top of page

New Year อาจไม่ต้อง New You เพราะหลายสิ่งที่คุณเป็นอยู่มันก็ดีอยู่แล้ว

iSTRONG New Year อาจไม่ต้อง New You เพราะหลายสิ่งที่คุณเป็นอยู่มันก็ดีอยู่แล้ว

ในช่วงเดือนธันวาคมของทุกปี หลายคนก็อาจจะมีการตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่าเมื่อถึงปีใหม่ก็อยากจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเป็นคนใหม่ เช่น ทำหุ่นให้ผอมเพรียว หรือบอกตัวเองว่าจะต้องเป็นคนใหม่ที่นิสัยดีขึ้น ซึ่งการตั้งเป้าหมายเพื่อพัฒนาตนเองนั้นเป็นสิ่งที่ดี


แต่ในบางครั้งที่เกิดความรู้สึกว่าตัวเองอยากจะเป็นคนใหม่ในปีใหม่ ลึกลงไปมันเป็นไปได้ไหมว่าคุณอาจจะเผลอมองข้ามสิ่งดี ๆ ในตัวเองที่คุณมีมันอยู่แล้ว ในแต่ละปีจึงได้แต่บอกตัวเองว่า “ฉันจะเป็นคนใหม่” และเมื่อทำไม่ได้ก็อาจจะเกิดความรู้สึกกดดันหรือรู้สึกผิดที่ไม่สามารถทำได้อย่างที่คิดเอาไว้เมื่อต้นปี


ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วในช่วงเปลี่ยนผ่านจากปีเก่าไปสู่ปีใหม่นั้นไม่ได้มีใครกำหนดกรอบเกณฑ์เอาไว้ว่าทุกคนจะต้องเป็นคนใหม่แบบ “new year, new you” แต่หากคุณต้องการให้ช่วงปีใหม่เป็นช่วงเวลาที่พิเศษไม่อยากปล่อยให้มันแค่ผ่าน ๆ ไป ผู้เขียนก็ขอหยิบยกทางเลือกในการเอาฤกษ์เอาชัยช่วงปีใหม่ที่ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนตัวเองให้เป็นคนใหม่ ได้แก่


  1. ทบทวนถึงความสำเร็จที่เกิดขึ้นในปีที่ผ่านมา

    แม้ผู้เขียนจะใช้คำว่า “ความสำเร็จ” แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันต้องยิ่งใหญ่อะไรมากมายนะคะ เพราะความสำเร็จที่เกิดขึ้นในชีวิตบางอย่างแม้มันจะเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยแต่ก็มันก็ส่งผลให้คุณเกิดความภาคภูมิใจเล็ก ๆ ขึ้นมาได้เหมือนกัน หรือคุณทำมันได้แม้ว่าคุณจะมีทรัพยากรในตัวเองอยู่อย่างจำกัด


    ยกตัวอย่างเช่น คุณมีอาการของโรคซึมเศร้าแต่คุณก็สามารถฝืนตัวเองลุกจากเตียงนอนเพื่อไปทำงานได้ในแต่ละวัน แม้คุณอาจจะไม่ได้เลื่อนขั้นหรือทำผลงานอันโดดเด่นให้เกิดขึ้นในปีนี้ได้ แต่แค่คุณสามารถใช้ชีวิตประจำวันมาได้จนถึงตอนนี้มันก็ถือว่าเป็นความสำเร็จที่ดีพอแล้ว


  1. ขอบคุณผู้คนหรือเรื่องราวที่เกิดขึ้นในปีที่ผ่านมา

    เมื่อพูดถึงการ “ขอบคุณ” อาจจะชวนให้นึกถึงผู้คนที่จิตใจดีหรือเรื่องราวดี ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิต แต่จริง ๆ แล้วการขอบคุณในที่นี้สามารถใช้ได้กับทั้งเรื่องทางบวกและเรื่องทางลบ เพราะทุกคนและทุกเรื่องราวสามารถช่วยให้คุณเกิดประสบการณ์และบทเรียนชีวิตใหม่ ๆ ขึ้นมาได้


    ซึ่งหลายคนก็มีทักษะใหม่ ๆ ขึ้นมาหลังจากที่ต้องเผชิญกับช่วงเวลาอันยากลำบาก การขอบคุณจะช่วยให้คุณเห็นถึงทรัพยากรที่ตัวเองมีอยู่ เช่น บุคคลที่คอยสนับสนุนให้ความช่วยเหลือคุณ ทักษะที่คุณใช้ในการพาตัวเองข้ามผ่านอุปสรรคปัญหามาได้จนถึงวันนี้ ฯลฯ


  1. โอบกอดตัวเองแม้ว่ามันจะไม่ได้สมบูรณ์แบบ

    การตั้งเป้าหมาย new year, new me ไม่ได้เป็นสิ่งที่แย่หรือผิด แต่มันก็คงจะน่าเสียดายหากคุณต้องการที่จะเปลี่ยนตัวเองให้เป็นคนใหม่อยู่ทุกปีโดยละเลยไม่ใส่ใจตัวตนหรือคุณลักษณะดี ๆ ที่มีอยู่ในตัวเองอยู่แล้ว


    ดังนั้น ผู้เขียนจึงอยากให้คุณลองเปลี่ยนจากการตั้งเป้าหมายว่า “ปีใหม่ฉันจะต้องฉันเป็นคนใหม่” เป็นการใช้โอกาสในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่เป็นการทบทวนว่าตัวตนหรือคุณลักษณะไหนของคุณที่เป็นส่วนที่ดีและควรที่รักษาตัวตนส่วนนี้เอาไว้


