6 วิธีเสริมความ Strong ให้กับผู้ที่ต้องเสี่ยงภัย COVID-19 ไปทำงาน

ในขณะที่คนส่วนใหญ่ได้ Work from Home ตามมาตรการลดการแพร่เชื้อ COVID-19 ของรัฐบาล แต่ก็ยังมีคนอีกกลุ่มหนึ่ง ที่ยังต้องเดินทางออกจากบ้านเพื่อไปผจญภัยกับการเสี่ยงติดเชื้อ COVID-19 เช่น คุณหมอ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ นักจิตวิทยา ตำรวจ ข้าราชการ เป็นต้น ซึ่งบุคคลเหล่านี้ ก็จะเผชิญกับความเครียดในอีกรูปแบบหนึ่งที่แตกต่างไปจากคนที่ Work from Home นั่นก็คือ ในขณะที่คน Work from Home จะมีความเครียดจากการที่ต้องกักตัวอยู่บ้าน ไม่ได้พบปะผู้คน ไม่ได้ทำกิจกรรมอย่างที่คุ้นเคย แต่คนที่ยังต้องออกมาทำงานนอกบ้าน จะมีความเครียดเรื่องการติดเชื้อ COVID-19 การนำเชื้อไปฝากคนที่บ้าน ความเครียดจากการเดินทาง ความเครียดจากการทำงาน ซึ่งทุกความเครียดก็ส่งผลต่อสภาพจิตใจที่อาจอ่อนแอลงได้ ซึ่งดิฉันและนักจิตวิทยาแห่ง iSTRONG ทุกท่านก็มีความห่วงใยคุณผู้อ่านที่ยังต้องฝ่า COVID-19 ไปทำงาน จึงขอนำเสนอ “6 วิธีเสริมความ Strong ให้กับผู้ที่ต้องเสี่ยงภัย COVID-19 ไปทำงาน” มาให้อ่านกันค่ะ

บทความแนะนำ “5 ปัญหาสุขภาพจิตที่อาจเกิดได้ในระหว่าง Work from home และการกักกันตัวเอง”

1. หาข้อมูลเกี่ยวกับ COVID-19 ให้เพียงพอต่อการใช้ชีวิตนอกบ้าน

การใช้ชีวิตนอกบ้านให้ปลอดภัย ปลอดเชื้อในยุค COVID-19 ระบาด ก็ต้องยึดหลักของซุนวู ที่ว่า “รู้เขา รู้เรา” นั่นก็คือ รู้ว่าเจ้า COVID-19 ชอบอะไร แพ้อะไร เพื่อทำตัวไม่ให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อและต้องรู้ว่าสถานที่ไหนอยู่ในจุดเสี่ยงต่อการติดเชื้อ เราจะได้หลีกเลี่ยงไม่ไปบริเวณนั้น รวมถึงต้องติดตามความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ COVID-19 วันต่อวันด้วยว่า มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น หรือลดลงอย่างไร ผู้ติดเชื้ออยู่ในพื้นที่ใด มีอาชีพอะไร หรือมีพฤติกรรมเสี่ยงอะไร เพื่อป้องกันตัวเองไม่ให้เป็นผู้ติดเชื้อรายต่อไป ซึ่งคุณสามารถติดตามข้อมูลที่ว่าทั้งหมดได้จากเว็บไซด์ของกระทรวงสาธารณสุขที่ http://dmsic.moph.go.th/index/detail/8018 นะคะ

2. เตรียมอุปกรณ์ป้องกันตัวจาก COVID-19

การที่เราจะรบชนะในการศึก COVID-19 นั้น สิ่งที่ต้องมีพร้อม คือ อาวุธ ค่ะ ซึ่งอาวุธหลักที่เจ้าเชื้อไวรัส COVID-19 กลัว ได้แก่ หน้ากากอนามัยและเจลแอลกอฮอล์ล้างมือค่ะ ส่วนอาวุธเสริมก็มี ถุงมือยาง ทิชชู่เปียก และ face shields ค่ะ โดยอาวุธหลักเป็นสิ่งที่เราจำเป็นต้องมีและต้องใช้เสมอเวลาอยู่นอกบ้าน ส่วนเจ้าอาวุธเสริมนั้น ก็แล้วแต่กำลังทรัพย์และความสบายใจในการใช้งานของแต่ละท่านได้เลยค่ะ นอกจากหน้ากากอนามัยและเจลแอลกอฮอล์ล้างมือจะจำเป็นสำหรับผู้ที่ต้องทำงานนอกบ้านแล้ว ดิฉันคิดว่ายังจำเป็นสำหรับผู้ที่ Work from Home ร่วมบ้านกับสมาชิกที่ต้องทำงานนอกบ้าน ก็ต้องหมั่นล้างมือบ่อย ๆ ด้วยนะคะ ไม่ใช่ว่าเรารังเกียจเขา แต่เราป้องกันตัวเองไว้ก่อนดีกว่าค่ะ

