top of page
GDN 980 x 120 psychiatrist.jpg

Pretty Privilege ความลำเอียงทางหน้าตา ที่เอาชนะด้วยความ “มั่นใจ”


จากข่าวดังเรื่องอุบัติเหตุบนท้องถนนในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้กระแสสังคมตีออกไป สองทางใหญ่ ๆ ได้แก่ ทางที่โจมตีผู้กระทำผิดอย่างรุนแรง และทางที่หลงในวังวนของ Pretty Privilege โดยคำว่า Pretty Privilege หรือ Beauty Privilege หรือ Handsome Privilege มีความหมายไปในทางเดียวกัน คือ ความลำเอียงอันเกิดมาจากความหน้าตาดี เช่น เราเข้าข้างนาย A เพราะนาย A หล่อ ถูกใจ ถึงแม้นาย A จะทำความผิด ขับรถชนคนตายก็ตาม หรือ ในการสอบสัมภาษณ์ นางสาว B คะแนนสูงกว่า นางสาว C เพราะนางสาว B รูปร่างหน้าตาดีกว่า บุคลิกดีกว่า เป็นต้น เพียงแค่คำว่า Beauty Privilege และ Handsome Privilege จะระบุเฉพาะเจาะจงเพศไปเสียหน่อย แต่คำว่า Pretty Privilege สามารถใช้ได้ทุกเพศสภาพ

เมื่อไปค้นคว้างานวิจัยเชิงจิตวิทยาเกี่ยวกับ Pretty Privilege พบว่า ในปี ค.ศ. 1972 Karen Dion, Ellen Berscheid และ Elaine Walster ได้ศึกษาพบว่า คนเราจะมีแนวโน้มตีความแบบเหมารวม (stereotype) ว่า คนที่หน้าตาดีมักจะมีนิสัยที่ดีไปด้วย จึงไม่เป็นเรื่องแปลกที่จะมีการจัดประกวดความงามต่าง ๆ ทั้งสาวงาม ชายงาม และ LGBT งาม โดยมีหลักเกณฑ์ที่คาดหวังอย่างยิ่งใหญ่ว่าผู้สมมงต้องทั้งงามเลิศ ดีเลิศ และฉลาดเป็นเลิศ จนทำให้คนหน้าตาธรรมดา ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่นั้นไม่มีตัวตนในสังคม และที่ปวดใจไปยิ่งกว่านั้นก็คือ Daniel Hamermesh นักเศรษฐศาสตร์ชื่อดัง ผู้เขียนหนังสือเรื่อง Beauty Pays: Why Attractive People are More Successful ได้ศึกษาเกี่ยวกับ Pretty Privilege นั้น ส่งผลกระทบต่อผู้คน ทุกวงการ ไม่เว้นแม้ในวงการอาชญากรรม ที่เราจะเห็นตามหน้าข่าวบ่อย ๆ ว่า ในกรณีที่ผู้กระทำผิดหน้าตาดีจะมีแฟนด้อมตามติดชีวิตเขา และเฝ้าคอยให้กำลังใจโดยไม่สนผิด สนถูก โดยมีผลสำรวจคดีในชั้นศาล จำนวน 2,235 คดี ในสหรัฐอเมริกามายืนยันว่า จำเลยที่หน้าตาดีมีแนวโน้มจะถูกตัดสินโทษน้อยกว่า ในขณะที่จำเลยที่หน้าตาธรรมดา หรือหน้าตาไม่ดี มีแนวโน้มจะเสียค่าปรับและค่าประกันตัวสูงกว่า อย่างไรก็ตามในปี ค.ศ. 2008 Mark W. Patry ได้ทำการศึกษาทางจิตวิทยา พบว่า การตัดสินโทษในห้องพิจารณาคดีสามารถเอาชนะ Pretty Privilege ได้ถ้าใช้เวลาในการพิจารณาคดีมากขึ้น

