5 สัญญาณเตือนว่าคุณกำลังมี Toxic Mindset ที่บั่นทอนตัวเองอยู่

ในชีวิตของการเป็นมนุษย์ย่อมต้องพบเจอกับเรื่องราวมากมาย แต่ละเรื่องราวล้วนทำให้แต่ละคนเกิดประสบการณ์การเรียนรู้ในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งเมื่อประสบการณ์การเรียนรู้สะสมไว้มาก ๆ ก็จะก่อขึ้นเป็นความคิดความเชื่อหรือว่า Mindset นั่นเอง แม้ว่าชีวิตของคนเรามีความผันแปรเป็นอย่างมากจนดูเหมือนว่าเราออกแบบชีวิตตัวเองไม่ได้ แต่เชื่อหรือไม่ว่าที่จริงแล้วมันมีความเป็นไปได้ที่คนเราจะสร้างชีวิตด้วยตัวเองขึ้นมาได้ และเครื่องมือหนึ่งที่จะช่วยกำหนดทิศทางชีวิตของตัวเองได้ก็คือ Mindset
บทความนี้จะชวนให้คุณได้ลองทบทวนตัวเองว่าชีวิตของคุณในตอนนี้มันเป็นไปในทิศทางไหน ถ้าหากหลังจากทบทวนแล้วคุณพบว่าชีวิตตัวเองกำลังเดินไปสู่ทิศทางที่เลวร้าย มองไม่อนาคตเลยว่าจะประสบความสำเร็จได้อย่างไร ขอให้คุณลองถามตัวเองสักครั้งว่าคุณเป็นที่มี Mindset เหล่านี้อยู่หรือไม่
1. คุณเป็นคนที่ค่อนข้างยึดติดไม่ยืดหยุ่น
คนที่ค่อนข้างยึดติดไม่ยืดหยุ่นมักเป็นคนที่มีความคิดแบบ fixed mindset ซึ่งเป็นความคิดที่มักไม่เกิดประโยชน์ และตรงข้ามกับความคิดแบบ growth mindset ซึ่งเป็นความคิดที่มักพาไปสู่การเติบโตพัฒนาโดยเฉพาะด้านจิตใจ เพราะคนที่คิดแบบ growth mindset จะเชื่อว่าคนเราสามารถเติบโตพัฒนาได้ภายหลัง ต่างจากคนที่มีความคิดแบบ fixed mindset ที่จะมีความเชื่อว่าคนเราเกิดมาพร้อมกับคุณสมบัติติดตัวที่ทำให้แต่ละคนแตกต่างกัน คนที่มีความคิดแบบ fixed mindset จึงค่อนข้างยึดติดไม่ยืดหยุ่นเพราะเชื่อว่าทุกสิ่งมันถูกกำหนดเอาไว้หมดแล้ว ไม่สามารถไปเปลี่ยนแปลงแก้ไขอะไรได้ ทำให้มีความคิดในแง่ลบและเชื่อว่าตัวเองมีขีดจำกัดเพียงเท่านี้ ไม่กล้าลองอะไรใหม่ ๆ เพราะคิดว่าถึงทำไปก็สู้คนอื่นไม่ได้ กลัวความล้มเหลว ซึ่งเท่ากับเป็นการปิดโอกาสตัวเองไปโดยปริยาย
2. คุณมักจะมองโลกในแง่ร้าย
คนที่มองโลกในแง่ร้ายมักจะเห็นปัญหาในทุกทางออก ซึ่งหากจะยกตัวอย่างคลาสสิคให้เห็นภาพก็คือคนที่เห็นแก้วที่มีน้ำอยู่ครึ่งแก้วว่า “ทำไมน้ำมันมีแค่ครึ่งเดียวเอง” ทำให้เสียโอกาสที่จะนำสิ่งที่มีอยู่มาใช้ประโยชน์เพราะว่ามัวแต่โฟกัสอยู่แค่สิ่งที่มันขาดหายหรือบกพร่องไป สิ่งที่มักจะเกิดขึ้นกับคนที่มองโลกในแง่ร้ายเป็นประจำก็คือพวกเขามักจะยอมแพ้ตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มหรือลองทำ เมื่อไม่ได้เริ่มต้นหรือทดลองทำก็ย่อมไม่มีผลลัพธ์เกิดขึ้นและยิ่งทำให้เกิดความรู้สึกว่าตัวเองไม่เอาไหน สู้คนอื่นไม่ได้ ทำอะไรก็ไม่สำเร็จ ซึ่งความคิดเช่นนี้มักส่งผลเสียต่อทั้งจิตใจและร่างกายของตัวเองในที่สุด
3. คุณมักไม่ค่อยมีสติ
การมีสติ (Being mindful) คือการที่คนเราช้าลงและมีความรู้เนื้อรู้ตัวเกี่ยวกับสภาวะในปัจจุบันของตนเอง ซึ่งคนที่มีสติมักมีความสามารถในการจัดการควบคุมอารมณ์ของตนเองได้ดี จึงเป็นคนที่มีความเครียดน้อยกว่า นอกจากนั้น คนที่มีสติอยู่เสมอจะมีความเข้าใจว่าชีวิตที่แท้จริงของคนเรานั้นอยู่ที่นี่และเดี๋ยวนี้ (here and now) จึงเลือกที่จะปล่อยเรื่องที่น่าเศร้าเสียดายที่เกิดจากเหตุการณ์ในอดีตไป รวมถึงปล่อยให้ชีวิตเป็นไปอย่างธรรมชาติโดยไม่ต้องไปวิตกกังวลมากมายกับเหตุการณ์ในอนาคตที่ยังมาไม่ถึง
4. คุณไม่มีการตระหนักรู้ในตนเอง
