top of page

เป็นหัวหน้าที่ลูกน้องไม่เปิดใจ? 6 เทคนิคจิตวิทยา สู่การเป็นผู้นำที่คนไว้ใจ


iSTRONG เป็นหัวหน้าที่ลูกน้องไม่เปิดใจ? 6 เทคนิคจิตวิทยา สู่การเป็นผู้นำที่คนไว้ใจ

ความเงียบที่น่ากลัวกว่าความขัดแย้ง คุณอาจเคยเจอสถานการณ์นี้…

  • ประชุมทีไรเงียบ ลูกน้องไม่กล้าแสดงความคิดเห็น

  • เวลามีปัญหา พนักงานเลือกเก็บเงียบไว้ จนกลายเป็น “ระเบิดเวลา”

  • โครงการล้มเหลวเพราะไม่มีใครบอกความจริงตั้งแต่ต้น

  • บางครั้ง ลูกน้องลาออกไปแบบไม่พูดสักคำว่าทำไม


ความเงียบเหล่านี้ ไม่ได้แปลว่าทีม “โอเค” แต่แปลว่าพวกเขา “ไม่กล้า” และ “ไม่ไว้ใจ” มากพอที่จะพูดกับหัวหน้า และนี่คือสัญญาณอันตรายสำหรับผู้นำ เพราะมันหมายความว่า คุณกำลัง “ขาดข้อมูลจริง” ที่จะทำให้องค์กรเติบโต


ผู้นำที่ดีไม่ใช่คนสั่งเก่ง แต่คือคนที่ทีมไว้ใจ

ผู้นำจำนวนมากพยายามแก้ปัญหาด้วยการ “สั่งมากขึ้น” แต่ยิ่งสั่ง ทีมก็ยิ่งถอยห่าง ในความเป็นจริงแล้ว สิ่งที่ทำให้ลูกน้องไว้ใจและกล้าพูด ไม่ใช่อำนาจ แต่คือ “ทักษะจิตวิทยา” เกี่ยวกับเรื่องคนที่ผู้นำต้องมีและฝึกฝน


หนึ่งในวิธีที่ทรงพลังคือการใช้ “6 ทักษะของนักให้คำปรึกษา” ที่ออกแบบมาเพื่อสร้างการสื่อสาร การฟัง และการแก้ปัญหาอย่างแท้จริง เมื่อนำมาใช้กับการเป็นผู้นำ คุณจะเห็นความเปลี่ยนแปลงและผลลัพธ์ที่ชัดเจน เช่น ลูกน้องกล้าพูดมากขึ้น บรรยากาศทีมดีขึ้น และงานเดินหน้าเร็วขึ้น


6 ทักษะที่ทำให้ลูกน้องกล้าเปิดใจ

  1. Build Rapport ทำให้ลูกน้องรู้สึกปลอดภัย

    เริ่มจากความสัมพันธ์เล็ก ๆ เช่น การถามสารทุกข์สุขดิบ พูดคุยกันอย่างผ่อนคลายและมีท่าทีเป็นกันเอง เพราะเมื่อผู้นำผ่อนคลายและแสดงออกว่าพร้อมฟังโดยไม่ตัดสิน ใส่ใจเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ลูกน้องก็พร้อมเปิดใจมากขึ้น


  2. Empathize ฟังแบบเข้าใจจริง ๆ

    ลูกน้องไม่ต้องการหัวหน้าที่ “ฟังเพื่อตอบ” แต่ต้องการคนที่ “ฟังเพื่อเข้าใจ” แค่คุณสะท้อนหรือตอบกลับว่า “ผมเข้าใจว่าคุณกังวลเรื่องนี้จริง ๆ ฟังดูคุณกังวลมาก ๆ” ก็ทำให้พวกเขารู้สึกว่าเสียงของตนมีค่า และรับรู้ว่าคุณตั้งใจฟังในสิ่งที่เขาพูดจริงๆ


  3. Explore ถามเพื่อเจอปัญหาที่แท้จริง

    หลาย ๆ ครั้งลูกน้องไม่พูดตรง ๆ เพราะกลัวผลกระทบ การถามอย่างนุ่มนวล เช่น “จริง ๆ แล้ว อะไรทำให้คุณไม่สบายใจมากที่สุดในเรื่องนี้” ลูกน้องจะรู้สึกว่าเราใส่ใจในปัญหามากขึ้น และจะทำให้ปัญหาถูกเปิดเผย


  4. Define สรุปให้ตรงกัน

    ผู้นำที่ดีต้องทำให้ทีมเข้าใจว่าปัญหาคืออะไรจริง ๆ เช่น “สรุปแล้วสิ่งที่ทำให้ทีมติดขัดคือขั้นตอนอนุมัติที่ช้า ใช่ไหม”