ซึ่งถ้าเราอ้างอิงตามผลการวิจัยข้างต้นเราก็สามารถตีความได้ว่า คนหน้าตาดีได้เปรียบคนหน้าตาธรรมดา “เพียงเพราะเขาหน้าตาดี” เท่านั้น แต่เมื่อศึกษาลึกลงไป ดังเช่นงานวิจัยเชิงจิตวิทยาของ Markus Mobius แห่ง Harvard University และ Tanya Rosenblat แห่ง Wesleyan University พบว่า นอกจากคนหน้าตาดีจะได้เปรียบเรื่องเสน่ห์สำหรับผู้พบเห็นแล้ว ยังได้เปรียบอย่างขาดลอยเรื่อง “ความมั่นใจ” อีกด้วย โดยในการวิจัยได้ทำการทดลองให้คนหน้าตาดี กับคนหน้าตาธรรมดา สัมภาษณ์งานทางโทรศัพท์ ผลปรากฏว่า นายจ้างมีแนวโน้มจะเลือกคนหน้าตาดีเข้าทำงานมากกว่า เพราะ “น้ำเสียง” มั่นใจมากกว่า และเมื่อทดสอบคนหน้าตาดี กับคนหน้าตาธรรมดาด้วยการเล่นเกม ก็พบว่า คนหน้าตาดี มีแนวโน้มเล่นเกมได้ดีกว่า เพราะมั่นใจมากกว่านั่นเอง

นั่นหมายความว่า เคล็ดลับความสำเร็จหนึ่งของคนที่หน้าตาดี ก็คือ “ความมั่นใจ” ดังนั้น แม้ว่าหน้าตาเราจะดีสู้เขาไม่ได้ แต่เราสามารถสร้าง “ความมั่นใจ” ขึ้นมาได้ เราก็เอาชนะ Pretty Privilege ได้ค่ะ โดยบทความนี้ก็มีเทคนิคในการสร้างความมั่นใจมาฝากกันค่ะ


1. บุคลิกภาพดี


ถึงแม้ว่าเราจะหน้าตาธรรมดา แต่มีบุคลิกภาพดี แต่งตัวดูดี เหมาะสมกับเรา ก็สามารถทำให้เราฉายแสงขึ้นมาได้ค่ะ เพราะเราจะมีเสน่ห์ต่อผู้พบเห็น เห้นแล้วสดชื่น มีชีวิตชีวา ยิ่งหากใครที่แต่งตัวสะท้อนอัตลักษณ์ของตนเองออกมาด้วยแล้วละก็มีคนมองเหลียวหลังแน่นอนค่ะ ซึ่งดิฉันเองก็มักจะมองชื่นชมผู้ที่ทำสีผมสวย ๆ แต่งตัวสะท้อนตัวตนของเขาอยู่บ่อย ๆ ค่ะ


2. มีความรู้


การมีความรู้นั้นไม่จำเป็นต้องเรียนสูง จบการศึกษาจากสถาบันชื่อดัง แต่สามารถทำได้โดยการเปิดกว้าง อ่านเยอะ รับข้อมูลจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ ออกไปดูโลก ไปยังสถานที่ที่แตกต่าง พูดคุยกับผู้คนที่หลากหลาย ก็สามารถช่วยเพิ่มความรู้ เปิดวิสัยทัศน์ และลดอคติในการใช้ชีวิตของเราได้มากทีเดียวค่ะ


3. คิดบวก


ถ้าให้คุณเลือกว่าอยากอยู่ใกล้ ๆ กับใคร ระหว่างคนที่มองโลกในแง่ดี กับคนที่มองโลกในแง่ร้าย คุณผู้อ่านส่วนใหญ่รวมถึงตัวดิฉันด้วยก็คงขอเลือกคนที่เราอยู่ด้วยแล้วมีความสุขใช่ไหมคะ นั้นก็เพราะคนที่คิดบวก มองโลกในแง่ดี มีทัศนคติดี จะช่วยเติมความหวัง ทำให้เราเห็นคุณค่าของการใช้ชีวิต และสามารถช่วยพลิกมุมมมองของเราจากร้ายกลายเป็นดีได้อย่างน่ามหัศจรรย์เลยค่ะ