บทความแนะนำ “4 วิธีลดความเครียดขณะอยู่บ้าน (คนเดียว) ช่วง COVID-19”

3. เตรียมตัวให้พร้อมเสี่ยงภัย COVID-19

เมื่อเราได้เตรียมความรู้และเตรียมอุปกรณ์พร้อมรบกับเชื้อ COVID-19 แล้ว สิ่งต่อไปที่นักจิตวิทยาแนะนำ ก็คือ การเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับเสี่ยงภัยติดเชื้อ COVID-19 ค่ะ วิธีการเตรียมตัวมีดังนี้

เริ่มจากทำจิตใจในแจ่มใส มองโลกในแง่ดีด้วยความหวังว่าเร็ววันเจ้าโรคนี้จะหมดไป แล้วเราก็จะกลับมาใช้ชีวิตปกติกันเสียที หรือมองมุมบวกจากสถานการณ์ปัจจุบัน ที่ถึงแม้ว่าเรายังคงต้องออกมาทำงานนอกบ้าน แต่รถก็ไม่ติด แถมฝุ่นควัน PM 2.5 ก็ลดน้อยลงไปอีก
กินอาหารที่สุก สะอาด ถูกหลักโภชนาการ เข้าทำนองว่า “กินร้อน ช้อนใครช้อนมัน” เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วน และที่สำคัญ “อาหารอร่อยจะช่วยเยียวยาทุกสิ่ง” ค่ะ
ออกกำลังกายในบ้าน อย่างน้อย 20 - 60 นาที/ครั้ง อย่างน้อย สัปดาห์ละ 3 ครั้ง
รักษาความสะอาดของร่างกายอยู่เสมอ รวมถึงดูแลความสะอาดของเสื้อผ้า และของใช้ที่นำออกนอกบ้านทุกครั้งเมื่อกลับเข้าบ้าน

เมื่อเตรียมความพร้อมครบทั้ง 4 ข้อแล้วก็ไปลุยกันเลยค่ะ

4. ใช้ชีวิตอย่างมีสติ

ดิฉันเชื่อแน่ค่ะว่าคุณผู้อ่านมีสติในการใช้ชีวิตกันอยู่แล้วละ แต่ในสถานการณ์เช่นนี้ นักจิตวิทยาเน้นย้ำเลยค่ะว่า “เราต้องมีสติในการใช้ชีวิตเพิ่มขึ้นไปอีก” โดยมีวิธีการ ดังนี้ค่ะ

1. สังเกตผู้ที่อยู่ข้างเคียงว่าเขาได้ใส่หน้ากากป้องกันตัวเองหรือเปล่า ไอ จาม หรือมีพฤติกรรมเสี่ยงที่จะแพร่เชื้อใด ๆ ก็ตามใส่เราหรือเปล่า เพราะถึงแม้ว่าเราจะรับผิดชอบต่อตัวเองก็จริง แต่ก็ยังมีคนประเภทที่ไม่รับผิดชอบอะไรเลยอยู่มากพอสมควรทีเดียวค่ะ

2. ติดตามข่าวสารเรื่องสถานที่เสี่ยง เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ไปในสถานที่นั้น หรือวางแผนการเดินทางให้ปลอดภัยจากเชื้อ COVID-19 มากที่สุด

3. จดจำสถานที่ที่ไปมาในแต่ละวัน เพื่อที่จะเช็กเมื่อมีข่าวว่าผู้ป่วย COVID-19 ไปสถานที่ใดมาบ้าง จะได้เช็คได้ว่า ตรงกันกับที่เราไปมาหรือเปล่า

4. จดจำผู้คนที่ติดต่อด้วย เพื่อเช็คว่าเขาเป็นผู้ติดเชื้อในภายหลังแล้วหรือยัง

5. รู้วิธีการขอความช่วยเหลือหรือคำแนะนำเกี่ยวกับ COVID-19 เพื่อสำหรับเมื่อพบผู้ที่น่าสงสัยว่าติดเชื้อ หรือพบผู้ป่วยฉุกเฉิน หรือต้องการขอข้อมูลด่วน จะได้ทำได้โดยทันที ซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุขก็ได้มีสายด่วนเพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับ COVID-19 โดยเฉพาะ ที่เบอร์ 1422 ค่ะ

