รับมือกับคืนที่นอนไม่หลับด้วย 5 Physiological Techniques
- iStrong team
- 3 days ago
- 2 min read
Updated: 1 day ago

“เฮ้อ! นอนไม่หลับอีกแล้ว...”
คุณเคยนอนกลิ้งไปมาเพราะความคิดวิ่งไม่หยุดไหม หลายคนประสบปัญหานอนไม่หลับแม้จะเหนื่อยล้าทั้งวันแล้ว แต่เมื่อถึงเวลาหลับกลับรู้สึกราวกับร่างกายยังตื่นอยู่เสมอ นี่คือสัญญาณว่า ระบบประสาทอัตโนมัติของคุณยังอยู่ในโหมด Sympathetic หรือโหมดสู้-หนี (Fight or Flight) ซึ่งเป็นโหมดที่ร่างกายยังคงตื่นตัวแม้คุณจะอยู่บนเตียงแล้วก็ตาม
ในบทความนี้ ผู้เขียนจะพาคุณรู้จักกับพลังของ Physiological Techniques หรือเทคนิคทางกายภาพที่ใช้ในแนวทางของ CBT (Cognitive Behavioral Therapy) ที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจากจิตแพทย์และนักจิตวิทยา เพื่อเปลี่ยนจากโหมด Sympathetic ไปสู่ โหมด Parasympathetic หรือโหมดพัก-ฟื้นฟู (Rest & Digest) อันเป็นเงื่อนไขสำคัญของการนอนหลับที่ลึกและมีคุณภาพ
เข้าใจพื้นฐานระบบประสาทอัตโนมัติ Autonomic Nervous System
ระบบประสาทอัตโนมัติ (Autonomic Nervous System: ANS) มี 2 ระบบหลักที่ทำงานคู่กัน คือ:
Sympathetic Nervous System (SNS)
ทำงานเมื่อคุณเครียด ตื่นเต้น กลัว หรือเผชิญภัยคุกคาม
หัวใจเต้นเร็ว กล้ามเนื้อตึง ระบบย่อยอาหารช้าลง
Parasympathetic Nervous System (PNS)
ทำงานเมื่อคุณรู้สึกสงบ ปลอดภัย ผ่อนคลาย
หัวใจเต้นช้าลง ลมหายใจลึก ระบบย่อยอาหารทำงานดี
การนอนไม่หลับส่วนใหญ่มักเกิดจาก SNS ยังคงตื่นตัวในช่วงกลางคืน ทำให้ร่างกายและจิตใจ ไม่ยอมเข้าสู่โหมดพักผ่อนนั่นเอง
เทคนิค Physiological Techniques เพื่อรับมือกับการนอนไม่หลับ
เทคนิคเหล่านี้ไม่ใช่การกล่อมให้หลับด้วยความคิดบวก แต่เป็น การเปลี่ยนแปลงระบบร่างกายจริงๆ ผ่านการควบคุมลมหายใจ ความรู้สึก และการเคลื่อนไหวอย่างมีสติ ซึ่งสามารถทำได้ด้วยตนเองทุกคืน
1. Body Scan Meditation
เทคนิคคลาสสิกของ CBT ที่ช่วยให้คุณลงมาอยู่กับร่างกายมากกว่าการติดอยู่ในหัว
วิธีทำ:
เอนกายลงบนเตียง หลับตา
เริ่มสังเกตจากปลายนิ้วเท้า ขยับเบา ๆ แล้วผ่อนคลาย
ค่อย ๆ ไต่ขึ้นมาทีละส่วนของร่างกาย: เท้า น่อง หัวเข่า สะโพก ไปจนถึงศีรษะ
ทุกจุดที่สังเกต ให้ใช้คำว่า “ปล่อย” หรือ “ผ่อนคลาย” ในใจ
ผลลัพธ์: สมองจะเปลี่ยนความสนใจจากความคิดไปสู่ร่างกาย และกระตุ้นระบบ Parasympathetic ให้ทำงานเด่นชัดขึ้น
2. 4-7-8 Breathing Technique
เทคนิคการหายใจลึกที่กระตุ้น Vagus nerve ซึ่งเชื่อมต่อกับระบบ Parasympathetic โดยตรง
วิธีทำ:
หายใจเข้า 4 วินาที
กลั้นหายใจ 7 วินาที
หายใจออกช้าๆ 8 วินาที
ทำซ้ำ 4-6 รอบ
ผลลัพธ์: อัตราการเต้นของหัวใจจะช้าลง กล้ามเนื้อผ่อนคลาย และรู้สึกปลอดภัยอย่างลึกซึ้ง
3. Progressive Muscle Relaxation (PMR)
เทคนิคคลายกล้ามเนื้อทีละส่วน ที่ใช้กันแพร่หลายใน CBT for Insomnia
วิธีทำ:
เริ่มจากปลายเท้า เกร็งกล้ามเนื้อ 5 วินาที แล้วคลาย
ต่อไป: น่อง > ต้นขา > หน้าท้อง > แขน > มือ > คอ > ใบหน้า
ให้สังเกตความแตกต่างระหว่างความเกร็งและความผ่อนคลาย
ผลลัพธ์: ช่วยให้สมองเรียนรู้ว่าร่างกายกำลังปลอดภัยและพร้อมเข้าสู่การนอน
4. Diaphragmatic Breathing (ลมหายใจแบบท้อง)
หายใจให้ท้องพอง ไม่ใช่แค่หน้าอกพอง เป็นการหายใจที่กระตุ้นระบบพักผ่อนของร่างกาย
วิธีทำ:
วางมือหนึ่งข้างที่หน้าอก อีกข้างที่ท้อง
หายใจเข้าให้มือที่วางบนท้องขยับ (หน้าอกไม่ควรขยับมาก)
หายใจออกยาวๆ อย่างสม่ำเสมอ
ผลลัพธ์: ระบบย่อยอาหารกลับมาทำงาน หัวใจเต้นช้าลง สมองรู้สึกสงบ
5. Mindful Touch หรือสัมผัสอย่างมีสติ
สัมผัสร่างกายตัวเองอย่างนุ่มนวล เช่น วางมือที่อกหรือหน้าท้อง แล้วรู้สึกถึงสัมผัสนั้น
วิธีทำ:
ใช้ฝ่ามือแตะบริเวณที่รู้สึกเครียด เช่น หัวใจ หรือไหล่
หายใจเข้าออก พร้อมคิดว่า “เราปลอดภัยแล้ว”
ไม่ตัดสินความรู้สึกใด ๆ แค่รับรู้และปล่อยให้มันผ่านไป
ผลลัพธ์: สร้างความรู้สึกปลอดภัยด้วยสัมผัส ซึ่งเป็นภาษาดั้งเดิมที่สมองรับรู้ก่อนภาษา
ทำไมเทคนิคเหล่านี้ถึงได้ผล
นักวิทยาศาสตร์พบว่า เทคนิคทางกายภาพเหล่านี้ช่วยให้
ลดระดับคอร์ติซอล (ฮอร์โมนเครียด) ในกระแสเลือด
เพิ่มระดับ GABA และเซโรโทนิน ซึ่งเป็นสารเคมีที่เกี่ยวข้องกับความสงบ
ส่งสัญญาณให้สมองเลิกเตรียมสู้ และเข้าสู่โหมดซ่อมแซม ซึ่งจำเป็นสำหรับการนอน
นอกจากนี้ ยังช่วยเปลี่ยนความสัมพันธ์ของเรากับการนอนไม่หลับ จากเดิมที่เราต่อสู้กับมัน มาเป็นยอมรับและดูแลตัวเองแทน
หากคุณรู้สึกหมดหวังกับการนอนไม่หลับ ไม่ว่าจะด้วยความเครียด วิตก หรือคิดไม่หยุด อย่าเพิ่งพึ่งแต่ยานอนหลับ เพราะร่างกายของคุณยังมีศักยภาพมหาศาลในการบำบัดตัวเอง ผ่านการกระตุ้นระบบ Parasympathetic อย่างตั้งใจและสม่ำเสมอ
เทคนิคทางกายภาพเหล่านี้ ไม่เพียงแค่ทำให้คุณหลับได้ในคืนนี้ แต่ยังสร้างความสัมพันธ์ใหม่กับตัวเอง ที่เต็มไปด้วยความเข้าใจ ความอ่อนโยน และการยอมรับ
คำแนะนำเรื่องการนอนจาก Bryan Johnson

Bryan Johnson คือผู้ประกอบการและนักลงทุนด้านเทคโนโลยีชื่อดัง ผู้ก่อตั้งบริษัท Kernel (เทคโนโลยีอ่านสมอง) และ Blueprint โครงการฟื้นฟูร่างกายให้กลับสู่วัยหนุ่มผ่านวิทยาศาสตร์เชิงลึก เขาเป็นที่รู้จักจากการลงทุนเงินกว่าร้อยล้านเหรียญสหรัฐในการดูแลสุขภาพแบบเข้มข้น ทั้งการนอน อาหาร ออกกำลังกาย และการวัดชีวภาพกว่า 100 ตัว
เพื่อชะลอวัยและยืดอายุขัย แนวทางของเขาโดดเด่นตรงที่ใช้ข้อมูลวัดผลได้จริง (data-driven) โดยมุ่งให้ร่างกายทำงานได้เหมือนตอนอายุ 18 ปี ล่าสุดเขาเป็นหนึ่งในบุคคลหลักในสารคดี Don’t Die ของ Netflix ที่สำรวจอนาคตของ Longevity และความเป็นอมตะทางชีวภาพ
Bryan Johnson มองว่า การนอนหลับคือทักษะที่ต้องฝึก การนอนต้องใช้ระบบไม่ใช่แค่โชคชะตา เขาเปรียบว่า การนอนไม่พอ เท่ากับการทำร้ายสมองเหมือนอาการสมองกระทบกระเทือน เขาเรียกการนอนว่าทรงพลังที่สุดในบรรดาสิ่งที่เป็นฟรีและง่ายสุดใน life‑extension blueprint ของเขา
แนวทางฝึกนอน (Blueprint Sleep Routine) ตามคำแนะนำของ Bryan Johnson
กินมื้อสุดท้ายอย่างน้อย 2 ชั่วโมงก่อนนอนเพื่อลดอัตราการเต้นของหัวใจขณะหลับ
เขากินมื้อเย็นตอน 11 น. แล้วเข้านอนตอน 20:30 น.
เหตุผลเพื่อให้ heart rate (HR) ลดต่ำก่อนนอน (เขาลงถึง 44 bpm ตัวบ่งชี้ว่า perfect night)
หากกินมื้อล่าช้า HR จะสูงขึ้น 10–15 bpm และลดคุณภาพการนอนถึง 30–40%
ตั้งเป้าหมุนเวลาในการกินและนอน
แนะนำ: ถ้านอนตอน 22:00 น. ควรกินให้เสร็จตอน 20:00 น.
ค่อย ๆ เลื่อนไปเรื่อย ๆ จะเห็นว่า HR ลดและคุณภาพนอนดีขึ้น
สังเกตและเพิ่มคุณภาพนอน
เป้าหมายของเขาคือนอนเฉลี่ย 8 ชั่วโมง 34 นาที
ใช้ wearable เช่น นาฬิกาหรือแหวน ติดตาม Rapid Eye Movement Sleep (REM) คือ ช่วงการนอนหลับช่วงหนึ่งที่ดวงตาจะเคลื่อนไหวไปมาอย่างรวดเร็ว แม้จะหลับตาอยู่ก็ตาม ช่วงนี้เป็นช่วงที่สมองจะทำงานใกล้เคียงกับตอนตื่น และเป็นช่วงที่เกิดความฝันได้มากที่สุด ~2 ชม. ส่วนการนอนหลับลึก (Deep sleep) หรือที่เรียกว่าการนอนหลับคลื่นช้า (Slow-wave sleep) ซึ่งเป็นช่วงที่ร่างกายและจิตใจได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ และเป็นช่วงที่ร่างกายซ่อมแซมและฟื้นฟูตัวเองมากที่สุด ~2 ชม. และตื่นระหว่างคืนไม่เกิน 0‑30 นาที
ฝึกนิสัยก่อนนอน (wind‑down ritual)
หลีกเลี่ยงหน้าจออย่างน้อย 1 ชั่วโมงก่อนนอน
จดสิ่งกังวลลงกระดาษ เลี่ยงปัญหาใหญ่ตอนดึก
ทำกิจกรรมผ่อนคลาย เช่น อ่านหนังสือ เดินเบา หายใจเข้าช้า เพื่อกระตุ้นระบบ PNS
หากคุณอยากเจาะลึกมากกว่านี้ ในหลักสูตรนักให้คำปรึกษาระดับ Professional Counseling: CBT จะมีการสอนการใช้เครื่องมือ เช่น CBT for Insomnia พร้อมทั้งฝึกเทคนิคเหล่านี้ในบริบทที่ปลอดภัยและได้รับการดูแลจากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้คุณสามารถนำเครื่องมือที่มีประสิทธิผลเหล่านี้ไปใช้ดูแลตัวเองและช่วยเหลือคนอื่นในฐานะนักให้คำปรึกษาได้ คุณสามารถเข้าไปดูรายละเอียดหลักสูตรได้ที่นี่
iSTRONG Mental Health
ผู้ดูแลสุขภาพใจให้กับบุคคล ครอบครัว และองค์กร
บริการของเรา
สำหรับบุคคลทั่วไป
บริการปรึกษา จิตแพทย์และนักจิตวิทยา : http://bit.ly/3lmThUa
คอร์สฝึกอบรมทักษะด้านจิตวิทยา : http://bit.ly/3RQfQwS
สำหรับองค์กร
EAP โปรแกรมสำหรับองค์กร : http://bit.ly/3RLI8Z8
โทร. 02-0268949 หรือ Line : @istrong