พฤติกรรม Toxic จะไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป ถ้าส่งเสริมให้ทุกคนมีทักษะตระหนักรู้ในตนเอง
ช่วงนี้กระแสเรื่องมนุษย์ Toxic ดูเหมือนกำลังจะมาแรง ซึ่งอันที่จริงมนุษย์ Toxic นั้นมีมาโดยตลอดและพฤติกรรม Toxic ก็เป็นอะไรที่สร้างผลกระทบต่อสังคมมากพอสมควรโดยเฉพาะต่อสุขภาพจิตของคนรอบข้างที่ต้องคอยรับมือกับมนุษย์ Toxic อยู่เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ในบางครั้งมันก็มีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดสถานการณ์แบบต่างคนต่าง Toxic โดยที่ต่างคนต่างไม่รู้ตัวทำให้สถานการณ์มันมีแต่จะแย่ลงเพราะไม่มีรู้ตัวว่าตัวเองเป็นมนุษย์ Toxic ดังนั้น วิธีการที่จะลดบรรยากาศ Toxic ลงจึงจำเป็นต้องทำให้มนุษย์ toxic ทั้งหลายเกิดการตระหนักรู้ในตนเองเพื่อที่จะได้เข้าสู่ step ต่อไปก็คือการยอมรับและการฝึกฝนพัฒนาตนเองให้เป็นสิ่งแวดล้อมที่ดีต่อสังคมรอบข้างตามลำดับ ในทางกลับกันถ้าทุกคนเห็นพฤติกรรม Toxic ของคนอื่นกันหมดเลยแต่ต่างคนต่างไม่เห็นของตัวเองก็คงไม่มีใครยอมเปลี่ยนแปลงและบรรยากาศ Toxic ก็จะไม่มีทางลดลงได้เลย
สัญญาณที่บ่งบอกถึงการมีพฤติกรรม Toxic
- มีพฤติกรรมแบบ “gaslight” ทำให้คนอื่นเกิดความสงสัยในตัวเองว่าที่กำลังรู้สึกไม่ดีอยู่นั้นเป็นเพราะตัวเองคิดไปเองหรือว่ามันมีอะไรไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้นจริง ๆ ซึ่งพฤติกรรมแบบ gaslight จัดว่าเป็นพฤติกรรมควบคุมบงการคนอื่นแบบเนียน ๆ หรือสร้างเรื่องโกหกขึ้นมาเพื่อหลอกใช้คนอื่น
- ขอโทษแบบส่ง ๆ คนที่มีพฤติกรรม Toxic มักจะหลีกเลี่ยงการรับผิดชอบต่อความผิดของตัวเอง เวลาขอโทษก็จะทำไปแบบส่ง ๆ ไม่ได้ขอโทษมาจากใจที่รู้สึกผิดจริง ๆ
- ไม่ได้เข้าใจว่าพฤติกรรมที่ตนเองทำมันมีผลต่อความรู้สึกของคนอื่น มนุษย์ Toxic มักจะเป็นคนที่ขาดความฉลาดทางอารมณ์ (Emotional Intelligence) ทำให้ขาดความสามารถในการตระหนักหรือแคร์ว่าคนอื่นจะรู้สึกยังไง
- คิดว่าตัวเองเหนือกว่าคนอื่น มนุษย์ Toxic มักจะมีมุมมองการรับรู้ว่าตนเองเหนือกว่าหรือสำคัญพิเศษกว่าคนอื่น ทัศนคติเช่นนี้มักจะส่งผลให้เกิดพฤติกรรม Toxic เช่น
- เป็นคนสองหน้า ต่อหน้าคนอื่นทำแบบหนึ่งแต่ลับหลังกลับทำอีกแบบหนึ่ง
- เอาความต้องการของตัวเองเป็นหลักส่วนความต้องการของคนอื่นเป็นรอง
- มักใช้อำนาจของตนเองไปในทางที่ผิด
- ใช้คำพูดแย่ ๆ กับคนที่ไม่เห็นด้วยกับตนเอง วิจารณ์หรือทำให้คนอื่นรู้สึกว่าเขาคือฝ่ายผิด
- มองว่าตนเองเป็นเหยื่อของพฤติกรรมตนเอง มนุษย์ Toxic มักมีความคิดแบบ fixed mindset จึงมักจะคิดว่าตัวเองเปลี่ยนแปลงไม่ได้ เช่น “ฉันก็เป็นของฉันแบบนี้แหละ” และมักจะมองว่าตัวเองเป็นเหยื่อของพฤติกรรมตนเอง เนื่องจากไม่ต้องการที่จะรับผิดชอบต่อการกระทำของตนเองรวมถึงไม่ต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงตนเอง ซึ่งต่างจากคนที่ไม่ Toxic มักมีความคิดแบบ growth mindset ซึ่งจะเชื่อว่าตนเองสามารถเปลี่ยนแปลงพัฒนาได้
How to รับมือกับคนอื่นที่เป็นมนุษย์ Toxic
- พยายามทำความเข้าใจว่าอะไรบ้างที่คุณควบคุมได้และควบคุมไม่ได้ เช่น พฤติกรรมของคนอื่นคุณควบคุมไม่ได้
- พยายามที่จะไม่ตอบสนองต่อพฤติกรรม Toxic
- สร้างขอบเขต (set boundary) ของตนเองให้ชัดเจนเพื่อไม่ให้ใครมาล้ำเส้น
- สื่อสารแบบ I message เพื่อสะท้อนให้มนุษย์ Toxic รับรู้ว่าคุณไม่โอเคกับพฤติกรรมอะไรบ้าง เช่น “ฉันรู้สึกไม่โอเคเวลาที่โดนล้อเรื่องน้ำหนัก”
- ขอความช่วยเหลือจากคนอื่น มองหา social support
How to ออกจากการเป็นมนุษย์ Toxic
- เรียนรู้ที่จะเป็นฝ่ายขอโทษเวลาที่ตัวเองทำผิดพลาด
