top of page
GDN 980 x 120 psychiatrist.jpg

7 สิ่งที่ต้องมี เพื่อให้ความรักสดใสและยืนยาว



ในบทความจิตวิทยานี้ จะขอพามาคิดดี คิดบวกกับสิ่งที่เราต้องมีเพื่อให้ความรักสดใสและยืนยาวกันบ้างนะคะ โดย Helen Fisher ผู้เชี่ยวชาญทางจิตวิทยาและพฤติกรรมศาสตร์ ได้ทำการศึกษาการทำงานของสมองของผู้คนจำนวนหนึ่งที่ยังเป็นคนคลั่งอยู่แม้จะแต่งงานมาแล้ว 25 ปี พบว่า เกิดกิจกรรมบางอย่างในส่วนที่เรียกว่า เวนทราล เทกเมนทัล แอเรีย (Ventral Tegmental Area) โดยกิจกรรมนี้เรียกว่า เอเท็น (A10) ซึ่งเป็นการผลิตโดปามีนอย่างต่อเนื่อง จนทำให้สมองและร่างกายรู้สึกสดชื่น แต่อาการคลั่งรักมักอยู่ไม่นาน เราจึงไม่สามารถอาศัยสารสื่อประสาท คือ โดปามีน เพื่อรักษาความรักเพียงอย่างเดียว Fisher จึงได้แนะนำถึง 7 สิ่งที่ต้องมี เพื่อให้ความรักสดใสและยืนยาว ดังนี้ค่ะ


1. สร้างแรงดึงดูดระหว่างกัน

ในวันที่เราเริ่มเกิดความรู้สึกชอบกัน หลงใหลกัน แล้วเริ่มจีบกันใหม่ ๆ อีกฝ่ายจะรู้สึกน่าดึงดูดสำหรับมากเลยใช่ไหมคะ ไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ไหน เขาจะทำอะไร เราจะรู้หมด และตามไปทุกที่ แต่เมื่อคบเป็นแฟนกันแล้ว ความรู้สึกดึงดูดระหว่างกันจะลดลง และยิ่งถ้าแต่งงานกันมาระยะหนึ่ง มีลูกด้วยกัน ความสนใจในชีวิตแทบจะไม่อยู่ที่คู่ของเราเลยค่ะ


เพราะเราต้องหัวหมุนไปกับลูก การจัดสรรเงิน การทำงาน การทำงานบ้าน และการใช้ชีวิตประจำวันอีกสารพัด แล้วเราจะรู้สึกตัวอีกทีก็เมื่อกำลังจะเสียเขาไป ดังนั้นอย่าให้ชีวิตรักเราไปถึงจุดนั้นเลยค่ะ เรามาสร้างแรงดึงดูดให้แก่กันในทุก ๆ วันดีกว่า โดยการปฏิบัติต่อกันเหมือนจีบกันใหม่ ๆ เลยค่ะ แล้วชีวิตคู่จะสดใสใหม่เสมอ


2. ความสนิทสนมสำคัญมาก

ความสนิทสนม คือ การที่เรารู้สึกสนิทใจกับใครบางคนจนอยากจะใช้เวลาด้วย แชร์เรื่องราวให้กันฟัง แบ่งปันความรู้สึกให้แก่กัน ซึ่งการที่เราจะสนิทกับใครได้นั้นเราต้องใช้เวลาด้วยกัน มีการผ่านสถานการณ์หลาย ๆ อย่างมาร่วมกัน และมีประสบการณ์ในชีวิตร่วมกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งความรู้สึกสนิทสนมในคู่รักนั้นจะพิเศษกว่าความสนิทสนมในความสัมพันธ์อื่น ๆ


เพราะเมื่อคู่รักสนิทกันมาก จะช่วยเหลือเกื้อกูลกันมาก รู้จักกันมากจนแทบจะอ่านความคิดกันออก ใส่ใจ และห่วงใยความรู้สึกกันมาก จนไม่กล้าที่จะทำร้ายกัน แนวโน้มที่จะนอกใจ ทำร้ายร่างกาย จิตใจกันก็จะน้อยลง มีความลับต่อกันน้อยมาก และเมื่อเราเปิดเผยต่อกันมากขึ้น การอยู่ร่วมกันก็จะเต็มไปด้วยความสบายใจ และความจริงใจ ทำให้ความรักสดใสและยืนยาวนั่นเองค่ะ


3. สร้างแรงจูงใจในการมีอนาคตร่วมกัน

เมื่อเราเจอใครสักคนที่อยากพัฒนาความสัมพันธ์เป็น “คนรัก” เรามักจะวาดหวังให้อนาคตของเขาและเราว่าเต็มไปด้วยความสุข เมื่อเรามั่นใจว่าคนรักของเราเป็น “คู่ชีวิต” ของเราได้ เราก็วาดฝันถึงวันแต่งงาน วันที่เราจะอยู่ด้วยกัน คาดหวังว่าเราจะแก่ไปด้วยกัน แต่เมื่อเราได้มาใช้ชีวิตคู่ด้วยกันจริง ๆ จะพบว่าพื้นที่ความคิดของเราส่วนใหญ่หมดไปกับการวางแผนการเงินให้อยู่ถึงสิ้นเดือน การวางแผนการทำงาน การวางแผนการเดินทาง จนแทบไม่เหลือพื้นที่ให้กับการวางแผนอนาคตของชีวิตคู่