4. ฝึกฝนตนเองอยู่เสมอ


คนที่ฝึกฝนตนเองอยู่เสมอ ก็เปรียบเหมือนเลื่อยที่ลับคมอยู่เสมอ เมื่อจำเป็นต้องใช้ก็สามารถนำมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ความรู้ ความสามารถของเราก็เช่นกันค่ะ หากเราฝึกฝนมาดี เราก็จะมีความมั่นใจในการนำทักษะ ความรู้เหล่านั้นมาใช้ และเมื่อต้องอยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉิน การฝึกฝนนี่ละค่ะจะทำให้เรารอด


5. มุ่งมั่น


ความมุ่งมั่น บางครั้งเราก็เรียกว่า Passion บางครั้งเราก็เรียก Spirit ซึ่งทุกคำหมายถึงความตั้งใจอย่างแรงกล้าที่จะพยายามทำให้สิ่งใดสิ่งหนึ่งให้ประสบความสำเร็จ โดยความมุ่งมั่นจะทำให้เรา มีไฟ มีความกระตือรือร้นในการทำสิ่งต่าง ๆ นั่นเองค่ะ


ถึงแม้ว่า Pretty Privilege จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่หน้าตาดี แต่สำหรับคนธรรมดาอย่างเรา ๆ หากมีบุคลิกภาพดี มีความรู้ คิดบวก ฝึกฝนตนเองอยู่เสมอ และมีความมุ่งมั่น เราก็เสริมสร้าง “ความมั่นใจ” และเอาชนะ Pretty Privilege ได้ค่ะ


สำหรับใครที่กำลังเครียด กังวล คิดมาก ทั้งเรื่องของปัญหา Burn Out จากการทำงาน ปัญหาความสัมพันธ์ต่างๆ ในครอบครัว คนรัก ไปจนถึงภาวะต่างๆ เช่น ซึมเศร้า ทุกปํญหาสำคัญและเป็นเรื่องใหญ่สำหรับเราเสมอ


iSTRONG ยินดีให้บริการ ปรึกษาด้านสุขภาพจิตโดยผู้เชี่ยวชาญ ทั้งจากจิตแพทย์และนักจิตวิทยา ดูรายละเอียดได้ที่นี่


 

iSTRONG Mental Health

ผู้ดูแลสุขภาพใจให้กับบุคคล ครอบครัว และองค์กร


บริการของเรา

สำหรับบุคคลทั่วไป

• บริการปรึกษา จิตแพทย์และนักจิตวิทยา : http://bit.ly/3lmThUa

• คอร์สฝึกอบรม การเป็นนักจิตวิทยาให้คำปรึกษา : http://bit.ly/3RQfQwS


สำหรับองค์กร

• EAP โปรแกรมสำหรับองค์กร : http://bit.ly/3RLI8Z8


โทร. 02-0268949 หรือ Line : @istrong

 

บทความแนะนำ :


อ้างอิง :

1. Warittha Saejia. (2019, 11 August). Pretty Privilege เมื่อสิทธิพิเศษเป็นของคนหน้าตาดี. [ออนไลน์]. สืบค้นเมื่อ 2565, 25 มกราคม จาก https://thematter.co/social/pretty-privilege/82501

2. Brand Think. (2565, 24 มกราคม). รู้ไหม มนุษย์มัก ‘ลำเอียง’ ให้กับผู้กระทำผิดที่ ‘หน้าตาดี’. [ออนไลน์]. สืบค้นเมื่อ 2565, 25 มกราคม จาก https://www.facebook.com/puyza.naja

 

ประวัติผู้เขียน : จันทมา ช่างสลัก

บัณฑิตสาขาวิชาเอกจิตวิทยาคลินิก เกียรตินิยมอันดับ 2 จากรั้ว มช. และมหาบัณฑิตด้านการพัฒนาสังคม NIDA มีประสบการณ์ด้านจิตวิทยาเด็ก 4 ปี เป็นผู้ช่วยนักวิจัย ด้านจิตวิทยา 1 ปี ปัจจุบันเป็นนักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการ และคุณแม่ของลูก 1 คน แมว 1 ตัว ที่ประยุกต์ใช้ศาสตร์ทางจิตวิทยาในการใช้ชีวิต


facebook album post - square (1).png
1.พวกหลีกเลี่ยงความผูกพัน (2).png
บทความล่าสุด
bottom of page