    เพราะถึงแม้ว่าคุณจะไม่ได้สมบูรณ์แบบหรือดีไปหมดทุกอย่าง แต่หลายเสี้ยวส่วนที่มีอยู่แล้วในตัวคุณมันก็ช่วยให้คุณผ่านปีนี้มาได้ไม่ว่าจะแบบราบรื่นหรือแบบทุลักทุเลก็ตาม ดังนั้น มันจึงหมายความว่าแม้คุณจะมีบางส่วนที่เป็นข้อบกพร่องแต่ก็มีบางส่วนที่ดีพอที่คุณจะคงเอาไว้โดนไม่ต้องพยายามไปเปลี่ยนแปลงตัวเองในส่วนนั้น ลองลิสต์ขึ้นมาว่าคุณมีส่วนที่ดียังไงบ้างแล้วโอบกอดตัวตนในส่วนนั้นของคุณ


  2. มอบของขวัญปีใหม่ ด้วยการไม่เอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับใครและให้อภัยตัวเอง

    แม้มันอาจจะทำได้ยากในยุค Social Media เพราะตลอดปีที่ผ่านมารวมถึงในช่วงเทศกาลปีใหม่ก็จะได้เห็นใครต่อใครอวดความสำเร็จหรือสิ่งดี ๆ ในชีวิตของพวกเขา มันจะง่ายมากที่แต่ละคนจะเกิดการเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นโดยไม่รู้ตัว


    มันก็คงจะยิ่งทำใจให้สงบได้ยากขึ้นไปอีกหากคุณได้เห็นใครบางคนที่ตั้งเป้าหมายเดียวกันกับคุณแล้วพวกเขาทำมันสำเร็จในขณะที่คุณทำไม่สำเร็จ เช่น ได้แต่งงาน ออกรถคันใหม่ ดาวน์บ้านหลังใหม่ ได้ไปเที่ยวต่างประเทศ ฯลฯ แต่ผู้เขียนเชื่อว่าการเอาภาพความสำเร็จของคนอื่นมาเปรียบเทียบกับตัวเอง


    นอกจากมันจะไม่ได้ทำให้คุณประสบความสำเร็จขึ้นมาแล้ว มันยังเป็นการลดทอนความสงบสุขของตัวคุณเองเข้าไปอีก ดังนั้น แม้ว่าคุณจะไม่สามารถมอบของขวัญปีใหม่ให้กับตัวเองเป็นวัตถุสิ่งของชิ้นใหญ่หรือประสบการณ์สุดพิเศษ แต่คุณก็สามารถมอบของขวัญปีใหม่ให้กับตัวเองเป็นความสงบสุขทางใจ


    ผ่านการให้อภัยตัวเองในสิ่งที่คุณทำผิดพลาด นอกจากนั้น แม้ว่าคุณจะยังทำเป้าหมายที่ตั้งไว้เมื่อต้นปีให้สำเร็จไม่ได้ภายในปีนี้ มันก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะทำมันไม่ได้ตลอดไป หากคุณยังคงมีความมุ่งมั่นและยังอยากจะทำตามเป้าหมายเดิมที่เคยวางไว้


    ไม่ว่าความสำเร็จจะเกิดขึ้นช้าหรือไวมันก็ยังคงถือว่าเป็นความสำเร็จของคุณ โดยไม่จำเป็นต้องเอาจังหวะในการก้าวเดินของตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่นเพราะแต่ละคนมีจังหวะการก้าวเดินในแบบฉบับของตัวเอง

iSTRONG Mental Health

ผู้ดูแลสุขภาพใจให้กับบุคคล ครอบครัว และองค์กร


บริการของเรา

สำหรับบุคคลทั่วไป

  • บริการปรึกษา จิตแพทย์และนักจิตวิทยา : http://bit.ly/3lmThUa  

  • คอร์สฝึกอบรมทักษะด้านจิตวิทยา : http://bit.ly/3RQfQwS 

สำหรับองค์กร

โทร. 02-0268949 หรือ Line : @istrong

บทความที่เกี่ยวข้อง 

อ้างอิง:

5 Simple Steps to Stop Overthinking | Buddhism In English. Retrieved from https://www.youtube.com/watch?v=VQL15uSAeRU

7 Ways to Support Your Mental Health. Retrieved from

ประวัติผู้เขียน

นิลุบล สุขวณิช (เฟิร์น) เคยมีประสบการณ์ทำงานเป็นนักจิตวิทยาการปรึกษาในมหาวิทยาลัยและเป็นวิทยากรเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพจิต/การพัฒนาตนเองให้แก่นักศึกษาเป็นเวลา 11 ปี ปัจจุบันเป็นนักเขียนบทความให้กับ ISTRONG และเป็นทาสแมวคนหนึ่ง


Nilubon Sukawanich (Fern) have had experience working as a counseling psychologist at a university and as a speaker on mental health issues and self-development for students for 11 years. Currently, I am a writer for ISTRONG and a cat slave.


iSTRONG ผู้ให้บริการด้านสุขภาพจิต Solutions ด้านสุขภาพจิต ให้คำปรึกษาโดยนักจิตวิทยา นักจิตบำบัด นักจิตวิทยาคลินิกที่มีใบรับรอง รวมถึงบทความจิตวิทยา

© 2016-2025 Actualiz Co.,Ltd. All rights reserved.

contact@istrong.co                     Call 02-0268949

  • Facebook Social Icon
  • YouTube Social  Icon
  • Instagram
  • Twitter
bottom of page