เมื่อเรายิ้มแต่ไม่ได้สุขใจ สังเกตอย่างไรว่าเป็น Smiling Depression

เรามักจะติดภาพว่าผู้ป่วยโรคซึมเศร้าต้องเศร้าต้องซึมสีหน้าต้องอมทุกข์ แต่บทความจิตวิทยานี้จะชวนมารู้จักอาการหนึ่งของโรคซึมเศร้า ที่หน้ายิ้ม แต่ใจเศร้า ที่เรียกว่า Smiling Depression
Smiling Depression
เป็นอาการของคนที่ยิ้มง่ายภายนอกดูร่าเริง แต่ภายในใจเศร้าโศกแตกสลาย เมื่ออยู่ตามลำพังคนที่มีภาวะ Smiling Depression จะร้องไห้ฟูมฟายเศร้าซึมอย่างหนัก แต่พอต้องอยู่กับคนอื่น ๆ ผู้ที่มีภาวะ Smiling Depression จะฝืนยิ้มทำตัวดูมีความสุขเพื่อให้คนรอบข้างต้องมาห่วงใย
ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญทางจิตวิทยาให้ข้อมูลว่า Smiling Depression มีสาเหตุหลัก ๆ ดังนี้
1. ห่วงใยความรู้สึกคนรอบข้างมากกว่าตัวเอง
สาเหตุนี้มาจากการที่ผู้ป่วยโรคซึมเศร้ารู้ตัวเองว่าตนเองกำลังป่วยอยู่ และมีความกังวลว่าคนรอบข้าง คนที่เขารักจะต้องมาเครียดไปกับอาการเจ็บป่วยของเขาด้วย เขาจึงได้เก็บกดอาการซึมเศร้าเอาไว้ภายใต้ใบหน้ายิ้มแย้ม และพยายามทำตัวให้เป็นปกติ แต่ภายในถูกกัดกร่อน และกำลังพังทลาย
2. รู้สึกกดดันจากความคาดหวัง
นอกจากความกดดันหรือคาดหวังเกินความเป็นจริงจะส่งผลให้เกิดภาวะ Smiling Depression แล้ว ยังเป็นสาเหตุหลักให้เกิดโรคซึมเศร้าอีกด้วย เพราะความคาดหวังที่เกินความเป็นจริงจะสร้างความกดดันมหาศาลให้แก่ผู้ถูกคาดหวัง จนทำลายความมั่นใจทำลายตัวตนจนเกิดเป็นโรคซึมเศร้าขึ้นมา
3. เป็นกลไกทางจิตในการเก็บอาการซึมเศร้า
สาเหตุการใช้กลไกทางจิตหรือในทางจิตวิทยาเรียกว่า Defense Mechanism เช่นนี้นั้น เนื่องจากผู้ป่วยโรคซึมเศร้ากำลังพยายามปฏิเสธอาการป่วยและพยายามฝืนใช้ชีวิตให้เป็นปกติ เพื่อบอกตัวเองว่าฉันสบายดี ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้มีความสบายใจเลยแม้แต่น้อย
4. พยายามจัดการไม่ให้อาการซึมเศร้าคุกคามชีวิต
การที่ผู้ป่วยซึมเศร้าพยายามฝืนยิ้มและใช้ชีวิตให้เป็นปกตินั้น เป็นเพราะพวกเขาพยายามจัดการไม่ให้อาการซึมเศร้าคุกคามชีวิตและป้องกันไม่ให้โรคซึมเศร้าทำลายชีวิตจึงให้การยิ้มสู้ แต่นั่นกลับยิ่งทำให้ภายในเศร้าและรู้สึกแย่กว่าเดิม
แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเรากำลังอยู่ในภาวะ Smiling Depression ซึ่งผู้เชี่ยวชาญทางจิตวิทยาได้ให้ข้อมูลเอาไว้ ดังนี้ค่ะ
1. ยิ้มแย้มแจ่มใส แต่ในใจเศร้าซึม
ผู้ที่มีภาวะ Smiling Depression มีข้อสังเกตง่าย ๆ เลยก็คือ ทุกครั้งที่คุณยิ้มคุณไม่รู้สึกถึงความสุขหรือความรู้สึกทางบวกที่เกิดขึ้นเลย มีแต่หน้าเท่านั้นที่ยิ้ม แต่ภายในใจกรีดร้องเศร้าซึมหม่นหมอง
2. หัวร้อน ความอดทนต่ำกว่าปกติ
หากคุณเคยเป็นผู้อารมณ์ดี แต่อยู่ ๆ กลับหงุดหงิดง่าย หัวร้อน ความอดทนต่อผู้คนหรือสถานการณ์ต่ำ แต่ถึงแม้ภายในจะคุกรุ่นอย่างไร แต่หน้าก็ยังต้องฝืนยิ้มออกมา นั่นเป็นสัญญาณว่าคุณอาจกำลังเข้าสู่ภาวะ Smiling Depression
