top of page

7 เทคนิคจิตวิทยาในการบริหารจัดการทีมในภาวะวิกฤติ ตามสไตล์ออนนี่ Squid Game Season 2

iSTRONG 7 เทคนิคจิตวิทยาในการบริหารจัดการทีมในภาวะวิกฤติ ตามสไตล์ออนนี่ Squid Game Season 2

ใน Squid Game Season 2 เมื่อปี 2567 ได้สตีมมิ่งพร้อมกันทั่วโลก เกิดเป็นกระแสถูกพูดถึงอย่างมากในโลกออนไลน์ โดยเฉพาะตัวละครใหม่อย่าง “ออนนี่” LGBT อดีตทหารหน่วยรบพิเศษ ผู้อ่อนโยน แต่ไม่อ่อนแอ


ซึ่งใน Ep 5 ตอนเล่นเกมหกขา ฝ่า 5 ด้านมินิเกม การนำพาทีมจนสามารถเล่นเกมผ่านทุกด่านและเข้าเส้นชัยเป็นทีมแรกภายใน 5 นาที ของออนนี่ ก็สามารถนำมาเชื่อมโยงได้ถึงเทคนิคจิตวิทยาในการบริหารจัดการทีมในภาวะวิกฤติ ดังนี้ค่ะ


  1. Growth Mindset ที่ดีนำไปสู่ Cognitive Empathy

    สิ่งที่ออนนี่โดดเด่น และทำให้ออนนี่มีความเป็นผู้นำตามธรรมชาติ ก็คือ “ความมีสติ” ค่ะ ในขณะที่ผู้เล่นโดยส่วนใหญ่ของ Squid Game Season 2 จะสติแตกเพราะเจอกับความกดดันในเกม จนทำให้เล่นพลาดเอง


    แต่ออนนี่ด้วยความที่ได้เล่นเกมหกขาเป็นทีมที่ 3 กลับนั่งมองผู้เล่นทีมที่ 1 และ 2 เล่น ด้วยสติ พิจารณาข้อผิดพลาดของทีมอื่น ไปพร้อม ๆ กับวางกลยุทธ์ให้ทีมตนเอง เมื่อถึงเวลาเล่นเกม ออนนี่ก็คุมเกมอยู่ และเป็นผู้ที่คอยดึงสติสมาชิกทีม คอยบอกแผนและเทคนิคการเล่นเกม จนพาทีมเข้าเส้นชัยได้ท่ามกลางความดีใจของผู้เล่นอื่น ๆ


  2. กลยุทธ์ดีมีชัยไปกว่าครึ่ง

    กลยุทธ์แรกที่ออนนี่ใช่ในจิตวิทยาการบริหารจัดการทีมในภาวะวิกฤติ ก็คือ การมอบหมายงานตามความถนัดของสมาชิกทีม ด้วยความที่สมาชิกโดยส่วนใหญ่ไม่รู้จักกันมาก่อน ออนนี่จึงให้อิสระในการเลือกเล่นเกมของสมาชิกทีม


    ซึ่งผลที่ออกมา สมาชิกทีมสามารถเล่นเกมผ่านได้ค่อนข้างดีทีเดียว กลยุทธ์ที่ 2 ของออนนี่ คือ เรียนรู้จากความผิดพลาดของคนอื่น เนื่องจากในเกมหกขา ผู้เล่นทั้ง 5 คนจะถูกมัดขาติดกัน จนเสมือน 5 คน มี 6 ขา และความยากของการมัดขาติดกัน ก็คือ การเดินทางต้องใช้เวลานาน


    ดังนั้น ในเกมที่ต้องอาศัยการเดินไป เดินกลับ ออนนี่จึงให้ทีมใช้วิธีนับ 1 – 2 เวลาเดิน เพื่อให้ก้าวขาไปพร้อมกัน และเมื่อต้องเดินกลับที่เดิม ก็ใช้วีเดินถอยหลังแทน ซึ่งช่วยประหยัดเวลาไปได้อย่างมาก


  3. เข้าใจในความแตกต่างและธรรมชาติของสมาชิกทีม

    สมาชิกทีมของออนนี่ ต้องบอกเลยว่าเป็นทีมพิเศษ เพราะสมาชิกทีมแต่ละคนเป็นคนที่ไม่มีผู้เล่นคนอื่นเลือกเข้าทีม เช่น ออนนี่ แม้จะแข็งแรง ดูคล่องแคล่ว แต่ด้วยความที่เป็น LGBT ชัดเจน ซึ่งขัดกับค่านิยมเรื่องเพศสภาพของผู้เล่น Squid Game Season 2 ส่วนใหญ่