เมื่อนานวันเข้าก็กลายเป็นอยู่กันไปวัน ๆ ความใส่ใจ ความห่วงใยกันก็ลดลง เพราะฉะนั้นจึงขอให้ระลึกไว้ว่า เมื่อเราอายุมากขึ้น ลูกโตกันหมดแล้ว เราเกษียณแล้ว สุดท้ายถ้าเราไม่ดูแลคู่ชีวิตของเรา ไม่วางแผนอนาคตร่วมกัน เราจะชราอย่างโดดเดี่ยว จึงขอให้หมั่นพูดคุยกันถึงอนาคต แล้วชีวิตคู่จะมีความหมายกว่าเดิมมากค่ะ


4. ให้ความใส่ใจ

ไม่ว่าจะในรูปแบบความสัมพันธ์ไหน “ความใส่ใจ” เป็นหัวใจของทุกความสัมพันธ์ค่ะ เพราะความใส่ใจจะทำให้เรา “จำ” ในทุกรายละเอียดของกันและกัน เช่น วันสำคัญ สิ่งที่ชอบ สิ่งที่ไม่ชอบ ความใส่ใจจะทำให้เรา “สังเกต” เห็นว่าวันนี้คู่รักของเรามีความรู้สึกอย่างไร โอเคไหม หรือไม่โอเค ความใส่ใจทำให้เรา “เรียนรู้” ที่จะอยู่ร่วมกัน เพราะเราเห็นแล้วว่าคนรักของเราเป็นอย่างไร เรารับอะไรได้ รับอะไรไม่ได้ แล้วมาปรับตัวเข้าหากัน


ดังนั้น “ความใส่ใจ” จึงทำให้เรารู้จักกันมากขึ้น รับฟังกันมากขึ้น ดูแลกันมากขึ้น ซึ่งนำไปสู่การพูดคุยกัน การมีกิจกรรมร่วมกัน การใช้เวลาด้วยกัน แล้วก็ทำให้ความรักของเราแน่นแฟ้น และยังพัฒนาต่อไปได้อีกอย่างยืนยาว


5. สร้างความผูกพันทางอารมณ์

ความผูกพันทางอารมณ์ หมายถึง ความรู้สึกว่าคน ๆ หนึ่งมีผลต่ออารมณ์ของเราอย่างมาก เช่น เมื่อเขาอยู่ข้าง ๆ เราจะรู้สึกอบอุ่นใจ อารมณ์ดี แต่ถ้าเขาหายไป เราจะเกิดอารมณ์เศร้า อารมณ์หงุดหงิด อารมณ์เสีย โดยความผูกพันทางอารมณ์นั้น จะเกิดขึ้นกับเฉพาะคน หรือสิ่งที่เรารู้สึก “รัก” อย่างมาก เช่น พ่อ แม่ ลูก คนรัก เพื่อนสนิท หรือสัตว์เลี้ยง


โดยยิ่งผูกพันทางอารมณ์มากเท่าไร ความรักก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น เพราะแต่ละคนมีผลต่ออารมณ์และความรู้สึกของกันและกัน เช่น หากสามีของเราหงุดหงิด เราที่อยู่ด้วยกันก็จะรู้สึกหงุดหงิดไปด้วย หรือเพื่อสนิทมาระบายเรื่องเศร้าให้ฟัง เราก็เสียใจไปกับเขาด้วย ดังนั้นความผูกพันทางอารมณ์จึงทำให้เราคิดถึงกัน ใส่ใจกัน รับรู้ความรู้สึกของกันและกัน ทำให้ความรักยืนยาว


6. สร้างบรรยากาศโรแมนติก

หลาย ๆ คู่ที่อยู่ด้วยกันมานาน อาจหลงลืมถึงความสำคัญของการสร้างบรรยากาศโรแมนติก เพราะเมื่อเราโตขึ้น ภาระหน้าที่ ความรับผิดชอบของเราก็มากขึ้น จึงทำให้เราใช้เหตุผลมากกว่าความรู้สึก ซึ่งสามารถทำให้ความรักจืดจางไปโดยไม่รู้ตัว ดังนั้น เราต้องหมั่นสร้างบรรยากาศโรแมนติกให้แก่กันบ้าง เหมือนตอนที่เราจีบกันใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นมีของขวัญให้แก่กันบ้าง ส่งข้อความหวาน ๆ น่ารัก ๆ ให้แก่กัน มีกิจกรรมพิเศษในวันสำคัญ ใส่ใจ ดูแลกัน