3. เบื่อเหนื่อยหน่ายไปทุกเรื่อง แม้แต่เรื่องที่ชอบมากก็ตาม
อาการเบื่อเหนื่อยหน่ายใจอ่อนล้าอ่อนเพลียไม่มีพลังในการใช้ชีวิต นอกจากจะเป็นสัญญาณของภาวะ Smiling Depression แล้ว หากเราปล่อยเอาไว้ไม่ดูแลรักษาก็อาจนำไปสู่โรคซึมเศร้าที่แท้จริงก็เป็นได้ ซึ่งจะมีอาการรุนแรงมากกว่า และรักษายากมากกว่า
4. ต้องฝืนใช้ชีวิตให้เป็นปกติ
หากคุณเกิดความรู้สึกว่าการใช้ชีวิตในแต่ละวันต้องใช้พลังงานชีวิตมหาศาลในการที่จะพาตัวเองออกจากบ้านมาทำงาน มาใช้ชีวิต และยังต้องใช้ความพยายามอย่างมากที่จะแสดงออกให้เป็นปกติ ทั้งฝืนยิ้มหัวเราะทำตัวสดใสร่างเริง นั่นเป็นสัญญาณว่าคุณอาจกำลังมีภาวะ Smiling Depression อยู่ก็เป็นได้ค่ะ
5. รู้สึกว่าตนเองไม่มีคุณค่า
สัญญาณอันตรายอีกข้อของ Smiling Depression ก็คือ ผู้ที่มีภาวะซึมเศร้าเริ่มรู้สึกว่าตนเองไร้ค่า ตัวตนถูกทำลาย มีความคิดจะทำร้ายตนเองไม่อยากมีชีวิตอยู่และอันตรายถึงขั้นลงมือทำร้ายตนเอง
6. มีอาการนอนผิดปกติ
เมื่อคุณนอนมากผิดปกติตื่นมาก็นอนต่อ เพราะไม่อยากลุกออกไปใช้ชีวิตหรือมีอาการนอนน้อยนอนไม่หลับเพราะเครียด วิตกกังวล หากมีอาการนอนผิดปกติเป็นเวลานานควรพบแพทย์ดูนะคะ เพื่อป้องกันการพัฒนาไปสู่ภาวะซึมเศร้า หรือภาวะ Smiling Depression ในอนาคต
7. มีอาการกินผิดปกติ
นอกจากการนอนผิดปกติแล้ว หากคุณมีพฤติกรรมการกินที่ผิดแปลกไปจากเดิม เช่น กินน้อยลงจนวัน ๆ หนึ่งแทบจะไม่กินอะไรเลยหรือกินมากแบบไม่มีเหตุผล อิ่มแล้วก็ยังกินอยู่หรือกินทั้งวัน นั่นก็เป็นสัญญาณหนึ่งของภาวะ Smiling Depression ค่ะ
8. มีปัญหาเรื่องความจำ และการใช้สมาธิ
และสัญญาณสุดท้าย ก็คือ มีปัญหาเรื่องความทรงจำและสมาธิ เริ่มจำเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่ได้ นึกชื่ออะไรก็ติดอยู่ที่ปาก จะพูดอะไรก็ติดขัดเหมือนสมองไม่แล่นไม่ค่อยมีสมาธิในการเรียนหรือการทำงาน จดจ่อความสนใจไม่ได้ นั่นแสดงว่าถ้าคุณไม่พักผ่อนน้อยก็กำลังมีภาวะ Smiling Depression อยู่ค่ะ
และถ้าคุณสังเกตตัวเองพบว่ามีอาการเข้าข่าย Smiling Depression ก็อย่าเพิ่งตกใจไป ผู้เชี่ยวชาญทางจิตวิทยาได้มีข้อแนะนำในการดูแลตนเองสำหรับผู้ที่มีภาวะ Smiling Depression ดังนี้ค่ะ
1. ระบายความในใจให้คนที่ไว้ใจได้
วิธีที่ง่ายที่สุดและบรรเทาอาการซึมเศร้าได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ ก็คือ การระบายความทุกข์ใจให้คนที่เรารักฟัง ซึ่งไม่จำเป็นต้องไปพูดคุยในห้องส่วนตัวอย่างเป็นทางการเหมือนคุยกับจิตแพทย์ แค่เราสามารถโทรศัพท์พูดคุยหรือพิมพ์แชทพูดความในใจกับคนที่เรารักก็สามารถระบายความในใจได้แล้วค่ะ
2. ออกไปใช้ชีวิตอย่างที่ต้องการบ้าง
