อยากเอาชนะ AI ต้องพัฒนา 7 ทักษะที่คนวัยทำงานควรพัฒนาตนเองในปี 2025
- Chanthama Changsalak
- Jul 9
- 2 min read

จากข้อมูลแนวโน้มการพัฒนา AI ในปี 2025 พบว่าการเอาชนะ AI นั้นยากมากขึ้น เพราะ AI มีแนวโน้มพัฒนาไปในทิศทางที่สามารถทำงานแทนมนุษย์ในหลายด้าน โดยมีด้านที่สำคัญ ได้แก่
Agentic AI
AI เลขานุการ ที่สามารถตอบอีเมล จัดตารางงาน หรือให้ข้อมูลเชิงลึก โดยไม่ต้องมีคำสั่งจากมนุษย์ เช่น OpenAI’s ChatGPT Plugins, Replika AI เป็นต้น
Human-Machine Synergy
AI ที่ช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลและสนับสนุนการตัดสินใจร่วมกับมนุษย์ ทำให้กระบวนการทำงานของมนุษย์มีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น IBM Watson Health, SAP AI, Tesla Autopilot เป็นต้น
AI Governance Platform
เป็นการพัฒนาแพลตฟอร์มสำหรับกำกับดูแลการใช้งาน AI เพื่อให้การใช้งานเป็นไปอย่างมีจริยธรรมและปลอดภัย เช่น IBM AI OpenScale, Microsoft Responsible AI Dashboard, Google AI Principles & What-If Tool เป็นต้น
การสร้างสรรค์วิดีโอด้วย AI
โดยในปี 2025 นั้น AI จะสามารถสร้างวิดีโอจากคำสั่งของผู้ใช้ได้อย่างรวดเร็วและมีคุณภาพสูง ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงกระบวนการผลิตสื่อในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ไปอย่างสิ้นเชิง เช่น Pictory, Kaiber, D-ID เป็นต้น
การใช้ Voice AI Assistant เพิ่มมากขึ้น
AI ผู้ช่วยเสียงจะถูกพัฒนาให้สามารถสนทนากับมนุษย์ได้อย่างเป็นธรรมชาติและตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้ได้ดียิ่งขึ้น เช่น Amazon Alexa, Google Assistant, Apple Siri เป็นต้น
การเปลี่ยนแปลงในธุรกิจและเศรษฐกิจ
AI จะมีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างธุรกิจและสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ โดยองค์กรที่มีการนำ AI มาใช้ในการเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน เช่น HubSpot และ Salesforce Einstein ใช้ AI ในการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคและปรับกลยุทธ์การตลาด เป็นต้น
จากข้อมูลข้างต้น แสดงให้เห็นว่า หากผู้ที่ทำงานในสายอาชีพต่าง ๆ ต้อการเอาชนะ AI ผู้เชี่ยวชาญทางเทคโนโลยีและผู้เชี่ยวชาญทางจิตวิทยาองค์กรจึงได้แนะนำว่าเราต้องพัฒนา 7 ทักษะคนวัยทำงาน ดังนี้ค่ะ
ทักษะด้านเทคโนโลยี (Technical Skills)
ทักษะคนวัยทำงานแรกที่ผู้เชี่ยวชาญทางจิตวิทยาองค์กรแนะนำในการเอาชนะ AI คือ ทักษะด้านเทคโนโลยี ประกอบด้วย
(1) ความเข้าใจเรื่องปัญญาประดิษฐ์และการเรียนรู้ของเครื่อง (AI & Machine Learning) เพื่อนำมาใช้งานในธุรกิจ เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลอัตโนมัติ หรือ การสร้างแชทบอท เป็นต้น
(2) การพัฒนาการจัดการข้อมูลและการวิเคราะห์ (Data Analytics) ไม่ว่าจะเป็นทักษะการรวบรวม วิเคราะห์ และแปลความข้อมูล เพื่อช่วยในการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ได้อย่างมีปะสิทธิภาพ และ
(3) ความเข้าใจในระบบความปลอดภัยไซเบอร์ (Cybersecurity) เนื่องจากความปลอดภัยของข้อมูลกลายเป็นเรื่องสำคัญในยุคดิจิทัล การพัฒนาความเข้าใจในระบบความปลอดภัยไซเบอร์จึงเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับการนำ AI มาใช้ในการทำงานให้มีประสิทธิภาพ ภายใต้กรอบจริยธรรมในการทำงาน
ทักษะด้านดิจิทัล (Digital Literacy)
ทักษะด้านดิจิทัล ประกอบด้วย
(1) การใช้เครื่องมือดิจิทัล (Digital Tools) เช่น Microsoft Teams, Slack, Notion หรือแพลตฟอร์มการทำงานร่วมกันอื่น ๆ เพื่อสนับสนุนการทำงานให้สำเร็จได้ตามเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ
(2) การสร้างเนื้อหาดิจิทัล (Content Creation) เป็นการพัฒนาทักษะการสร้างสรรค์เนื้อหา เช่น การทำวิดีโอ การออกแบบกราฟิก และการจัดการสื่อโซเชียล เป็นต้น เอนำมาใช้ในการนำเสนองานที่มีความน่าสนใจและสร้าง Impact และ
(3) การตลาดดิจิทัล (Digital Marketing) เป็นการพัฒนาความสามารถในการใช้แพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อการสื่อสารและส่งเสริมการตลาด เพื่อขับเคลื่อนการทำงานให้บรรลุตามเป้าหมายขององค์กร
ทักษะด้านนวัตกรรม (Innovation Skills)
ทักษะด้านนวัตกรรม เป็นอีกหนึ่งทักษะคนวัยทำงานที่ควรพัฒนาเพื่อเอาชนะ AI ประกอบด้วย
(1) การคิดเชิงนวัตกรรม (Innovative Thinking) คือ กระบวนการคิดที่มุ่งเน้นการสร้างแนวคิดหรือวิธีการใหม่ ๆ ที่สามารถนำไปใช้ในการแก้ปัญหา ปรับปรุง หรือสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ที่มีคุณค่า การคิดเชิงนวัตกรรมไม่ได้จำกัดอยู่แค่การคิดนอกกรอบ แต่ยังเกี่ยวข้องกับการมองหาวิธีที่แตกต่างจากวิธีการเดิมในการทำงานหรือการแก้ปัญหา เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกและมีผลกระทบที่ยั่งยืน
(2) การพัฒนาสตาร์ทอัพ (Entrepreneurial Skills) โดยเป็นการพัฒนาทักษะและความสามารถที่จำเป็นสำหรับการเริ่มต้นและการบริหารจัดการธุรกิจใหม่ ซึ่งเป็นธุรกิจที่เริ่มต้นจากแนวคิดใหม่หรือผลิตภัณฑ์/บริการที่สร้างนวัตกรรมในตลาด ทักษะเหล่านี้ช่วยให้คนทำงานสามารถจัดการความท้าทายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในระหว่างการพัฒนาและขยายธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทักษะด้านการปรับตัวและเรียนรู้ (Adaptability & Learning Agility)
ทักษะคนวัยทำงานต่อมา คือ ทักษะด้านการปรับตัวและเรียนรู้ ซึ่งประกอบด้วย
(1) การเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning) โดยการแสวงหาความรู้ทุกครั้งที่มีโอกาส ภายใต้แนวคิดว่า “คนเราสามารถเรียนรู้ได้อย่างไม่สิ้นสุด” เพื่อเรียนรู้ทักษะใหม่และปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยีหรือแนวโน้มใหม่ ๆ ในอยาคต
(2) การแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์ (Creative Problem-Solving) คือ การใช้ความคิดสร้างสรรค์เพื่อแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อน เช่น การนำแอปพลิเคชั่นมาอำนวยความสะดวกในการทำงาน หรือการใช้เครื่องมืออัตโนมัติ (Automation Tools) เช่น RPA (Robotic Process Automation) หรือ Zapier เพื่อช่วยประมวลผลข้อมูลแทนการทำงานด้วยมือ เป็นต้น เพื่อให้การทำงานมีความคล่องตัวมากขึ้น
ทักษะด้านอารมณ์และมนุษยสัมพันธ์ (Emotional and Social Skills)
ทักษะคนวัยทำงานต่อมา เป็นทักษะที่ผู้เชี่ยวชาญทางจิตวิทยาองค์กรเน้นย้ำว่าทุกคนในองค์กรต้องพัฒนา นั่นก็คือ ทักษะด้านอารมณ์และมนุษยสัมพันธ์ เนื่องจากเป็น Soft skills ที่สร้างสัมพันธภาพในองค์กร ส่งผลให้การทำงานเป็นทีมในองค์กรมีประสิทธิภาพสูง โดยประกอบด้วย
(1) ความฉลาดทางอารมณ์ (Emotional Intelligence) เพื่อความเข้าใจและจัดการอารมณ์ของตนเองและเพื่อนร่วมงาน รวมถึงการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในทีม
(2) การสื่อสารและการทำงานร่วมกัน (Collaboration & Communication) เป็นการพัฒนาความสามารถในการทำงานร่วมกับผู้คนที่มีความหลากหลายและพัฒนาการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพในทีม
(3) การพัฒนาความสามารถในการเป็นผู้นำ (Leadership Skills) เนื่องจากเป็นทักษะการนำทีมในสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนและส่งเสริมให้สมาชิกในทีมเติบโตอีกด้วย
ทักษะด้านการบริหารจัดการ (Management Skills)
ทักษะด้านการบริหารจัดการ เป็นอีกหนึ่งทักษะคนวัยทำงาน ที่ผู้เชี่ยวชาญทางจิตวิทยาองค์กรแนะนำว่าเป็นสิ่งสำคัญที่ควรพัฒนา ซึ่งประกอบด้วย
(1) การจัดการเวลา (Time Management) เพื่อการบริหารเวลาให้มีประสิทธิภาพสอดคล้องกับการทำงานแบบไฮบริด (Hybrid Work) ซึ่งก็คือ รูปแบบการทำงานที่ผสมผสานระหว่างการทำงานจากที่บ้าน (Remote Work) และการทำงานในสำนักงาน (On-site Work) ซึ่งช่วยให้คนทำงานสามารถเลือกสถานที่ทำงานตามความเหมาะสมของงานหรือความสะดวกของตนเอง ซึ่งเป็นรูปแบบการทำงานที่มีความยืดหยุ่นและประสิทธิภาพสูง
(2) การบริหารโครงการ (Project Management) โดยการเลือกใช้เครื่องมือและกระบวนการที่เหมาะสมเพื่อให้โครงการสำเร็จลุล่วงตามเป้าหมาย
(3) การคิดเชิงกลยุทธ์ (Strategic Thinking) เพื่อการวางแผนระยะยาวในการทำงานเพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายองค์กร
ทักษะด้านความยั่งยืน (Sustainability Skills)
ทักษะคนวัยทำงาน สุดท้ายที่ควรพัฒนาในปี 2025 ที่จะแนะนำกันในบทความจิตวิทยานี้ คือ ทักษะด้านความยั่งยืน ประกอบด้วย
(1) การบริหารทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ โดยการสร้างองค์ความรู้ในการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืนในองค์กร
(2) ความรู้เรื่อง ESG (Environmental, Social, Governance) เป็นการสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับแนวคิดเกี่ยวกับความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม เพื่อสร้างความตระหนักให้แก่ตนเองในการใช้ทรัพยากรขององค์กรให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อตัวองค์กร ต่อกลุ่มเป้าหมายขององค์กร และต่อโลกของเราที่ลูก หลาน ของเราต่อไปในอนาคต
ผู้เชี่ยวชาญทางเทคโนโลยีและผู้เชี่ยวชาญทางจิตวิทยาองค์กร ยังกล่าวอีกว่า ในปี 2025 การพัฒนาทักษะที่ผสมผสานระหว่าง “เทคโนโลยี” และ “ความสามารถทางอารมณ์และสังคม” จะเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้สามารถสร้างความก้าวหน้าในอาชีพและมีความสามารถในการแข่งขันในตลาดแรงงานยุคใหม่ ที่ไม่ใช่เพียงต้องเอาชนะมนุษย์ด้วยกัน แต่ยังต้องเอาชนะ AI อีกด้วย
iSTRONG Mental Health
ผู้ดูแลสุขภาพใจให้กับบุคคล ครอบครัว และองค์กร
บริการของเรา
สำหรับบุคคลทั่วไป
บริการปรึกษา จิตแพทย์และนักจิตวิทยา : http://bit.ly/3lmThUa
คอร์สฝึกอบรมทักษะด้านจิตวิทยา : http://bit.ly/3RQfQwS
สำหรับองค์กร
EAP โปรแกรมสำหรับองค์กร : http://bit.ly/3RLI8Z8
โทร. 02-0268949 หรือ Line : @istrong
บทความแนะนำ
อ้างอิง 1. adeccogroup. (2022).
Top 10 In-Demand Skills for 2025. [Online].
2. Beartai. (24 ธันวาคม 2567).
ส่อง 4 เทรนด์ AI 2025 เตรียมมาแทนที่ (มนุษย์) โดยสมบูรณ์?. (ออนไลน์).
ค้นหาเมื่อ 30 ธันวาคม 2567
3. PWC. (2024). The way we work – in 2025 and beyond. [Online].
ประวัติผู้เขียน
จันทมา ช่างสลัก บัณฑิตจิตวิทยาคลินิกจากรั้ว มช. และมหาบัณฑิตจาก NIDA ปัจจุบันเป็นคุณแม่ลูก 1 ผู้เป็นทาสแมว ที่มุ่งมั่นจะพัฒนาการเขียนบทความจิตวิทยาให้โดนใจผู้อ่าน และสร้างแรงกระเพื่อมทางสังคม ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกบนโลกใบนี้
