top of page

La Grande Maison Tokyo กับบทเรียนที่ตอกย้ำว่า Soft Skills มีความสำคัญไม่แพ้ความเก่ง



La Grande Maison Tokyo เป็นทีวีซีรีส์ของประเทศญี่ปุ่นที่นำเสนอเรื่องราวของนักทำอาหารหรือเชฟ ซึ่งหากใครได้ดูก็คงจะเห็นว่าตัวละครที่ชื่อโอบานะ (แสดงโดยทาคูยะ คิมูระ) เป็นตัวละครหนึ่งที่มีพัฒนาการที่น่าสนใจและให้ข้อคิดเกี่ยวกับมุมมองในการทำงานได้ดี โดยเฉพาะในเรื่องของการใช้ Soft Skills ในการทำงาน เพราะความเก่งอย่างเดียวนั้นอาจไม่เพียงพอต่อการทำงานร่วมกับผู้อื่น


Soft Skills ที่น่าเรียนรู้จาก La Grande Maison Tokyo

1. การฟังแบบ Active listening ในช่วงต้นจะเห็นได้ว่าโอบานะเป็นเชฟที่มีพรสวรรค์แต่กลับร่วงหล่นทางอาชีพและถูกปฏิเสธจากอดีตเพื่อนร่วมทีม เพราะในอดีตเขาเป็นคนที่มักจะเอาตนเองเป็นศูนย์กลางและขึ้นชื่อว่า “ไม่ฟังใคร” เมื่อทุกคนได้ยินชื่อโอบานะก็รู้สึกไม่อยากจะร่วมงานด้วย หากเทียบกับสถานการณ์การทำงานทั่วไปโอบานะก็น่าจะเรียกได้ว่าเป็นเพื่อนร่วมงานที่ toxic แต่หลังจากที่ต้องตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบากที่จะกลับไปเป็นเชฟที่ได้รับการยอมรับจากผู้คนอีกครั้ง เขาก็ค่อย ๆ เรียนรู้ที่จะรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นมากขึ้น เมื่อเขารับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นมากขึ้น เขาก็เริ่มที่จะได้รับความช่วยเหลือจากผู้อื่นมากขึ้น และเมื่อเขาลองนิ่งฟังผู้อื่นพูดถึงเขาในทางลบและค่อย ๆ วิเคราะห์ตาม เขาก็เริ่มมองเห็นมากขึ้นว่าเขาควรทำอย่างไรเพื่อให้สถานการณ์มันพลิกผันไปในทางที่ดี ทั้งนี้ การฟังแบบ Active listening นั้น ไม่ได้เป็นการฟังโดยมีวัตถุประสงค์เพียงเพื่อตอบโต้การสนทนาเท่านั้น แต่จะเป็นการฟังเพื่อเข้าใจในสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการที่จะสื่อสารจึงจำเป็นต้องอาศัยพฤติกรรมการใส่ใจและสังเกตร่วมด้วยเสมอ


2. Resilience คำว่า Resilience มีคำแปลเป็นภาษาไทยหลายคำแต่หากใช้คำเดียวก็อาจจะเห็นภาพตามได้ยาก ผู้เขียนจึงขออนุญาตใช้คำทับศัพท์ในบทความนี้ หากใช้อุปมา Resilience ก็เปรียบได้ดังลูกบอลยางที่เมื่อถูกบีบก็จะยุบตัวแต่เมื่อคลายแรงบีบลูกบอลก็จะพองกลับไปอยู่ในสภาพเดิม แม้ว่าโอบานะจะประสบกับความร่วงหล่นทางอาชีพจนมีปัญหาการเงิน แต่เขาก็สามารถดำเนินชีวิตได้ต่อไปโดยพยายามที่จะปรับตัวต่อปัญหาที่เกิดขึ้น Resilience จึงเป็นเหมือนทักษะที่ส่งเสริมให้คนเราสามารถล้มแล้วลุกได้และไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรคที่เข้ามาในชีวิต 


3. การทำงานเป็นทีม แม้จะเป็นคนที่มีความสามารถสูงสักเพียงไหน แต่ก็คงไม่มีใครเก่งทุกด้านในตัวคนเดียว หรือแม้จะเป็นคนที่เก่งหลายด้านในตัวคนเดียวแต่การทำทุกงานด้วยตัวเองก็คงจะเหนื่อยมากและอาจจะเกิดภาวะหมดไฟได้ง่าย แต่การทำงานเป็นทีมนั้นไม่ได้หมายความว่าแค่มีคนมาอยู่ในทีมหลาย ๆ คนแล้วจะถือว่ามีการทำงานเป็นทีม เพราะมันต้องอาศัยทักษะมากมายเพื่อให้การทำงานเป็นทีมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การขอโทษ/ขอบคุณ/การชื่นชมให้กำลังใจเพื่อนร่วมทีม การให้ความสำคัญกับทุกคนไม่ว่าจะได้รับหน้าที่เล็กน้อยอย่างหั่นผักหรือหน้าที่ใหญ่ ๆ อย่างหัวหน้าเชฟ การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพเพราะหากเป็นคนที่เก่งมากแต่บรีฟงานไม่รู้เรื่องก็อาจจะพาทีมล้มเหลวได้เช่นกัน การไม่ทำอะไรแบบ “one man show” แต่ส่งเสริมให้แต่ละคนในทีมได้ผลัดกันแสดงความโดดเด่นตามแบบฉบับของตัวเองก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่จะช่วยส่งเสริมให้ทีมมีความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน 