    จึงทำให้ออนนี่ถูกปฏิเสธการเข้าร่วมทีม หรือคู่แม่ลูก 007 และ 149 ที่ถึงแม้ผู้เล่นอื่นจะสนใจให้ผู้เล่น 007 เข้าร่วมทีม แต่ด้วยความที่ไม่อยากทิ้งแม่ที่เป็น “คนแก่” ในสายตาคนอื่น ทั้งสองคนก็ถูกปฏิเสธการเข้าร่วมทีม และคุณร่างทรง หมายเลข 044 ที่น่าลำไย น่าหมั่นไส้ ชอบพูดจาดูถูกคนอื่น จึงไม่มีใครเลือกเข้าร่วมทีม เป็นต้น


    แต่เมื่อทุกคนมาอยู่ภายใต้การนำของออนนี่ ออนนี่ก็ค้นหาจุดแข็งและจุดพัฒนาของแต่ละคนได้อย่างรวดเร็ว และส่งเสริมกำลังใจให้แต่ละคน จนนำพาทีมถึงเส้นชัยได้


  4. ไม่กดดันสมาชิกทีม

    ทุกครั้งที่มีสมาชิกทีมเล่นพลาด ออนนี่ จะให้กำลังใจเสมอ ว่า “ลองใหม่” “ยังมีเวลา” “คุณทำได้” ดังที่น้องผู้หญิงในทีมที่เล่นตั๊กจีไม่ผ่านหลายรอบ ออนนี่ ก็ยังให้กำลังใจ และแนะนำเทคนิคการเล่น จนสามารถเล่นผ่านได้


    หรืออย่างคุณร่างทรงปากแจ๋ว ที่ดูมั่นใจมากว่าจะเล่นลูกข่างผ่าน เพราะเทพชี้นำ แต่ก็เล่นไม่ผ่านเสียทีจนสติแตก ออนนี่ก็เรียกสติมาให้ แม้จะใช้วิธีรุนแรงแต่ก็เหมาะกับคุณร่างทรงอยู่ และถูกใจผู้ชมอย่างเรา จนคุณร่างทรงสามารถเล่นผ่าน


    หรือแม้แต่ตอนที่ออนนี่เดาะเชกีชากี ออนนี่ให้สมาชิกทีมและผู้เล่นคนอื่น ๆ หันหน้าไปทางอื่นก่อน เพื่อลดความกดดัน จนสามารถทำได้สำเร็จแบบทันเวลา


  5. กำลังใจเป็นสิ่งสำคัญ

    ด้วยความที่ผู้เล่น Squid Game Season 2 ทุกคนต้องเผชิญทั้งในชีวิตจริงและในเกม สามารถเรียกได้ว่า ภาวะวิกฤติ เพราะทุกคนมีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย ไม่ว่าจะเป็น หนี้ก้อนโต เงินค่ารักษาพยาบาลคนที่รัก หรือการนำเงินไปช่วยคนที่รัก จนเลือกมาเล่นเกมมรณะนี้


    เมื่อเข้ามาอยู่ในเกมก็เสี่ยงตายได้ทุกขณะทั้งจากการเล่นเกม และจากผู้เล่นอื่นที่คอยจ้องจะเล่นงาน นั่นจึงทำให้กำลังใจเป็นสิ่งสำคัญ โดยตัวละครหลักของ Squid Game Season 2 ก็ใช้กำลังใจเป็นเครื่องมือหลักในการฉุดผู้เล่นคนอื่นที่จมกับความสิ้นหวังให้กลับมามีแรงใจในการใช้ชีวิต


    ดังที่ออนนี่คอยเป็นกำลังใจให้สมาชิกทีมในตอนที่เล่นเกม และยังคอยให้กำลังใจผู้เล่นอื่น ๆ อยู่เสมอ จนออนนี่กลายเป็นผู้สร้างแรงบันดาลให้กับทุกคนในซีรีส์ และผู้ชมอย่างเราในการใช้ชีวิตในโลกความจริง


  6. สร้างจินตนาการเสริมแรงบันดาลใจ

    ในประเด็นการสร้างจินตนาการเสริมแรงบันดาลใจ ออนนี่จะใช้ในการปลุกใจสมาชิกทีมในการเล่นเกม ด้วยการบอกว่า “ที่เรากำลังจะเล่น เป็นเพียงเกมเด็กเล่น ไปแสดงให้ผู้เล่นคนอื่นเห็นกันเถอะ ว่าทุกคนสามารถเล่นผ่านได้” และเพื่อนร่วมทีมของออนนี่ก็สามารถเล่นผ่านได้ตามที่ออนนี่บอกจริง ๆ


    แต่การสร้างจินตนาการเสริมแรงบันดาลใจที่ชัดเจนที่สุดในเรื่อง ต้องขอยกให้กับคู่แม่ลูก 007 และ 149 ที่ผลัดกันสร้างจินตนาการเพื่อจุดไฟในการเล่นเกมจนสามารถผ่านด่านได้อย่างสวยงาม


