top of page
GDN 980 x 120 psychiatrist.jpg

ความสุขอยู่ที่ไหน...ภาค 2


เมื่อตอนที่แล้วเราเล่ากันถึงว่าความสุขคืออะไรไปแล้ว ตอนนี้เราจะมาคุยกันจริงจังว่า แล้วความสุขนั้นมันอยู่ที่ไหนกันเล่า หลายคนคงเคยได้ยินว่า ความสุขอยู่ที่ใจ เหมือนๆจะง่ายเนอะ แต่ไม่ง่ายสำหรับผู้ที่ไม่รู้ชัดว่าใจคืออะไรต่างจากจิตหรือความคิดอย่างไร สั้นๆอีกครั้งค่ะ จิตคือความคิด ส่วนใจคือความรู้สึก และโดยส่วนใหญ่แล้ว ความคิดจะเป็นต้นกำเนิดของความรู้สึก...และเราจะมาใช้ความรู้สึกนำทางสู่ความสุขกัน โอเค? :-) แล้วยังไงต่อ... หากเพื่อนๆ "รู้สึก" ถึงความสุขและความทุกข์เป็นแล้ว ก็ไม่ยากที่จะเจอที่สถานที่ของความสุขแล้วล่ะค่ะ แต่ต้องยอมรับความจริงกันก่อนว่าก่อนเจอความสุข (ที่แท้จริง) มันมักจะเจอกับความทุกข์ก่อนเสมอ เหมือนพระท่านว่าไม่เห็นทุกข์ไม่เห็นธรรมนั่นเอง...เรื่องจริง เพราะอะไรล่ะหรือ เพราะความสุขมักทำให้เราเพลิดเพลินไปกับมันแบบว่าจบลงไปเมื่อไหร่ไม่รู้เนื้อรู้ตัว ในขณะที่ความทุกข์จะทำให้เราพยายามที่จะค้นคว้าหาทางออก ย้อนกลับไปที่วัยเด็ก หรือเอาง่ายๆเคยสังเกตุเห็นเด็กๆมั้ยคะ เด็กๆมักมีความสุขใสๆเพราะไม่คิดอะไรมาก สำคัญมากกว่านั้นคือเด็กๆมักใช้ชีวิตอยู่กับ "ปัจจุบัน" ความคิดโดยเฉพาะ ความคิดลบๆจะนำความทุกข์มาสู่เราเสมอ เหมือนในหนังสือ "The Present" อีกเล่มหนึ่งของนักเขียน Best Seller, Dr. Spencer Johnson คนเดียวกับที่เขียน Who Moved My Cheese? ได้เล่าและกล่าวไว้ว่า The Present is not The Past and it is not The Future. The Present is The Present Moment! The Present is Now! ปัจจุบันคือของขวัญแห่งกาลเวลา.... ใช่ค่ะ ความสุขที่แท้จริงก็คือ การอยู่กับปัจจุบันนั่นเอง!! กับที่นี่และเดี๋ยวนี้ ที่ๆอยู่ตรงหน้ากับคนที่อยู่ตรงหน้า ปราศจากความคิด! เหมือนๆจะง่ายใช่มั้ย แต่ไม่ง่ายสำหรับคนที่ไม่เคยฝึกหรือกระทั่งไม่เคยตระหนักเลย แต่ทุกอย่างเป็นไปได้แน่นอน...แค่ตระหนักรู้และฝึกฝน และสิ่งที่จะช่วยให้เริ่มต้นได้ง่ายๆคือหาเวลาอยู่เงียบๆคนเดียวลำพังบ้าง เราอยู่กับสิ่งอึกทึกครึกโครมมามากมายเหลือเกินไม่ว่าจะเป็นผู้คน สังคม โทรทัศน์ โทรศัพท์มือถือ เรารับรู้และได้ยินเสียงทุกสิ่งอย่างยกเว้นเสียงของตัวเองในณะปัจจุบัน นอกจากการที่ไม่เคยใช้เวลาอยู่ลำพัง ฟังเสียงและพูดคุยกับตัวเองแล้ว คนที่ห่างไกลจากความสุขนั้นโดยมากแล้วมักใช้เวลาคิดและรู้สึกจมอยู่กับอดีต และกังวลกับเรื่องในอนาคต จนลืมปัจจุบันขณะซึ่งเป็นเวลาของความสุขที่แท้จริง มีคำถามว่าแล้วถ้ารู้สึกว่าปัจจุบันนั้นเจ็บปวดล่ะ เช่นถูกแฟนทิ้งเป็นต้น เอาตรงๆนะจริงๆแล้วนั่นไม่ใช่ปัจจุบันแล้วนั่นคืออดีตที่เราถือมันติดตัวไปด้วยในปัจจุบันต่างหาก แต่วิธีที่จะทำให้เราผ่านพ้นความรู้สึกแย่นั้นๆไปได้ก็คือเราต้องเรียนรู้จากเหตุการณ์นั้นให้ได้ เพื่อที่จะทำให้เกิดสิ่งที่ดีขึ้นที่ต่างไปในอนาคตนั่นเอง ให้รู้ไว้เลยว่าหากเราไม่เรียนรู้กับสิ่งที่ผิดพลาดในอดีต เป็นการยากที่จะอยู่ในปัจจุบันอย่างรู้สึกมีความสุข เราเรียนรู้จากอดีตได้ มันจะนำเราไปสู่ปัจจุบันและอนาคตที่ดีกว่า สดใสกว่าเสมอ อีกทั้งมันก็ไม่เป็นการฉลาดเลยถ้าเราจะมัวเสียเวลาเสียความรู้สึกนึกคิดของเรากับการจมอยู่แต่กับอดีต Anytime You are Unhappy in The Present or Feeling Unsuccessful, it is The Time to Learn from The Past and Plan for The Future! แล้วถ้าเรียนรู้จากอดีตก็แล้ว แล้วก็ยังไม่มีความสุขอีกล่ะ แปลว่ามีปัจจัยอีกสิ่งหนึ่งที่นอกเหนือจากอดีตที่สามารถขโมยความสุขไปจากเราได้ก็คือการเฝ้าคิดถึงอนาคตนั่นเอง การได้มีการเตรียมการและวางแผนให้กับอนาคตจะสามารถอยู่กับปัจจุบันได้อย่างไม่กังวล แผนนั้นก็จะประกอบด้วยระยะสั้น กลาง และยาว ว่ากันไป สรุปง่ายๆ องค์ประกอบของความสุขนั้นคือ "อยู่กับปัจจุบัน เรียนรู้จากอดีต และวางแผนสำหรับอนาคต" Be In The Present Learn From The Past and Plan For The Future แต่ชีวิตมีอะไรมากกว่านี้ที่จะนำเราไปพบความสุข รวมทั้งความสำเร็จในเวลาเดียวกัน ตอนหน้าเราจะมาพูดถึงเรื่องนี้กัน จากประสปการณ์ตรงของผู้ที่เคยออกเดินทางตามหาความสุขเช่นกัน และบางช่วงบางตอนของหนังสือ "The Present" by Dr. Spencer Johnson ผู้แต่ง Who Moved My Cheese?

facebook album post - square (1).png
1.พวกหลีกเลี่ยงความผูกพัน (2).png
บทความล่าสุด
bottom of page