เมื่อเราทำชีวิตคู่ให้สดใส คนรักของเราจะรู้สึกอบอุ่นใจทุกครั้งที่อยู่กับเรา จะรู้สึกตื่นเต้นในความสัมพันธ์ รู้สึกมีหวังกับชีวิตคู่เพราะมองเห็นอนาคตว่าเมื่อถึงวันสำคัญต่าง ๆ เราจะมีกิจกรรมร่วมกัน ทำให้ชีวิตคู่ไม่เก่า แถมเรายังรู้สึกสนุกอีกด้วยละค่ะ


7. อย่าลืมให้ความสำคัญกับเรื่องเพศสัมพันธ์

เรื่องเพศสัมพันธ์ เป็นเรื่องที่วัฒนธรรมครอบครัวไทยไม่นิยมจะพูดถึงกัน แต่ในต่างประเทศเป็นเรื่องปกติธรรมดามากค่ะที่คนรัก หรือคู่ชีวิตจะวางแผนเรื่องเพศสัมพันธ์กันอย่างเป็นเรื่องเป็นราว ถึงกับมีการสอนคอร์สสร้างความตื่นเต้นให้เรื่องบนเตียงกันอย่างเป็นจริงเป็นจัง แต่ในประเทศไทยเราจะเห็นเฉพาะการตรวจสุขภาพคู่รักก่อนแต่งงาน การวางแผนครอบครัวเรื่องการมีลูก หรือการวางแผนการเงิน


แต่ไม่พูดถึงเรื่องเพศสัมพันธ์อย่างเป็นทางการ ซึ่งจริง ๆ แล้วเป็นเรื่องสำคัญมากต่อชีวิตคู่ค่ะ ดังนั้นคู่รักจึงควรเปิดอกพูดคุยกันถึงรสนิยมทางเพศสัมพันธ์ และทัศนคติเรื่องเพศสัมพันธ์ เพื่อปรับกันให้พอดี และพอใจกับทั้งสองฝ่าย เพื่อให้มีความรักสดใสและยืนยาวค่ะ


การดูแลรักษาความรักให้รักสดใสและยืนยาวนั้น ถึงแม้ว่าจะมีปัจจัยหลาย ๆ อย่างเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่แกนหลักสำคัญที่สุด ก็คือ คนสองคนที่รักกัน โดยต้องหมั่นสร้าง 7 สิ่งที่ได้แนะนำข้างต้น เพื่อให้รักสดใสและยืนยาวค่ะ


          หากคุณและคู่ของคุณรู้สึกว่าความสัมพันธ์ของคุณกำลังประสบปัญหาหรือต้องการความช่วยเหลือ การเข้ารับคำปรึกษาสำหรับคู่รัก (Couple counseling) อาจเป็นทางเลือกที่ดีในการพัฒนาและเสริมสร้างความสัมพันธ์ของคุณให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ด้วยการช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ คุณและคู่ของคุณจะได้รับเครื่องมือ คำแนะนำ และกลยุทธ์ที่เป็นประโยชน์ในการเพิ่มพูนความเข้าใจ ทักษะการสื่อสาร และความแน่นแฟ้นในความสัมพันธ์ เพื่อจับมือก้าวข้ามอุปสรรคต่าง ๆ ไปด้วยกัน และมุ่งสู่ความสัมพันธ์ในฝันที่มั่นคงและยั่งยืน


ตัวช่วยเรื่องความสัมพันธ์จาก iSTRONG

รายละเอียด Couple counseling : https://bit.ly/3xGGAdc

ทำแบบประเมิน สุขภาพความสัมพันธ์คุณและคนรัก : https://bit.ly/4b059jy

บทความฟรี !! เรื่องความสัมพันธ์ ความรัก : https://bit.ly/3xEmQqm


 

iSTRONG Mental Health

ผู้ดูแลสุขภาพใจให้กับบุคคล ครอบครัว และองค์กร


บริการของเรา

สำหรับบุคคลทั่วไป

• บริการปรึกษา จิตแพทย์และนักจิตวิทยา : http://bit.ly/3lmThUa

• คอร์สฝึกอบรม การเป็นนักจิตวิทยาให้คำปรึกษา : http://bit.ly/3RQfQwS


สำหรับองค์กร

• EAP โปรแกรมสำหรับองค์กร : http://bit.ly/3RLI8Z8


โทร. 02-0268949 หรือ Line : @istrong

 

ประวัติผู้เขียน : จันทมา ช่างสลัก คุณแม่ของลูก 1 คน แมว 1 ตัว ที่พยายามใช้ความรู้ทางจิตวิทยาที่ร่ำเรียนมาและประสบการณ์การทำงานด้านจิตวิทยาพัฒนาการเด็ก มาสร้างความสุขในการใช้ชีวิต ดูแลครอบครัว และการทำงาน รวมถึงมีความสุขกับการได้เห็นว่าบทความจิตวิทยาที่เขียนไปมีประโยชน์กับคนอ่าน

 

อ้างอิง : Helen Fisher. (July 2008). The brain in love. [Online].From https://www.ted.com/talks/helen_fisher_the_brain_in_love

facebook album post - square (1).png
1.พวกหลีกเลี่ยงความผูกพัน (2).png
บทความล่าสุด
bottom of page