่อ แม่ และผู้ปกครองยกให้เป็นหัวหน้าแก๊งฟันน้ำนมดีเด่น แน่นอนค่ะว่าในช่วงเวลาที่ผ่านมามีเพลงดัง ๆ หลายเพลงที่เด็กน้อยวัยอนุบาลร้องกันจนเป็นเพลงฮิตในแก๊งฟันน้ำนม แต่ไม่ใช่ว่าศิลปินทุกคนที่จะเป็นที่ปลาบปลื้มของพ่อ แม่ ผู้ปกครอง แต่กับวง Paper Planes กลับเป็นศิลปิน No.1 ที่ผู้ปกครองวางใจ และยินดีจะพาลูก หลานไปชมการแสดงอย่างเต็มใจ


ซึ่งในบทความจิตวิทยานี้จะขอเปิดเหตุผลทางจิตวิทยาโดยอ้างอิงทฤษฎีต่าง ๆ ที่ทำให้วง Paper Planes สามารถเอาชนะใจผู้ปกครองได้ เพื่อเป็นประโยชน์ให้กับคุณครูได้ปรับใช้ในการสอน หรือศิลปินท่านอื่นนำไปปรับใช้เพื่อให้ชนะใจกลุ่มเป้าหมายก็ได้เช่นกันค่ะ มาอ่านกันเลย


1. มีความเป็นมิตรสูง

ถึงแม้ว่าสองหนุ่มวง Paper Planes จะมาในรูปลักษณ์ของหนุ่มพังค์ร็อค คือ ทาขอบตาเข้ม แต่งตัวด้วยสีโทนมืด และที่สำคัญ คือ มีรอยสัก ซึ่งทัศนคติของคนไทยกับรอยสักนั้นก็เป็นไปในทางลบแต่ไหนแต่ไรมา เพราะความเชื่อ การเรียนรู้ และการส่งต่อทัศนคติทางลบจากรุ่นสู่รุ่น แต่ทั้งคุณฮาย และคุณเซน ก็ได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่ามีความเป็นมิตรสูงมาก เด็ก ๆ สามารถเข้าถึงได้ง่าย มีหลายคลิปที่เราจะเห็นว่าเด็ก ๆ สามารถเข้าไปกอดทั้งสองท่านได้อย่างสนิทสนม พูดจากับเด็กอย่างนุ่นนวล สุภาพ แถมคลิปที่ดิฉันได้เห็นล่าสุดก็คือ มีเด็กน้อยวัย 2 ขวบร้องไห้งอแงขณะรอชมการแสดงของวง Paper Planes คุณฮาย นักร้องนำของวงเห็นเข้า จึงเดินเข้าไปปลอบใจจนเด็กน้อยหยุดร้องไห้ ซึ่งความเป็นมิตรสูงดังกล่าว ส่งผลให้พ่อ แม่ ผู้ปกครองรู้สึกวางใจที่จะให้ลูก หลาน เข้าหาศิลปิน และเต็มใจที่จะสนับสนุนให้ลูก หลาน ติดตามวงต่อไป


2. วาง Ego เอาไว้ แล้วใส่ใจกลุ่มเป้าหมายให้มาก

เมื่อทราบว่า FC หลักของวงไม่ใช่วัยรุ่น หรือวัยผู้ใหญ่ตอนต้นอย่างที่ตั้งเป้าหมายไว้แต่แรก แต่กลับเป็นแก๊งฟันน้ำนมวัยอนุบาลแทน ถ้าเป็นศิลปินวงอื่นตามที่เราเคยเห็นข่าว หรือรับทราบข่าวมา จะมีอัตตา หรือ Ego ในตนเองสูงจนไม่ยอมเปลี่ยนแปลงตนเอง ไม่ปรับรูปลักษณ์ และจะยังคงทำผลงานเพื่อเสนอกลุ่มเป้าหมายเดิม โดยไม่สนกลุ่มเป้าหมายหลักที่ถึงจะแม้ได้มาโดยไม่ตั้งใจ แต่พวกเขาก็เต็มใจและชื่นชมผลงานของศิลปิน แต่วง Paper Planes ได้ตระหนักถึงความสำคัญของเด็กน้อยซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมาย จึงมีการประชุมกับต้นสังกัดในการปรับเปลี่ยนรูปแบบการโชว์ ปรับช่วงเวลาในการแสดง ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์จนเสียความเป็นตัวตนของทั้งสองคนไป แต่ทั้งตัวศิลปินและต้นสังกัดก็ได้วาง Ego ของตนลงไปมาก เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น และเพื่อให้กลุ่มเป้าหมายสามารถเข้าถึงศิลปินได้มากขึ้นเช่นกัน


3. เข้าใจถึงพัฒนาการด้านร่างกายของกลุ่มเป้าหมาย

ในช่วงวัยอนุบาล เด็กเล็กจะมีพัฒนาการทางร่างกายรวดเร็วมาก ทั้งกล้ามเนื้อมัดใหญ่ กล้ามเนื้อมัดเล็ก รวมถึงต้องการการพักผ่อนอย่างเพียงพอเพื่อให้สมองหลั่งสาร Growth Hormone ซึ่งเป็นสารเคมีในสมองที่ทำให้ร่างกายเจริญเติบโต ด้วยความเข้าใจและห่วงใยกลุ่มเป้าหมายในส่วนนี้ Paper Planes จึงได้เปลี่ยนเวลาในการจัดแสดงจากช่วงกลางคืน เป็นกลางวัน เพื่อให้เด็กน้อย FC ทั้งหลายได้มาชมการแสดงและกลับไปหลับพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ ไม่ต้องอดหลับอดนอนมารอรับชมการแสดงในตอนกลางคืน ซึ่งจะรบกวนการทำงานของสมองเด็ก ๆ ได้


