

ชีวิตติดดราม่า เพราะคุณเล่นเกมจิตวิทยาอยู่ทุกวันเปลี่ยน Drama เป็น Empowerment ได้ด้วย TA
เคยนั่งคิดกันไหมคะ ว่าหลายๆ เรื่องในชีวิตทำไมถึงมีปัญหาเหมือนเดิมซ้ำ ๆ และเคยไหม…ตั้งใจว่าจะพูดคุยดี ๆ แต่สุดท้ายกลายเป็นทะเลาะ เคยบอกตัวเองว่าจะ “ไม่ยอมโดนเอาเปรียบอีก” แต่พอถึงเวลา กลับเงียบและปล่อยผ่านเหมือนเดิม
หรือบางครั้งเราก็เผลอ “ช่วยทุกเรื่อง” จนกลายเป็นคนที่รับภาระของทุกคน จนหมดแรงไปเอง ทำให้บางทีเราคงจะรู้สึกเหนื่อยมากๆ เลยใช่ไหมคะ


จัดการเกมดราม่าพนักงาน ด้วยจิตวิทยาปิดเกมพิษสำหรับ HR
ในฐานะ HR หรือฝ่ายบุคคล คุณคงเคยเผชิญกับสถานการณ์ที่พนักงานในองค์กรเริ่มมีความขัดแย้งกันอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการปล่อยข่าวลือซุบซิบนินทา ทำให้เพื่อนร่วมงานเสียหน้า หรือการสร้างสถานการณ์เพื่อให้ตัวเองดูเหนือกว่า ปัญหาเหล่านี้ดูเหมือนเล็ก แต่กลับบั่นทอนความไว้วางใจในทีมและทำลายบรรยากาศการทำงานในระยะยาวมากๆ เลยค่ะ


คุมทีมไม่ได้ คนไม่เกรงใจ เกรงใจจนไม่กล้า เข้าใจ ‘Position’ จิตวิทยา ที่จะช่วยให้ทีมยอมรับ
คุณเคยรู้สึกไหมว่า… ในฐานะหัวหน้า คุณพยายามทุกวิถีทางแล้ว แต่ทีมก็ยังทำตามที่คุณคาดหวังไว้ไม่ได้
บางครั้งลูกน้องก็ค่อยไม่เกรงใจ มีทั้งพูดแทรกในที่ประชุมและโต้เถียงแบบไม่ฟังเหตุผล ในบางครั้งลูกน้องก็กลับเงียบเกินไป แม้จะมีปัญหาอยู่ในใจแต่ก็ไม่พูด จนสะสมกลายเป็นเรื่องลุกลามใหญ่โต


ทำงานเก่ง แต่พูดแล้วไม่มีใครฟัง คุณอาจติดกับดักการสื่อสารแบบ ‘Child State’
คุณอาจเริ่มคิดว่า “ทำไมเขาไม่เห็นค่าฉัน” หรือ “นี่ฉันไม่มีบารมีพอจะให้คนฟังเหรอ” ความจริงแล้ว ปัญหาอาจไม่ใช่เนื้อหาที่คุณพูด หรือความสามารถที่คุณมี แต่อยู่ที่ “วิธีการสื่อสาร” ที่ส่งสัญญาณบางอย่างให้คนฟัง “ปิดใจ” โดยที่คุณเองก็ไม่รู้ตัว สัญญาณนี้ มักเกี่ยวข้องกับสภาวะทางจิตใจที่เรียกว่า “Child State”


ดูแลผู้ป่วยโรคซึมเศร้ายังไงให้ไม่ทำร้ายทั้งจิตใจตัวเองและผู้ป่วย
การดูแลผู้ป่วยโรคซึมเศร้าจัดว่าเป็นความท้าทายพอสมควร เนื่องจากลักษณะของผู้ป่วยโรคซึมเศร้าโดยเฉพาะในช่วงที่มีอาการอยู่ในระดับรุนแรง ผู้ดูแลมักจะเกิดความสับสนลังเล เช่น ไม่รู้ว่าควรจะพูดยังไงกับผู้ป่วยดี ตัวเองได้รับผลกระทบจากผู้ป่วยแต่ก็ไม่กล้าสื่อสารตรง ๆ