Stay. Tomorrow needs you. ซึมเศร้าไม่ใช่ความผิดของใคร แต่คือเรื่องของใจที่ต้องได้รับการดูแล
- นิลุบล สุขวณิช
- Jul 25
- 1 min read
Updated: Jul 29

คุณคงจะเคยได้ยินข่าวเศร้าที่เกี่ยวกับการจบชีวิตลงของใครสักคน โดยถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ใช่คนที่คุณรู้จักก็อดที่จะรู้สึกสะเทือนใจทุกครั้งที่ได้ยินข่าวใช่ไหมคะ ดังนั้น ไม่ต้องพูดถึงเลยว่าคนที่ใกล้ชิดกับผู้ที่จากไปจะได้รับความกระทบกระเทือนทางจิตใจมากแค่ไหน เนื่องจากการฆ่าตัวตายส่งผลกระทบต่อคนใกล้ชิด ได้แก่
คนรัก
ความรู้สึกเหมือนถูกปฏิเสธหรือหักหลังอย่างรุนแรงสามารถเกิดขึ้นมาได้เป็นธรรมดา เพราะมันเหมือนอีกฝ่ายละทิ้งคำสัญญาแล้วเลือกที่จะจากไป หรือรู้สึกว่าตัวเองไม่สามารถเป็นที่พึ่งพาให้ความช่วยเหลือคนรักที่จากไปได้ รวมถึงคู่รักที่มีลูกด้วยกัน ฝ่ายที่ยังอยู่ก็จะต้องทั้งจัดการกับความรู้สึกสูญเสียที่เกิดขึ้นกับตัวเองไปพร้อม ๆ กับการดูแลลูกที่ต้องสูญเสียพ่อหรือแม่ไป
พี่น้อง
เมื่อสูญเสียลูกไปหนึ่งคน พ่อแม่ก็อาจจะมีความพยายามในการปกป้องลูก ๆ ที่เหลือมากเกินไปโดยกีดกันไม่ให้ลูก ๆ เข้าไปมีส่วนร่วมในสิ่งที่เกิดขึ้น หรือในทางกลับกัน พี่น้องที่เหลือก็ไม่อยากพูดคุยกับพ่อแม่อย่างเปิดใจเพราะไม่อยากให้พ่อแม่ต้องเป็นกังวลหรือเจ็บปวดมากไปกว่าเดิม
เพื่อนและเพื่อนร่วมงาน
โดยเฉพาะคนที่สนิทกันก็อาจจะเกิดความรู้สึกโศกเศร้าสูญเสียและตั้งคำถามกับตัวเองว่าพวกเขาน่าจะสามารถทำอะไรได้มากกว่านั้นเพื่อป้องกันไม่ให้ความสูญเสียมันเกิดขึ้น หรือคนที่มีความสัมพันธ์กันแบบทางการ เช่น เจ้านาย ก็อาจจะเกิดคำถามกับตัวเองว่าเขาเป็นสาเหตุที่ทำให้ลูกน้องเลือกจบชีวิตลงหรือเปล่า
ผู้ดูแล/ผู้เชี่ยวชาญ
อาจจะเกิดความรู้สึกว่าตนเองทำหน้าที่ได้ไม่ดีพอหรือรู้สึกว่าพวกเขาควรที่จะทำบางอย่างที่แตกต่างออกไปเพื่อป้องกันไม่ให้ความสูญเสียเกิดขึ้น ส่งผลต่อความมั่นใจด้านการทำงานรวมถึงอาจจะเกิดความรู้สึกยากลำบากที่จะทำงานต่อไป
ผู้คนที่ไม่รู้จักกัน
โดยอาจจะเป็นผู้ที่มาพบร่างหรือแม้แต่คนในสังคมที่ทราบข่าวการสูญเสีย ซึ่งแม้ว่าจะเป็นคนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนแต่ก็สามารถได้รับผลกระทบทางด้านจิตใจได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม การมีความคิดฆ่าตัวตายโดยเฉพาะหากมันมาจากอาการของโรคซึมเศร้า (หรือโรคจิตเวชอื่น ๆ) นั้นไม่ใช่ความผิดของใคร แต่มันเป็นสัญญาณที่มาบอกคุณว่า “หัวใจของคุณกำลังต้องการได้รับการดูแล”
นอกจากนั้น ผู้เขียนขอเป็นอีกคนหนึ่งที่อยากเน้นย้ำว่า “โรคซึมเศร้าไม่ได้เกิดขึ้นเพราะเป็นคนอ่อนแอ” ในขณะเดียวกันมันก็ไม่ได้เป็นผลมาจากสารเคมีทางสมองแบบร้อยเปอร์เซ็นต์จนผู้ที่เป็นถึงกับไม่สามารถควบคุมอะไรได้