5. แสดงความรักกับคนในครอบครัวในขณะที่มีโอกาส

อาการของผู้ติดเชื้อ COVID-19 ที่คนทั้งโลกกลัวกัน ก็เพราะทำให้ปอดอักเสบ และระบบการหายใจล้มเหลว ซึ่งเป็นอาการที่ทรมานคนป่วยมากค่ะ แต่โชคยังดีที่น้อยคนหนักจะป่วยหนักถึงขั้นนั้น แต่ต่อให้เราติดเชื้อ COVID-19 แบบไม่แสดงอาการอะไรเลยก็น่ากลัวอยู่ดี เพราะทำให้เราต้องถูกกักตัวเดี่ยวแยกออกจากคนที่เรารักถึง 14 วัน หรือนานกว่านั้นถ้าเชื้อยังไม่หายไป สำหรับคนโสดคงเข้าโหมดชิล แต่สำหรับคนที่มีลูกเล็กอย่างดิฉัน แค่คิดก็ปวดใจแล้วค่ะ แล้วถ้านำเชื้อไปติดลูกที่อายุยังไม่ถึง 3 ขวบดีด้วย ลูกก็ต้องถูกแยกเหมือนกัน คงกลัวน่าดูที่ต้องอยู่กับคนแปลกหน้า ใส่ชุดประหลาด ๆ ไม่ได้เจอแม่เจอพ่อถึง 14 วัน ดังนั้นแล้ว เพราะเราไม่รู้อนาคต และไม่รู้ชะตากรรมของเรา หากยังมีโอกาสได้อยู่ด้วยกันแบบสบายดี กอดกันไปเถอะค่ะ แสดงความรักให้อีกฝ่ายรับรู้ได้มากเท่าไหร่ยิ่งดีเลย ดีกว่าวันหนึ่ง เกิดอะไรกับเราขึ้นมาแล้วแสดงความรักไม่ได้ จะมาเสียดายทีหลังนะคะ

6. หาวิธีกำจัดความเครียด

ว่าด้วยเรื่องของความเครียด หากมีน้อยไป ก็ทำให้เราประสาท หากมีพอประมาณก็ทำให้เราตื่นตัว คอยป้องกันตัวเอง แต่ถ้ามีมาก ๆ อาการโรคเครียดจะถามหาเอานะคะ เพราะฉะนั้น ถ้าคุณออกไปทำงานนนอกบ้านแล้วเครียด หรือ Work from Home แล้วเครียด ขอให้หาที่ระบายนะคะ การที่เราได้เล่าเรื่องทุกข์ใจให้ใครซักคนฟัง สามารถช่วยแบ่งเบาทุกข์นั้นให้จางลงได้เยอะเชียวค่ะ แต่ถ้าคุณนึกไม่ออกว่าควรจะคุยกับใคร ขอให้นึกถึงนักจิตวิทยานะคะ อย่างที่บริษัท iSTRONG ของเรามีนักจิตวิทยาและผู้เชี่ยวชาญทางจิตวิทยาที่พร้อมจะดูแลและรับฟังคุณอยู่เสมอนะคะ

ไม่ว่าคุณจะต้องพบเจอกับการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ก็ตามที่เป็นผลมาจาก COVID-19 ขอให้อดทนและพยายามปรับตัวนะคะ เหมือนที่ทฤษฎีของชาร์ลส์ ดาร์วิน บอกไว้ว่า “ผู้ที่ปรับตัวได้ก่อนคือผู้อยู่รอด” ดิฉันหวังว่า 6 วิธีที่แนะนำไปข้างต้น จะช่วยให้คุณผู้อ่านสามารถปรับตัวในสถานการณ์เช่นนี้ได้ และเราจะรอดไปด้วยกันนะคะ

สำหรับใครที่กำลังเครียด กังวล คิดมาก ทั้งเรื่องของปัญหา Burn Out จากการทำงาน ปัญหาความสัมพันธ์ต่างๆ ในครอบครัว คนรัก ไปจนถึงภาวะต่างๆ เช่น ซึมเศร้า ทุกปํญหาสำคัญและเป็นเรื่องใหญ่สำหรับเราเสมอ

iSTRONG ยินดีให้บริการ ปรึกษาด้านสุขภาพจิตโดยผู้เชี่ยวชาญ ทั้งจากจิตแพทย์และนักจิตวิทยา ดูรายละเอียดได้ที่นี่