    เช่น ตอนที่คนลูกกำลังเล่นเกมหินลอยฟ้า แล้วพลาดครั้งแรก แม่ก็บอกว่า “ลองจินตนาการว่านั่นเป็นหน้าของคนที่หลอกเอาเงินแกไปสิ” ทำให้คนลูกปาหินอย่างสุดกำลัง จนหินที่เป็นหลักลอยฟ้าสมชื่อเกม และตอนที่คนแม่เล่นหมากเก็บพลาด ลูกก็คอยสร้างจินตนาการว่า “ในยุคสงครามเวียดนาม แม่เคยเก็บลูกปืนมาเล่นหมากเก็บนี่” ซึ่งสื่อว่า อันตรายกว่านี้แม่ก็เล่นผ่านมาแล้ว จนทำให้คุณแม่เล่นผ่านมาได้


  7. ผิดพลาดได้ แต่ต้องแก้ปัญหาเร็ว

    หัวใจสำคัญของเทคนิคจิตวิทยาการบริหารจัดการทีมในภาวะวิกฤติ ก็คือ การแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยออนนี่นั้นได้เรียนรู้ความผิดพลาดจากทีมก่อนหน้ามาแล้ว จึงทำให้วางแผนรับมือบริหารความเสี่ยง เพื่อขจัดอุปสรรคในการเล่นเกมไว้แล้วในปัญหาใหญ่ ๆ


    เช่น การเดินไปเก็บอุปกรณ์เล่นเกม และเดินกลับจุดเล่นเกม โดยใช้เวลาน้อยที่สุด นั่นก็คือ ใช้วิธีเดินหน้านับก้าว และเดินถอยหลังเพื่อย้อนกลับ หรือในความผิดพลาดที่เกิดจากสมาชิกทีม เช่น เล่นเกมพลาด ขาดสติ หมดกำลังใจ ออนนี่ก็แนะนำเทคนิคการเล่นเกม จนสมาชิกทีมเล่นได้ดีขึ้น และคอยส่งเสริมกำลังใจสมาชิกทีมอยู่เสมอ จนสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว และเข้าเส้นชัยอย่างทันเวลา


ถึงแม้ว่า Squid Game Season 2 จะเป็นซีรีส์การเอาตัวรอดจากเกมอันตราย แต่ภายในซีรีส์ก็ยังแฝงข้อคิดและเทคนิคจิตวิทยาในการใช้ชีวิต เช่น การบริหารจัดการทีมในภาวะวิกฤติ การใช้ชีวิตอย่างมีสติ การทำงานเป็นทีม การรับมือกับ Toxic people เป็นต้น ซึ่งเราสามารถนำมาปรับใช้ในชีวิตจริงได้อีกด้วย

iSTRONG Mental Health

ผู้ดูแลสุขภาพใจให้กับบุคคล ครอบครัว และองค์กร


บริการของเรา

สำหรับบุคคลทั่วไป

  • บริการปรึกษา จิตแพทย์และนักจิตวิทยา : http://bit.ly/3lmThUa  

  • คอร์สฝึกอบรมทักษะด้านจิตวิทยา : http://bit.ly/3RQfQwS 

สำหรับองค์กร

โทร. 02-0268949 หรือ Line : @istrong

บทความแนะนำ

อ้างอิง Decety, J., & Jackson, P. L. (2004).

The functional architecture of human empathy.

Behavioral and Cognitive Neuroscience Reviews, 3(2), 71-100. https://doi.org/10.1177/1534582304267187


Dweck, C. S. (2006).

Mindset: The new psychology of success. Random House.

Nussbaum, M. C. (2006). Frontiers of justice: Disability, nationality, species membership. Harvard University Press.

ประวัติผู้เขียน

จันทมา ช่างสลัก บัณฑิตจิตวิทยาคลินิกจากรั้ว มช. และมหาบัณฑิตจาก NIDA ปัจจุบันเป็นคุณแม่ลูก 1 ผู้เป็นทาสแมว ที่มุ่งมั่นจะพัฒนาการเขียนบทความจิตวิทยาให้โดนใจผู้อ่าน และสร้างแรงกระเพื่อมทางสังคม ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกบนโลกใบนี้


iSTRONG ผู้ให้บริการด้านสุขภาพจิต Solutions ด้านสุขภาพจิต ให้คำปรึกษาโดยนักจิตวิทยา นักจิตบำบัด นักจิตวิทยาคลินิกที่มีใบรับรอง รวมถึงบทความจิตวิทยา

© 2016-2025 Actualiz Co.,Ltd. All rights reserved.

contact@istrong.co                     Call 02-0268949

  • Facebook Social Icon
  • YouTube Social  Icon
  • Instagram
  • Twitter
bottom of page