“ขี้เกียจ!!!” คือคำพูดติดปากของตัวละคนเจ้าไข่ขี้เกียจ หรือกุเดทามะ ที่มีคาแรกเตอร์โดดเด่น เป็นเอกลักษณ์จนสามารถครองใจใครหลาย ๆ คนได้

องค์กรโดยส่วนใหญ่ ล้วนมีเป้าหมายสำคัญเพื่อให้บรรลุผลกำไร หรือผลการดำเนินงาน โดยมักจะละเลยการให้ความสำคัญกับ “การสร้างองค์กรแห่งความสุข”

ตั้งแต่ช่วงการแพร่ระบาดของโรค Covid – 19 เป็นต้นมา การรักษาคนเก่งให้อยู่กับองค์กร เป็นโจทย์ที่ท้าทายของนักจิตวิทยาองค์กรอย่างมาก

“การสื่อสาร” เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อคนเรา เพราะเป็นสื่อกลางที่เราใช้ในการเข้าสังคม หรือการทำงาน ติดต่อกับผู้คน

“การออมเงิน” ก็เหมือนกับการทานผัก ที่ทุกคนรู้ว่าดี แต่ทำจริงได้ยากมาก ยิ่งในสภาวะเศรษฐกิจแบบในปัจจุบันที่หมุนเงินจนมือพันกันเพราะเงินตึงมือ

โลกปัจจุบันนี้ปฏิเสธไม่ได้เลยค่ะว่าเป็นยุคสมัยของคนที่เก่งและมั่นใจในตนเอง เพราะผู้คนเหล่านั้นประสบความสำเร็จเร็วมาก

เมื่อบทความจิตวิทยาก่อนหน้า เราได้พูดถึง 5 เหตุผลทางจิตวิทยา เพราะสาเหตุอะไรบางคนถึงได้นอกใจกันไปแล้ว ในบทความจิตวิทยานี้ จึงขอพามาคิดดี

หากคุณกำลังรู้สึกว่าตัวเองเริ่มมีความขี้เกียจจนไม่อยากทำอะไร หมดแรง หมดใจ หมดไฟในการจะทำงาน มามุงกันทางนี้ค่ะ เพราะในบทความจิตวิทยานี้

คุณเป็นอีกคนหนึ่งใช่ไหมคะ ที่พยายามลดน้ำหนักเท่าไรก็ไม่สำเร็จ ยิ่งลดน้ำหนักยิ่งหิว ยิ่งลดน้ำหนักยิ่งอยากทานอาหาร ถ้าใช่บทความจิตวิทยานี้

ปัจจุบันนี้ “ดิจิทัล” มีส่วนสำคัญอย่างมากในการดำเนินชีวิตของคนเรา ซึ่งทำให้ “ทักษะดิจิทัล” เป็นสิ่งจำเป็น โดย รศ.ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์