นอกจากนั้น เท่าที่ผู้เขียนพยายามค้นคว้าปัจจัยที่เป็นสาเหตุของโรคซึมเศร้าก็ไม่พบว่ามีแหล่งข้อมูลใดที่ให้คำตอบได้อย่างฟันธง แต่จะเป็นการพูดถึงสิ่งที่เป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้มีโอกาสเกิดโรคซึมเศร้าขึ้นมาได้
ยกตัวอย่างเช่นข้อมูลจากเว็บไซต์สมาคมจิตแพทย์อเมริกันที่ได้ระบุว่าโรคซึมเศร้านั้นสามารถเกิดขึ้นกับใครก็ได้แม้กระทั่งกับคนที่ดูเหมือนจะมีพร้อมทุกอย่าง โดยปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคซึมเศร้านั้นมีอยู่หลายปัจจัย ได้แก่
ปัจจัยทางชีวเคมี
ซึ่งเกี่ยวข้องกับการมีระดับของสารสื่อประสาทในสมองบางชนิดแตกต่างไป เช่น เซโรโทนิน โดปามีน นอร์อิพิเนฟริน
พันธุกรรม
หากฝาแฝดคนหนึ่งเป็นโรคซึมเศร้า ฝาแฝดอีกคนหนึ่งจะมีโอกาสสูงถึง 70% ที่จะเป็นโรคซึมเศร้าในช่วงใดช่วงหนึ่งของชีวิตด้วยเช่นกัน
บุคลิกภาพส่วนตัว
คนที่มีลักษณะภาคภูมิใจในตัวเองต่ำ (Low Self-esteem) เครียดง่าย มองโลกในแง่ร้าย มักจะมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคซึมเศร้าได้มากกว่า
สภาพแวดล้อม
เช่น อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีการใช้ความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ถูกทารุณทอดทิ้ง รวมถึงความยากจนก็สามารถเป็นปัจจัยเสี่ยงที่เพิ่มโอกาสในการเกิดโรคซึมเศร้าได้เช่นกัน
ทั้งนี้ แม้ว่าผู้เขียนจะลิสต์ออกมาเป็นข้อ ๆ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคซึมเศร้าจะต้องเป็นข้อใดข้อหนึ่งเท่านั้นนะคะ เพราะมันสามารถเกิดขึ้นจากหลายปัจจัยร่วมกัน รวมถึงปัจจัยเสี่ยงหนึ่งอาจทำให้เกิดอีกปัจจัยเสี่ยงหนึ่งตามมา
เช่น การเติบโตมาจากสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้อให้มองโลกในแง่ดีสามารถทำให้กลายเป็นคนที่มองโลกในแง่ร้ายและมีความภาคภูมิใจในตัวเองต่ำ มีความเครียดง่าย เมื่ออยู่ภายใต้สภาวะตึงเครียดอย่างต่อเนื่องก็สามารถทำให้สารสื่อประสาทในสมองทำงานผิดปกติไป
ซึ่งไม่ว่าปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคซึมเศร้านั้นจะมาจากอะไรมันก็ไม่ใช้ความผิดของผู้ป่วยหรือความผิดของใครเลยค่ะ สิ่งที่ผู้เขียนอยากชวนให้ทุกคนโฟกัสมากกว่าก็คือการดูแลรักษาตนเองและการมองไปข้างหน้า โดยลองอุปมา “depression” ให้เป็นเหมือนกับพายุดีเปรสชันที่เมื่อถึงจังหวะที่มันเข้ามาก็จะทำให้เกิดฝนตกในใจอย่างหนักถึงหนักมาก มีลมกระโชกแรงจนบางครั้งมันก็ทำให้มีความพังเสียหายเกิดขึ้น
แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่ได้เกิดขึ้นตลอดปีและไม่ได้เกิดขึ้นทุกวัน เพราะบางช่วงของปีก็จะมีวันที่อากาศสดใส เช่นเดียวกับผู้ป่วยโรคซึมเศร้าที่ก็ไม่ได้รู้สึกเศร้าหรือหดหู่อยู่ตลอดเวลาแต่จะมีบางช่วงที่ก็มีอารมณ์ดีตามปกติ นอกจากนั้น โรคซึมเศร้าเป็นโรคที่แพทย์หลายท่านกล่าวว่ามันสามารถรักษาให้หายได้หากได้รับการดูแลช่วยเหลืออย่างถูกต้อง เช่น
ใช้ยาในการรักษา
รับการทำจิตบำบัดจากจิตแพทย์/นักจิตวิทยา/นักจิตบำบัด
รับการรักษาด้วยไฟฟ้า (Electroconvulsive Therapy: ECT)
รับมือด้วยวิธี Self-help and coping เช่น ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เลือกกินแต่อาหารที่มีประโยชน์ นอนหลับให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงการใช้สารเสพติดและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพื่อให้ผลในทางกดประสาท (depressant) เป็นต้น
สุดท้ายนี้ สำหรับผู้ที่กำลังเกิดความคิดอยากหายไปหรือรู้สึกว่าไม่ไหวแล้ว ผู้เขียนอยากจะบอกว่า “Stay. Tomorrow needs you.” และหากคุณต้องการความช่วยเหลือแต่ยังนึกไม่ออกว่าต้องเริ่มจากตรงไหนก็สามารถทักมาคุยกับทีมงาน iSTRONG ได้เสมอนะคะ
หากคุณเป็นหนึ่งคนที่อยากเข้าใจเรื่องซึมเศร้ามากขึ้น ทางเรา iSTRONG มีคอร์สออนไลน์ “ซึมเศร้า เราเข้าใจ” ที่ออกแบบโดยจิตแพทย์และนักจิตวิทยา เพื่อปูพื้นฐานความรู้เกี่ยวกับโรคซึมเศร้าอย่างรอบด้าน ทั้งในเชิงทฤษฎีและการปฏิบัติจริง
ผู้เรียนจะได้เรียนรู้ตั้งแต่การรู้เท่าทันอาการซึมเศร้า ความแตกต่างระหว่างภาวะเครียด ภาวะหมดไฟ และโรคซึมเศร้า ไปจนถึงวิธีการรับมือ ให้คำปรึกษา และดูแลใจทั้งตนเอง คนรอบข้าง และคนที่คุณรัก
ไม่ว่าคุณจะกำลังเผชิญกับความเศร้า หรืออยู่ข้างๆ ใครบางคนที่กำลังเผชิญอยู่… คอร์สนี้จะเป็นแสงสว่างเล็กๆ ที่ช่วยให้เราเข้าใจกันมากขึ้น และดูแลใจกันได้ดีขึ้น
คลิกรายละเอียดคอร์ส “ซึมเศร้า เราเข้าใจ”
iSTRONG Mental Health
ผู้ดูแลสุขภาพใจให้กับบุคคล ครอบครัว และองค์กร
บริการของเรา
สำหรับบุคคลทั่วไป
บริการปรึกษา จิตแพทย์และนักจิตวิทยา : http://bit.ly/3lmThUa
คอร์สฝึกอบรมทักษะด้านจิตวิทยา : http://bit.ly/3RQfQwS
สำหรับองค์กร
EAP โปรแกรมสำหรับองค์กร : http://bit.ly/3RLI8Z8
โทร. 02-0268949 หรือ Line : @istrong
บทความที่เกี่ยวข้อง
อ้างอิง:
Survivors of Bereavement by Suicide (2025). How suicide affects others. Retrieved from https://uksobs.com/how-we-can-help/bereavement/how-suicide-affects-others/
American Psychiatric Association (n.d.) What Is Depression? Retrieved from https://www.psychiatry.org/patients-families/depression/what-is-depression
ประวัติผู้เขียน
นิลุบล สุขวณิช (เฟิร์น) เคยมีประสบการณ์ทำงานเป็นนักจิตวิทยาการปรึกษาในมหาวิทยาลัยและเป็นวิทยากรเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพจิต/การพัฒนาตนเองให้แก่นักศึกษาเป็นเวลา 11 ปี ปัจจุบันเป็นนักเขียนบทความให้กับ ISTRONG และเป็นทาสแมวคนหนึ่ง
Nilubon Sukawanich (Fern) have had experience working as a counseling psychologist at a university and as a speaker on mental health issues and self-development for students for 11 years. Currently, I am a writer for ISTRONG and a cat slave.