หากคุณไม่มีการตระหนักรู้ในตนเอง คุณก็จะไม่เข้าใจตัวเองเพราะคุณไม่รู้จักตัวเอง เช่น คุณกำลังมีความรู้สึกนึกคิดยังไง คุณต้องการอะไร คุณเป็นคนแบบไหน ไม่สามารถลิสต์ข้อดีหรือจุดแข็งของตัวเองออกมาได้ซึ่งส่งผลต่อระดับ self-esteem ตามไปด้วย เพราะการที่คุณไม่สามารถที่จะชื่นชมความสามารถของตัวเองนั้นอาจส่งผลให้คุณมีภาวะ low self-esteem ได้ และการที่คุณไม่ตระหนักรู้ศักยภาพของตัวเองก็อาจทำให้คุณพลาดโอกาสดี ๆ ไปโดยที่คุณไม่รู้ตัว
5. คุณไม่มีความรู้สึกซาบซึ้งขอบคุณ
จากคำกล่าวที่ว่า “gratitude turns what we have into enough.” หรือ “ความรู้คุณจะทำให้เรารู้สึกว่าเรามีพอ” ซึ่งตรงข้ามกับ Mindset แบบที่ไม่มีความรู้สึกซาบซึ้งขอบคุณที่มักจะเกิดขึ้นกับคนที่มีความโลภเป็นตัวขับเคลื่อนอยู่เบื้องหลัง ทำให้รู้สึกว่าต่อให้มีมากเท่าไหร่ก็ไม่พอ แม้ว่าจะครอบครองวัตถุสิ่งของเป็นจำนวนมากอยู่แล้วก็ยังคงรู้สึกว่าต้องการมากขึ้นอีก หรือแม้จะประสบความสำเร็จแล้วในระดับหนึ่งแต่ในใจก็ยังรู้สึกว่าต้องประสบความสำเร็จให้มากขึ้นไปกว่านี้ ทำให้คนที่มี Mindset แบบนี้มักมองเห็นแต่สิ่งที่ตัวเองยังไม่มี แต่ละเลยคุณค่าของสิ่งที่มีอยู่แล้วหรือละเลยคุณค่าของคนที่อยู่เคียงข้างคุณเสมอมา ทำให้ไม่เคยรู้สึกพึงพอใจกับชีวิตตัวเองได้เลยสักที
อย่างไรก็ตาม ดังที่กล่าวไปแล้วว่า Mindset นั้นเป็นผลมาจากประสบการณ์การเรียนรู้ที่หล่อหลอมให้เกิดรูปแบบของ Mindset ขึ้นมา หากคุณเป็นคนหนึ่งที่มี Toxic Mindset ก็อย่าเพิ่งไปตำหนิหรือตัดสินว่าตัวเองเป็นคนไม่ดีซึ่งจะยิ่งบั่นทอนตัวเองมากขึ้นไปอีก สิ่งที่คุณควรทำเมื่อพบว่าตัวเองมี Toxic Mindset ก็คือพยายามปรับ Mindset และฝึกคิดบวกจนกว่าจะเคยชินกับการคิดบวกมากกว่าคิดลบ แต่ถ้าหากคุณได้พยายามาหมดทุกหนทางแล้วแต่ก็ยังรู้สึกว่าตัวเองไม่มีความสุขอยู่ดี อาจเป็นไปได้ว่าคุณมีประสบการณ์เลวร้ายในวัยเด็กที่ส่งผลต่อความรู้สึกนึกคิดของคุณในปัจจุบัน ซึ่งคุณสามารถปรึกษานักบำบัดเพื่อค้นหาสาเหตุที่แท้จริงของความรู้สึกไม่มีความสุขและหาวิธีจัดการกับ Toxic Mindset ได้ค่ะ
สำหรับใครที่กำลังเครียด กังวล คิดมาก ทั้งเรื่องของปัญหา Burn Out จากการทำงาน ปัญหาความสัมพันธ์ต่างๆ ในครอบครัว คนรัก ไปจนถึงภาวะต่างๆ เช่น ซึมเศร้า ทุกปํญหาสำคัญและเป็นเรื่องใหญ่สำหรับเราเสมอ
iSTRONG ยินดีให้บริการ ปรึกษาด้านสุขภาพจิตโดยผู้เชี่ยวชาญ ทั้งจากจิตแพทย์และนักจิตวิทยา ดูรายละเอียดได้ที่นี่

iSTRONG Mental Health
ผู้ดูแลสุขภาพใจให้กับบุคคล ครอบครัว และองค์กร
บริการของเรา
สำหรับบุคคลทั่วไป
บริการปรึกษา จิตแพทย์และนักจิตวิทยา : http://bit.ly/3lmThUa
คอร์สฝึกอบรม การเป็นนักจิตวิทยาให้คำปรึกษา : http://bit.ly/3RQfQwS
สำหรับองค์กร
EAP โปรแกรมสำหรับองค์กร : http://bit.ly/3RLI8Z8
โทร. 02-0268949 หรือ Line : @istrong
อ้างอิง
[1] 5 Signs You Have a Toxic Mindset. https://psych2go.net/5-signs-you-have-a-toxic-mindset/
บทความที่เกี่ยวข้อง
นักจิตวิทยาแนะนำ 4 วิธีเปลี่ยนคุณเป็นคนที่มี Growth mindset.
ประวัติผู้เขียน
นางสาวนิลุบล สุขวณิช (เฟิร์น) จบการศึกษาระดับปริญญาโทในสาขาจิตวิทยาการปรึกษา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และระดับปริญญาตรีสาขาจิตวิทยา(คลินิก) มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ปัจจุบันเป็นนักจิตวิทยาการปรึกษาประจำมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา และเป็นนักเขียนของ iSTRONG