4. เข้าใจถึงพัฒนาการด้านสังคมของกลุ่มเป้าหมาย

ตามทฤษฎีจิตสังคมของ Erik Erikson (Erikson’s Theory of Psychosocial Development) ได้กล่าวว่าในช่วงวัยอนุบาล คือ 3 - 6 ปี เด็กจะมีพัฒนาการด้านสังคมที่สำคัญ คือ เด็กจะแสดงความเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น มีความสดใส ร่าเริง และมีการพัฒนาด้านสังคมที่รวดเร็ว ซึ่งจะแสดงออกมาในรูปแบบของความต่อต้าน ดื้อ ท้าทายอารมณ์ของผู้ปกครองพอดู เป็นช่วงที่เด็กกำลังค้นหาความสามารถของตนเอง ซึ่งวง Paper Planes ก็ได้เข้าใจถึงพัฒนาการในส่วนสังคมของแก๊งฟันน้ำนม จึงได้ทำตนเป็นต้นแบบที่ดี (Role Model) เมื่อออกหน้ากล้องจะพูดจาสุภาพมาก นุ่มนวล ใจดี ซึ่งสิ่งที่ทั้งสองหนุ่มได้ทำและเป็นที่ฮือฮาอย่างมาก ก็คือ การปล่อยคลิปสอนเด็ก ๆ ล้างจมูก ซึ่งไม่เคยเห็นศิลปินท่านไหนในประเทศไทยใส่ใจกลุ่มเป้าหมายขนาดนี้ (เว้นอาจารย์ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ซึ่งมิใช่ศิลปินแต่ก็ออกวิ่งจนมีคนวิ่งตามมากมาย) รวมถึงมีการชวนเด็ก ๆ ดื่ม (นม) หมดแก้วในการแสดงหนึ่งของวง นั่นแสดงให้เห็นว่า Paper Planes ตระหนักถึงอิทธิพลทางสังคม (การเป็นตัวแบบทางสังคม) ที่เขามีต่อกลุ่มเป้าหมาย คือ เด็ก ๆ อย่างมาก


นอกจากเหตุผลข้างต้นแล้ว เหตุผลจิตวิทยาที่สำคัญที่สุดในการเอาชนะใจกลุ่มเป้าหมาย ก็คือ “ความจริงใจ” ค่ะ ไม่ว่าคุณจะนำเทคนิคจิตวิทยาข้างต้นไปปรับใช้ในงานของคุณ ธุรกิจของคุณ หรือสร้างคอนเทนต์ให้ตนเองน่าสนใจมากขึ้นอย่างไร ก็ขอให้มีความจริงใจในทุกการกระทำ เมื่อคุณจริงใจ เมื่อทุกอย่างที่คุณทำออกมาจากใจ คนรอบข้างและกลุ่มเป้าหมายของคุณจะรับรู้ได้ และคุณจะไม่โดน “แหก” ในอนาคตแน่นอนค่ะ


สำหรับใครที่กำลังเครียด กังวล คิดมาก ทั้งเรื่องของปัญหา Burn Out จากการทำงาน ปัญหาความสัมพันธ์ต่างๆ ในครอบครัว คนรัก ไปจนถึงภาวะต่างๆ เช่น ซึมเศร้า ทุกปํญหาสำคัญและเป็นเรื่องใหญ่สำหรับเราเสมอ


iSTRONG ยินดีให้บริการ ปรึกษาด้านสุขภาพจิตโดยผู้เชี่ยวชาญ ทั้งจากจิตแพทย์และนักจิตวิทยา ดูรายละเอียดได้ที่นี่



 

iSTRONG Mental Health

ผู้ดูแลสุขภาพใจให้กับบุคคล ครอบครัว และองค์กร


บริการของเรา

สำหรับบุคคลทั่วไป

  • บริการปรึกษา จิตแพทย์และนักจิตวิทยา : http://bit.ly/3lmThUa

  • คอร์สฝึกอบรม การเป็นนักจิตวิทยาให้คำปรึกษา : http://bit.ly/3RQfQwS

สำหรับองค์กร

โทร. 02-0268949 หรือ Line : @istrong

 

บทความแนะนำ :

 

ประวัติผู้เขียน : จันทมา ช่างสลัก อดีตนักจิตวิทยาพัฒนาการเด็ก บัณฑิตจิตวิทยาคลินิก เกียรตินิยมอันดับ 2 จากรั้ว มช. และมหาบัณฑิตจาก NIDA ปัจจุบันเป็นคุณแม่ลูก 1 ผู้เป็นทาสแมว ที่มุ่งมั่นจะพัฒนาการเขียนบทความจิตวิทยาให้โดนใจผู้อ่าน และสร้างแรงกระเพื่อมทางสังคม ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกบนโลกใบนี้


facebook album post - square (1).png
1.พวกหลีกเลี่ยงความผูกพัน (2).png
บทความล่าสุด
bottom of page