  5. Find Way Out หาทางออกไปด้วยกัน

    แทนที่จะบอกว่า “คุณต้องแก้ปัญหาเอง” ให้ใช้วิธีคิดร่วมกัน เช่น “ถ้าเราลองปรับขั้นตอนนี้ คุณคิดว่าจะช่วยได้ไหม” สิ่งนี้จะทำให้ลูกน้องรู้สึกว่ามีหัวหน้าอยู่ข้าง ๆ พร้อมซัพพอร์ตเขา ไม่ใช่คู่ขัดแย้งกัน


  6. Reflect ปิดด้วยการเรียนรู้ร่วมกัน

    หลังเหตุการณ์หรือโปรเจกต์ จบแล้ว ลองถามทีมว่า “ครั้งนี้เราได้เรียนรู้อะไรที่ทำให้ดีขึ้นในครั้งหน้า” การสะท้อนร่วมกันจะช่วยพัฒนาสร้างวัฒนธรรมที่เติบโตและไว้ใจซึ่งกันและกันได้มากขึ้น


ตัวอย่าง Case Study

Case ที่ 1 : หัวหน้าที่เปลี่ยนทีมเงียบให้กล้าแชร์

คุณบีพบว่าทุกครั้งที่เข้าประชุม กับน้องๆ ในทีม ทีมของเธอจะเงียบมาก ไม่ค่อยมีใครกล้าพูดหรือเสนอไอเดียอะไรขึ้นมา ทุก ๆ การประชุมจบแบบนี้เสมอ ซึ่งผลลัพธ์คือโครงการมักจะเจอปัญหาที่ซ่อนอยู่เสมอ และระเบิดออกมาตอนท้าย ทำให้เกิดปัญหาอยู่เรื่อยๆ ต้องแก้ไขกันวุ่นวายเสมอ


คุณบีเริ่มเห็นความผิดปกติของบรรยากาศและการทำงาน เธอเริ่มฝึกใช้ Empathize และ Explore และทำความเข้าใจมากขึ้น

  • Empathize “เข้าใจว่าหลายคนอาจกังวลเรื่อง Timeline ที่บีบมากใช่มั้ย”

  • Explore “จริง ๆ แล้ว อะไรที่ทำให้คุณคิดว่างานอาจจะไม่ทัน”


สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ลูกน้องเริ่มกล้าแชร์ปัญหามากขึ้น พบปัญหาที่แท้จริง ทางคุณบีก็สามารถหาทางแก้ร่วมกัน น้อง ๆ ในทีมได้ และทุกคนรู้สึกเป็นทีมเดียวกัน รู้สึกว่าพวกเขาไม่ได้โดดเดี่ยว ผลลัพธ์คือ โครงการสำเร็จตรงเวลา และบรรยากาศทีมก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง


Case ที่ 2 : หัวหน้าที่สื่อสารทางเดียว

หัวหน้าคนหนึ่งเคยชินกับการประชุมแบบ “พูดฝ่ายเดียว” โดยคิดว่าลูกน้องจะฟังและปฏิบัติตาม แต่ผลที่เกิดคือ ลูกน้องไม่กล้าแทรก ไม่กล้าเสนอไอเดีย เพราะกลัวถูกปัดตกหรือถูกตำหนิ


แต่เมื่อหัวหน้าลองเปลี่ยนวิธีโดยใช้ Reflect ชวนลูกน้องทบทวน และ Explore เปิดโอกาสให้ถาม-ตอบ ลูกน้องเริ่มพูดมากขึ้น ผลลัพธ์ที่ได้คือ ทีมมีความคิดสร้างสรรค์มากกว่าเดิม และหัวหน้าเองก็ได้มุมมองใหม่ ๆ ที่ไม่เคยรู้มาก่อน


Case ที่ 3 : ทีมที่ Turnover สูงเพราะความเงียบ

องค์กรหนึ่งเคยมีปัญหา Turnover สูง เพราะพนักงานเก่ง ๆ รู้สึกว่า “พูดไปก็ไม่มีใครฟัง” เค้าจึงไม่จำเป็นต้องพูดอะไร ซึ่งหลังจากหัวหน้าฝึกใช้ Rapport หรือปรับมาใส่ใจในการสร้างความสัมพันธ์มากขึ้น และ Empathize ในการฟังโดยไม่ตัดสิน ใช้หัวใจฟังน้อง ๆ ในทีมจริง ๆ ทำให้ลูกน้องเริ่มรู้สึกว่าตนมีคุณค่าเสียงของตนมีความหมาย และมีความสุขกับการทำงานมากขึ้น ทำให้อัตราการลาออกจึงลดลง และทีมกลับมามีความมั่นคงอีกครั้ง


ความเงียบไม่ใช่ความสบายใจ แต่คือสัญญาณอันตราย ถ้าลูกน้องไม่กล้าพูด ไม่กล้าแชร์ ไม่กล้าคุย นั่นไม่ใช่เพราะพวกเขาไม่เก่ง แต่มันสะท้อนว่าผู้นำยังไม่สร้าง “พื้นที่ปลอดภัย” ให้พวกเขามากพอ และการสร้างพื้นที่นั้น ไม่ได้เกิดจากอำนาจหรือคำสั่ง แต่เกิดจากทักษะการฟัง การเข้าใจ และการชวนให้ทีมก้าวไปด้วยกัน ซึ่งทั้งหมดนี้คือสิ่งที่คุณเลือกฝึกได้ และจะเปลี่ยนคุณให้เป็นผู้นำที่คนไว้ใจอย่างแท้จริง


การเป็นผู้นำที่ไว้ใจได้ เริ่มจากทักษะที่ฝึกได้จริง

ทักษะเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่อ่านแล้วเข้าใจทันที แต่คือสิ่งที่ต้อง “ลงมือฝึก” ถ้าคุณอยากฝึกอย่างจริงจัง จนทักษะเหล่านี้กลายเป็นส่วนหนึ่งของตัวคุณ หลักสูตรทักษะจิตวิทยาการให้คำปรึกษา ของ iSTRONG คือคำตอบที่จะช่วยคุณพัฒนาทักษะจิตวิทยาได้จริง ในหลากหลายมิติ


จุดเด่นของหลักสูตรจิตวิทยาการให้คำปรึกษาจาก iSTRONG

  • คลาสเล็ก จำกัดจำนวน ดูแลใกล้ชิด เพื่อให้ผู้เรียนได้รับทักษะอย่างเต็มที่

  • เน้นปฎิบัติฝึกจริง ไม่ใช่แค่ทฤษฎี ได้ลองใช้ทักษะทันทีในห้องเรียน เรียนรู้ผ่านการฝึกฝนผ่านการลงมือปฎิบัติจริง

  • สอนโดยจิตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ได้รับความรู้ทักษะ ที่ลึกซึ้งจากผู้เชี่ยวชาญ ที่มีประสบการณ์โดยเฉพาะ นำไปต่อยอดในรูปแบบการทำงาน ความสัมพันธ์ และชีวิตส่วนตัว


ประโยชน์ต่อผู้นำ

  • ลูกน้องกล้าพูด กล้าแชร์ ทำให้คุณเห็นปัญหาก่อนจะสายเกินไป

  • ลดความเหนื่อยจากการต้องเดาใจทีม เพราะคุณฟังและเข้าใจพวกเขาจริง ๆ

  • ได้ทักษะการสื่อสารที่ใช้ได้ทั้งในงานและชีวิตส่วนตัว


ประโยชน์ต่อการทำงานและองค์กร

  • ลด conflict และดราม่าในที่ทำงาน

  • ทีมมีความไว้วางใจ บรรยากาศการทำงานดีขึ้น

  • เพิ่มประสิทธิภาพงาน เพราะการสื่อสารตรงประเด็นและแก้ปัญหาได้เร็ว


ประโยชน์ต่อคนรอบข้าง/ครอบครัว

  • เป็นผู้นำที่ฟังเป็น เข้าใจเป็น กลายเป็นแรงบันดาลใจให้ทีมอยากเดินตาม

  • ความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานและครอบครัวดีขึ้น เพราะคุณรู้จักใช้ทักษะเดียวกันกับทุกคนรอบตัว

iSTRONG Mental Health

ผู้ดูแลสุขภาพใจให้กับบุคคล ครอบครัว และองค์กร


บริการของเรา

สำหรับบุคคลทั่วไป

  • บริการปรึกษา จิตแพทย์และนักจิตวิทยา : http://bit.ly/3lmThUa  

  • คอร์สฝึกอบรมทักษะด้านจิตวิทยา : http://bit.ly/3RQfQwS 

สำหรับองค์กร

โทร. 02-0268949 หรือ Line : @istrong



iSTRONG ผู้ให้บริการด้านสุขภาพจิต Solutions ด้านสุขภาพจิต ให้คำปรึกษาโดยนักจิตวิทยา นักจิตบำบัด นักจิตวิทยาคลินิกที่มีใบรับรอง รวมถึงบทความจิตวิทยา

© 2016-2025 Actualiz Co.,Ltd. All rights reserved.

contact@istrong.co                     Call 02-0268949

  • Facebook Social Icon
  • YouTube Social  Icon
  • Instagram
  • Twitter
bottom of page