4. การเชื่อในความสามารถของตนเอง (Self-efficacy) “เชฟที่ไม่เชื่อในตัวเองจะไม่มีทางได้มิชลินสตาร์” ในตอนที่รินโกะเห็นโอบานะและเชฟอีกคนหนึ่งแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการทำอาหารอย่างเป็นมืออาชีพ ทำให้รินโกะคิดว่าตัวเองไม่มีพรสวรรค์และไม่เหมาะจะเป็นเชฟ ทั้งที่จริงแล้วรินโกะก็เป็นเชฟที่มีความสามารถสูงคนหนึ่ง ดังนั้น แม้จะเก่งมากแค่ไหนแต่หากขาดการเชื่อในความสามารถของตนเองไปก็อาจจะทำให้พลาดโอกาสดี ๆ ไปอย่างน่าเสียดาย 


5. Growth mindset อีกสิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดเจนจากฉากการทำอาหารในซีรีส์เรื่องนี้ก็คือ “การเรียนรู้จากความผิดพลาด” โดยการจะไปถึงตรงนั้นได้จำเป็นต้องผ่านการลงมือทำจริงก่อน คนที่มี Growth mindset มักจะไม่กลัวความผิดพลาดล้มเหลว เพราะเชื่อว่าตัวเองสามารถเรียนรู้และปรับปรุงพัฒนาฝีมือของตนจากประสบการณ์ล้มเหลวได้ เหมือนกับเชฟในเรื่องที่พยายามทดลองทำอาหารเมนูเดียวอยู่หลายรอบเพื่อให้มั่นใจว่าจะได้รสชาติที่น่าพอใจ หรือแม้ว่าพวกเขาจะได้รับ feedback จากคนชิมอาหารว่ารสชาติไม่ถูกใจคนชิมมากพอ พวกเขาก็จะไม่จมปรักอยู่กับความผิดหวังหรือล้มเลิกถอดใจ แต่จะพยายามค้นหาว่าควรทำอย่างไรเพื่อพัฒนารสชาติอาหารให้ถูกใจคนชิมมากขึ้น นอกจากนั้นก็ยังมีความเชื่ออีกด้วยว่าแม้ในครั้งแรก ๆ อาจจะทำออกมาได้ไม่ดี แต่หากฝึกฝนอย่างต่อเนื่องฝีมือของตนเองก็จะพัฒนาขึ้นได้ คนที่มี Growth mindset จึงมักมีโอกาสประสบความสำเร็จสูงกว่าคนที่ไม่มี Growth mindset ซึ่งในบางครั้งก็ไม่ได้เป็นเพราะพวกเขาเป็นอัจฉริยะหรือมีพรสวรรค์ แต่เป็นเพราะพวกเขาเป็นคนแบบล้มเหลวแต่ไม่ล้มเลิกและไม่มีอะไรที่จะมาหยุดยั้งความพยายามของพวกเขาได้

iSTRONG Mental Health

ผู้ดูแลสุขภาพใจให้กับบุคคล ครอบครัว และองค์กร


บริการของเรา

สำหรับบุคคลทั่วไป

  • บริการปรึกษา จิตแพทย์และนักจิตวิทยา : http://bit.ly/3lmThUa  

  • คอร์สฝึกอบรมทักษะด้านจิตวิทยา : http://bit.ly/3RQfQwS 

สำหรับองค์กร

โทร. 02-0268949 หรือ Line : @istrong

บทความที่เกี่ยวข้อง 

ประวัติผู้เขียน

นิลุบล สุขวณิช (เฟิร์น) มีประสบการณ์ทำงานเป็นนักจิตวิทยาการปรึกษาในมหาวิทยาลัยและเป็นวิทยากรเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพจิต/การพัฒนาตนเองให้แก่นักศึกษาเป็นเวลา 11 ปี ปัจจุบันเป็นแม่บ้านในอเมริกาที่มีความสนใจเกี่ยวกับ childhood trauma และยังคงมีความฝันที่จะสื่อสารกับสังคมให้เกิดการตระหนักเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพจิต 

Nilubon Sukawanich (Fern) has work experiences as a counseling psychologist and speaker in university for 11 years. Currently occupation is a housewife in USA who keep on learning about childhood trauma and want to communicate to people about mental health problems awareness. 


iSTRONG ผู้ให้บริการด้านสุขภาพจิต Solutions ด้านสุขภาพจิต ให้คำปรึกษาโดยนักจิตวิทยา นักจิตบำบัด นักจิตวิทยาคลินิกที่มีใบรับรอง รวมถึงบทความจิตวิทยา

© 2016-2025 Actualiz Co.,Ltd. All rights reserved.

contact@istrong.co                     Call 02-0268949

  • Facebook Social Icon
  • YouTube Social  Icon
  • Instagram
  • Twitter
bottom of page