- หมั่นทบทวนทำความเข้าใจตัวเองอยู่บ่อย ๆ ซึ่งเทคนิคที่ได้ผลดีอย่างหนึ่งก็คือการเขียนบันทึก (journal) เกี่ยวกับความรู้สึกนึกคิดของตนเองเพื่อฝึกทักษะการตระหนักรู้ในตนเอง (self-awareness)
- ฝึกเปิดรับ feedback จากคนอื่น ฝึกฟังให้มากขึ้นพูดให้น้อยลง
- จัดการกับ trauma ที่เกิดจากประสบการณ์ในอดีตของตนเอง เพราะคนที่เคยผ่านเหตุการณ์ที่ยากลำบากหรือเจ็บปวดมาก่อนมักจะกลายเป็นคนที่สร้างปัญหาหรือสร้างความเจ็บปวดให้กับคนอื่นในเวลาต่อมา การจัดการกับ trauma เพื่อเยียวยาบาดแผลของตนเองจะสามารถช่วยลดพฤติกรรม Toxic ลงได้ ดังนั้น แทนที่จะเอาความเจ็บปวดของตนเองไปลงกับคนที่ไม่ได้สร้างบาดแผลให้กับคุณ คุณควรหาทางเยียวยาบาดแผลของคุณจะดีกว่าเพราะทันทีที่บาดแผลของคุณได้รับการเยียวยา คนอื่น ๆ ก็จะได้รับผลกระทบจากพฤติกรรมของคุณลดลงตามไปด้วย
- ฝึก mindfulness เพื่อให้เกิดทักษะในการรู้เท่าทันความคิดเชิงลบของตนเอง
- เคารพขอบเขตของคนอื่นเพื่อที่จะได้ไม่ไปล้ำเส้นของคนอื่น
- ฝึกตัวเองให้มีความเห็นอกเห็นใจมากกว่าตำหนิวิจารณ์ ขอให้ระลึกไว้ว่าคุณไม่ได้เป็นคนเลวแต่คุณคือคนหนึ่งที่กำลังพยายามผ่านความเจ็บปวดลำบากในชีวิตไปให้ได้ อภัยให้ตัวเองและอภัยให้กับคนที่เคยทำไม่ดีกับคุณ โฟกัสที่เป้าหมายคือการทำให้ตัวเองมีสุขภาวะด้วยการฝึกมองเห็นเรื่องทางบวกที่เกิดขึ้นในแต่ละวันให้มากกว่าเรื่องที่มัน Toxic
การลดบรรยากาศ Toxic ไม่ว่าจะเป็นในที่ทำงาน ในครอบครัว หรือในสถานการณ์ใดก็ตาม ผู้เขียนมองว่าสิ่งที่เป็นหัวใจสำคัญที่สุดก็คือการฝึกทักษะการตระหนักรู้ในตนเอง เนื่องจากโดยธรรมชาติแล้วมนุษย์ Toxic จะไม่รู้เลยว่าพฤติกรรมของตนเองนั้นส่งผลให้คนอื่นรู้สึกแย่หรือได้รับความเดือดร้อน ดังนั้น เมื่อไหร่ก็ตามที่ใครสักคนที่เคยทำพฤติกรรมแย่ ๆ ใส่คนอื่นเริ่มตระหนักถึงผลกระทบจากพฤติกรรมของตนเองก็แสดงว่าคน ๆ นั้นมีโอกาสสูงที่จะไม่เป็นมนุษย์ Toxic อีกต่อไป แต่ถ้าต่างคนต่างยังคงชี้นิ้วใส่กันและต่างคนต่างยังเชื่อว่าตนเองคือฝ่ายที่เป็นเหยื่อมันก็อาจจะยากที่จะทำให้บรรยากาศ Toxic ลดลงได้เพราะไม่มีใครยอมเปลี่ยนแปลงตนเอง
iSTRONG Mental Health
ผู้ดูแลสุขภาพใจให้กับบุคคล ครอบครัว และองค์กร
บริการของเรา
สำหรับบุคคลทั่วไป
บริการปรึกษา จิตแพทย์และนักจิตวิทยา : http://bit.ly/3lmThUa
คอร์สฝึกอบรมทักษะด้านจิตวิทยา : http://bit.ly/3RQfQwS
สำหรับองค์กร
EAP โปรแกรมสำหรับองค์กร : http://bit.ly/3RLI8Z8
โทร. 02-0268949 หรือ Line : @istrong
บทความที่เกี่ยวข้อง
อ้างอิง:
[1] Too toxic! How to spot the traits in yourself and others. Retrieved from https://www.betterup.com/blog/toxic-traits
[2] How to Not Be Toxic: 7 Tips. Retrieved from https://www.masterclass.com/articles/how-to-not-be-toxic
ประวัติผู้เขียน
นิลุบล สุขวณิช (เฟิร์น) มีประสบการณ์ทำงานเป็นนักจิตวิทยาการปรึกษาในมหาวิทยาลัยและเป็นวิทยากรเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพจิต/การพัฒนาตนเองให้แก่นักศึกษาเป็นเวลา 11 ปี ปัจจุบันเป็นแม่บ้านในอเมริกาที่มีความสนใจเกี่ยวกับ childhood trauma และยังคงมีความฝันที่จะสื่อสารกับสังคมให้เกิดการตระหนักเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพจิต
Nilubon Sukawanich (Fern) has work experiences as a counseling psychologist and speaker in university for 11 years. Currently occupation is a housewife in USA who keep on learning about childhood trauma and want to communicate to people about mental health problems awareness.
Kommentarer