หากชีวิตมันเครียด มันอ่อน มันล้า ควรพักแล้วออกไปใช้ชีวิตที่ต้องการบ้าง เช่น ออกไปเที่ยว ออกไปผจญภัย ออกไปตามล่าหาฝันที่เคยทิ้งไปนานแล้วเพื่อเติมไฟในการใช้ชีวิตให้ชีวิตสดชื่นสดใสมากขึ้น
3. พักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกายให้แข็งแรง
เพื่อเสริมความแข็งแกร่งทั้งร่างกายและจิตใจ เราจึงต้องพักผ่อนให้เพียงพอและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ร่างกายได้ฟื้นฟูจิตใจได้แจ่มใสและมีสุขภาพกายและใจที่แข็งแรงเพื่อการใช้ชีวิตที่มีคุณภาพ
4. ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางจิตวิทยา
และข้อแนะนำสุดท้ายสำหรับผู้ที่มีภาวะ Smiling Depression ก็คือ ควรหาเวลาไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางจิตวิทยา เช่น นักจิตวิทยา จิตแพทย์ นักจิตบำบัด เพื่อรักษาภาวะซึมเศร้าได้อย่างตรงจุด และกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขอย่างที่ควรจะเป็นค่ะ
การที่เราจัดการกับภาวะ Smiling Depression ได้อย่างตรงจุดนั้น แรกที่สุดเราต้องเริ่มที่การยอมรับตัวเราเองก่อนค่ะว่าเรากำลังมีภาวะซึมเศร้า เราไม่โอเคกับชีวิตของเราตอนนี้ และเมื่อเรายอมรับความรู้สึกภายในของเราได้แล้ว เราจึงค่อยเข้าสู่แนวทางการดูแลตนเองตามที่ได้แนะนำข้างต้นเพื่อรักษาเยียวยาจิตใจให้มีความสุขมากขึ้นค่ะ
หากคุณต้องการผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์เพื่อช่วยเหลือให้คำแนะนำในเรื่องสุขภาพใจเกี่ยวกับ ภาวะ Smiling Depression สามารถติดต่อเพื่อพูดคุยปรึกษานักจิต จิตแพทย์ ผ่านบริการดูแลสุขภาพจิตจาก iSTRONG ได้เลยนะคะ
iSTRONG Mental Health
ผู้ดูแลสุขภาพใจให้กับบุคคล ครอบครัว และองค์กร
บริการของเรา
สำหรับบุคคลทั่วไป
บริการปรึกษา จิตแพทย์และนักจิตวิทยา : http://bit.ly/3lmThUa
คอร์สฝึกอบรมทักษะด้านจิตวิทยา : http://bit.ly/3RQfQwS
สำหรับองค์กร
EAP โปรแกรมสำหรับองค์กร : http://bit.ly/3RLI8Z8
โทร. 02-0268949 หรือ Line : @istrong
บทความแนะนำ :
อ้างอิง : คมสันต์ เกียรติรุ่งฤทธิ์. (21 มีนาคม 2567). Smiling Depression ยิ้มง่ายแต่ภายในแตกสลาย. [ออนไลน์]. สืบค้นเมื่อ 4 กรกฎาคม 2567 จาก https://www.rama.mahidol.ac.th/ramachannel/article/smiling-depression%E0%B8%A2%E0%B8%B4%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B8%87%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%81%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%95%E0%B8%81%E0%B8%AA/
จันทมา ช่างสลัก บัณฑิตจิตวิทยาคลินิกจากรั้ว มช. และมหาบัณฑิตจาก NIDA ปัจจุบันเป็นคุณแม่ลูก 1 ผู้เป็นทาสแมว ที่มุ่งมั่นจะพัฒนาการเขียนบทความจิตวิทยาให้โดนใจผู้อ่าน และสร้างแรงกระเพื่อมทางสังคม ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกบนโลกใบนี้