Influence ด้วยใจ ไม่ใช่ด้วยตำแหน่ง ศาสตร์จิตวิทยาที่หัวหน้าควรเข้าใจ
- iStrong team
- 1 day ago
- 2 min read

ในโลกของการทำงานจริง ๆ ไม่มีหัวหน้าคนไหนอยากเป็น “เจ้านายที่ลูกน้องไม่กล้าเข้าใกล้” แต่หลายครั้งที่หัวหน้าพูดด้วยเจตนาดี กลับกลายเป็นการสร้าง “กำแพง” โดยไม่รู้ตัว
“ฉันพูดไปก็เท่านั้น”
“เขาไม่ฟังฉันหรอก”
“ลูกน้องเดี๋ยวนี้อ่อนไหวเกิน”
นี่คือเสียงในใจของหัวหน้าหลายคนที่ไม่เข้าใจว่า ทำไมคำพูดของเราถึงไม่ถูก “ได้ยิน” ในแบบที่เราตั้งใจ เพราะความจริงแล้วการสื่อสารระหว่างคนไม่ได้เกิดแค่ “จากปาก” แต่เกิด “จากภาวะภายใน” เวลาหัวหน้าสั่งงานด้วยน้ำเสียงจริงจัง ลูกน้องอาจไม่ได้ยินว่า “งานต้องเสร็จ” แต่ได้ยินว่า “ฉันไม่พอใจในตัวเธอ” และเวลาลูกน้องตอบกลับด้วยท่าทีหงุดหงิด หัวหน้าอาจไม่ได้ยินว่า “ผมเหนื่อย” แต่ได้ยินว่า “เธอกำลังเถียงฉันอยู่”
การสื่อสารที่ขาดความเข้าใจใน “จิตวิทยาภาวะ” (Psychological State) จึงเป็นเหตุให้ความสัมพันธ์ในทีมค่อย ๆ พัง โดยไม่มีใครตั้งใจจะให้มันเป็นแบบนั้นเลย หัวหน้าที่ “เข้าใจงาน” มีเยอะ แต่หัวหน้าที่ “เข้าใจคน” มีน้อย และสิ่งที่ขาดไม่ใช่ทักษะการสั่ง แต่คือ ความเข้าใจในกลไกของการสื่อสารระหว่างภาวะจิตใจของคน 2 ฝ่าย
ศาสตร์ที่อธิบายเรื่องนี้ได้ดีที่สุด คือ Transactional Analysis (TA)
Transactional Analysis (TA) หรือ “ทฤษฎีการวิเคราะห์ปฏิสัมพันธ์ทางจิตใจ” บอกว่า ทุกคนมี “ภาวะจิต” อยู่ 3 รูปแบบ
ซึ่งจะสลับไปมาโดยไม่รู้ตัวระหว่างการพูดคุย
Parent State ภาวะพ่อแม่
เป็นภาวะที่เต็มไปด้วยการ “ควบคุม ตัดสิน หรือสั่งสอน” เช่น หัวหน้าพูดว่า “ทำไมถึงทำผิดอีกแล้ว ฉันบอกไปกี่ครั้ง” ผู้ฟังจะรู้สึกเหมือนถูกตำหนิทันที
Child State ภาวะเด็ก
คือภาวะที่ตอบสนองด้วย “อารมณ์ ความดื้อ ความกลัว หรือการป้องกันตัว” เช่น ลูกน้องตอบกลับว่า “ก็ผมพยายามแล้วนี่ครับ!”
Adult State ภาวะผู้ใหญ่
คือภาวะที่ใช้ “เหตุผล ความเข้าใจ และการรับฟัง” เช่น หัวหน้าพูดว่า “เข้าใจนะว่างานนี้กดดันมาก ลองช่วยกันดูไหมว่าจะจัดการยังไงให้ดีขึ้น”
ซึ่งหัวหน้าที่สื่อสารด้วย ภาวะผู้ใหญ่ (Adult State) จะสร้าง “พลังแห่งอิทธิพล” ได้มากกว่า เพราะทีมรู้สึกปลอดภัยและเคารพโดยไม่ต้องถูกบังคับ
5 วิธีเปลี่ยนบทสนทนาในทีม ด้วยหลัก TA
สังเกตตัวเองก่อนสื่อสาร
ถามตัวเองว่า ตอนนี้เรากำลังพูดจากภาวะไหน? ถ้าเสียงในหัวเริ่มเป็น “ฉันถูก เธอผิด” แสดงว่าเราเข้าสู่ Parent State แล้ว ให้หยุดหายใจและกลับมาอยู่ในภาวะ Adult ที่พร้อมจะ “เข้าใจ ไม่ใช่ตัดสิน”
ไม่ตอบกลับด้วยอารมณ์ของอีกฝ่าย
ถ้าลูกน้องเริ่มพูดด้วยอารมณ์ (Child State) อย่าตอบด้วยอารมณ์เดียวกัน เพราะจะกลายเป็น “เกมเถียง” ให้คงน้ำเสียงนิ่ง สุภาพ ใช้เหตุผล และสะท้อนกลับด้วยความเข้าใจ เช่น “ผมรู้ว่าคุณเหนื่อย แต่เรามาช่วยกันหาทางออกดีกว่าไหม”
เปลี่ยนคำสั่งเป็นคำชวน
จาก “รีบส่งงานให้ทันวันนี้นะ” เป็น “คิดว่าเราจะจัดการยังไงให้ทันดี?” คำชวนแบบนี้จะเปลี่ยนการสื่อสารจาก “Parent → Child” เป็น “Adult ↔ Adult” ซึ่งเป็นบทสนทนาที่เท่ากันทางจิตใจ
สะท้อนมุมมองโดยไม่ตัดสิน
เช่น “ผมเข้าใจว่าคุณตั้งใจ แต่บางจุดอาจต้องปรับอีกนิดนะครับ” นี่คือการรักษาความสัมพันธ์โดยไม่ลดมาตรฐานงาน
ใช้ Feedback เป็นเครื่องมือสร้าง Growth ไม่ใช่ควบคุม
ทุกครั้งที่พูดกับทีม ให้คิดเสมอว่า “ฉันกำลังพูดเพื่อให้เขาเติบโต” เพราะเมื่อหัวหน้าพูดจากภาวะ Adult จริง ๆ ทีมจะไม่รู้สึกว่ากำลังถูกตัดสิน แต่รู้สึกว่ากำลังถูก “พัฒนา”
ตัวอย่าง Case Study
Case ที่ 1 : HR หัวหน้าที่ไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ใน Parent State
คุณมาย หัวหน้าฝ่ายบัญชี มีนิสัยพูดตรงและคาดหวังสูงมาก เวลาเจองานผิด เธอมักพูดว่า “เรื่องแค่นี้ยังพลาดอีกเหรอ!”
ทำให้ลูกน้องเริ่มหลีกเลี่ยง ไม่กล้าสื่อสาร จนวันหนึ่งเธอเข้าใจแนวคิด TA และเริ่มเข้าใจว่าตัวเองติดอยู่ใน Parent State คือใช้แต่การควบคุม
หลังจากรู้อย่างนั้น เธอเริ่มเปลี่ยนวิธีพูดเวลาที่เกิดปัญหาแบบเดิมในเรื่องงาน เช่น “ฉันเห็นว่ามีจุดนี้ที่เราพลาดไป ลองช่วยกันดูไหมว่าจะแก้ยังไงดี?” เพียงไม่กี่สัปดาห์ บรรยากาศทีมเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด ลูกน้องเริ่มกล้าพูด กล้าเสนอ และผิดพลาดน้อยลง
Case ที่ 2 : ลูกน้องตอบโต้แรง เพราะหัวหน้าเผลอเป็น “เด็ก” เหมือนกัน
คุณบอส หัวหน้าทีมเซลส์ ขึ้นเสียงใส่ลูกทีมที่มาสาย ลูกน้องตอบกลับทันทีว่า “ก็ผมติดลูกค้าครับ จะให้ทำไง!”
บอสเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะนึกถึงหลักการ TA ที่ทำให้เขารู้ว่า จากรูปแบบคำพูดนี้ ทั้งเขาและน้องหลุดเข้าสู่ Child State คือการพูดจาก “อารมณ์” ไม่ใช่ “เหตุผล”
เขาจึงหยุด หายใจ แล้วพูดใหม่อย่างสงบว่า “โอเค ผมเข้าใจนะว่าคุณติดงานลูกค้า งั้นคราวหน้าแจ้งไว้ก่อนละกันนะ จะได้ช่วยกันจัดตารางให้ดีขึ้น” ลูกน้องเงียบ แล้วตอบกลับอย่างอ่อนโยนว่า “ครับ ขอโทษครับหัวหน้า” สถานการณ์ที่เกือบลุกลาม ก็กลับจบลงด้วยความเข้าใจ
Case ที่ 3 : ผู้บริหารที่เปลี่ยนองค์กรด้วยการ “ฟังอย่างผู้ใหญ่”
คุณภพ CEO บริษัทโลจิสติกส์ระดับประเทศ สื่อสารกับทีมด้วยความคาดหวังสูงและอารมณ์ กดดันจนทีมรู้สึกว่าเขา “เอาแต่สั่ง” อยู่เสมอ วันหนึ่งเขาเข้าร่วมเวิร์กช็อปเรื่อง TA และเรียนรู้ว่า ผู้นำที่อยู่ใน “Adult State” คือคนที่ “รู้จักใช้เหตุผลกับอารมณ์อย่างสมดุล”
เขาจึงเริ่มฝึกฟังลูกน้องให้จบก่อนพูดทุกครั้ง และใช้คำถามแบบเปิด เช่น “คุณคิดว่าวิธีไหนเหมาะกับสถานการณ์นี้ที่สุด?”
ผลคือ องค์กรเริ่มมีวัฒนธรรมของ “การสื่อสารด้วยความเคารพ” ไม่ใช่ “การสั่งด้วยอำนาจ” อีกต่อไป
หากคุณเข้าใจหลักจิตวิทยาการสื่อสาร จะทำให้คุณเปลี่ยนจากหัวหน้าที่สั่ง เป็นหัวหน้าที่เข้าใจ เพราะหัวหน้าที่มี “อำนาจ” จะได้แค่ “การเชื่อฟัง” แต่หัวหน้าที่มี “จิตวิทยา” จะได้ทั้ง “ใจ” และ “ความร่วมมือ”
เพราะสุดท้ายมันไม่ใช่แค่ “พูดให้ฟังรู้เรื่อง”แต่ต้อง “พูดให้คนรู้สึกว่าได้รับการเข้าใจ” จริงๆ
ซึ่งในหลักสูตร The Art of Influence จาก iSTRONG ออกแบบมาเพื่อผู้ที่อยากเข้าใจศาสตร์ของ “Transactional Analysis (TA)” และนำไปใช้จริงในการสื่อสารกับคนทำงานยุคใหม่ เพื่อยกระดับการสื่อสารและเข้าใจมนุษย์ในระดับลึก
คุณจะได้รู้ทักษะเรื่องนี้นี้เพิ่มเติมอย่างลึกซึ้งกับนักจิตวิทยาที่มากประสบการณ์ รวมทั้งได้ฟังเคสตัวอย่างการใช้จำนวนมาก พร้อมกิจกรรมการฝึกปฏิบัติในคลาสที่เหมาะสำหรับที่ทำงาน ชีวิตประจำวัน ครอบครัว และสถานการณ์ที่หลากหลาย
ประโยชน์ต่อตนเอง
เข้าใจ 3 ภาวะจิต (Parent Adult Child) อย่างลึกซึ้ง
รู้วิธีควบคุมอารมณ์และเลือกภาวะให้เหมาะกับสถานการณ์
สื่อสารได้อย่างมั่นใจและสร้างอิทธิพลด้วยใจ
ประโยชน์การทำงาน
เข้าใจพฤติกรรมและการตอบสนองของลูกน้อง
ใช้บทสนทนาเชิง TA เพื่อสร้างความไว้วางใจและแรงจูงใจ
เปลี่ยนการสื่อสารที่เคยเป็น “คำสั่ง” ให้กลายเป็น “แรงบันดาลใจ”
ประโยชน์ต่อองค์กร
สร้างวัฒนธรรม “Adult to Adult Communication”
ลดความขัดแย้ง เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานระหว่างทีม
เปลี่ยนหัวหน้าทั่วไปให้กลายเป็น “ผู้นำที่เข้าใจจิตใจคน” อย่างแท้จริง
iSTRONG Mental Health
ผู้ดูแลสุขภาพใจให้กับบุคคล ครอบครัว และองค์กร
บริการของเรา
สำหรับบุคคลทั่วไป
บริการปรึกษา จิตแพทย์และนักจิตวิทยา : http://bit.ly/3lmThUa
คอร์สฝึกอบรมทักษะด้านจิตวิทยา : http://bit.ly/3RQfQwS
สำหรับองค์กร
EAP โปรแกรมสำหรับองค์กร : http://bit.ly/3RLI8Z8
โทร. 02-0268949 หรือ Line : @istrong
