top of page
GDN 980 x 120 psychiatrist.jpg

เบื่อเป็นคนรู้จัก อยากขยับเป็นคนรู้ใจ ด้วย 6 เทคนิคจิตวิทยาเปลี่ยนคนคุยเป็นคนคุ้นเคย



ถึงสมาคมคนโสดที่รัก เบื่อแล้วหรือยังคะที่เป็นได้แค่คนคุย ต้องติดอยู่ใน Friend Zone มานานหลายปี เขาก็ให้เราเป็นแค่พี่น้อง เพื่อนพ้อง คนรู้จัก วันนี้จะพาทุกท่านก้าวข้ามคนรู้จัก เป็น “คนรู้ใจเปลี่ยนคนคุยเป็นคนคุ้นเคยกันเสียที เพราะบทความจิตวิทยานี้มีเคล็ดลับดี ๆ มาฝากกันค่ะ


แต่ก่อนอื่นขอทำความเข้าใจก่อนว่า เทคนิคจิตวิทยาที่จะนำเสนอต่อไปนี้ อาจไม่ได้เปลี่ยนคนคุยเป็นคนคุ้นเคยให้กับทุกท่านได้ 100% เพราะยังมีปัจจัยอื่น ๆ อีกมากมายที่เราไม่สามารถควบคุมได้ เช่น รสนิยมส่วนตัวของเขาคนนั้น สเปกหรือความชอบของเขาคนนั้น เอาเป็นว่าถ้าหากใช้ 6 เทคนิคจิตวิทยาเปลี่ยนคนคุยเป็นคนคุ้นเคยแล้ว เขาปฏิเสธกลับมา ก็คิดเสียว่า ดีกว่าที่เราจะเสียเวลาทุ่มใจให้เขาในฐานะคนรัก เปลี่ยนมาเป็นเพื่อนที่ดี เป็นมิตรที่ดีต่อกันนะคะ แต่สิ่งที่ดิฉันรับรอง 100% คือ ถ้าหากคุณนำเทคนิคจิตวิทยาที่จะแนะนำต่อไปนี้ไปใช้ในชีวิตจริง คุณจะกลายเป็นที่รักของคนรอบข้างแน่นอนค่ะ เทคนิคที่ว่ามีอะไรบ้างนั้น มาเริ่มกันเลยค่ะ


1. โชว์จุดเด่นของคุณให้เขาเห็น

จุดเด่นที่มักจะขายออก หรือหาคนรู้ใจง่ายสุด ๆ ก็คือ ความรวย และความหน้าตาดี แล้วยิ่งถ้ามีทั้งรวยและหน้าตาดี คุณก็คงเลือกอ่านบทความอื่นแทนบทความนี้แน่นอนค่ะ แล้วถ้าเราไม่มีทั้งความรวย และความหน้าตาดีละ เราก็ต้องค้นหาจุดเด่น จุดขาย จุดที่ส่องประกายจากตัวเราให้เขาเห็น เช่น ใจดี ฉลาด อบอุ่น หุ่นแน่น ใจถึง พึ่งพาได้ ขอให้เรามั่นใจในความเด่นของเราแล้วแสดงออกไปให้มันกระแทกใจเขา ถ้ามันโดนใจ เดี๋ยวเขาก็ส่งสัญญาณบอกเราเอง แต่ถ้าเรายังจุดเด่นไม่เจอ ก็ไม่ต้องกังวลใจไป เปลี่ยนเป็นหาสิ่งที่คุณชอบแล้วไปพัฒนาให้มันโดดเด่นแทนค่ะ เช่น ทำอาหาร เชี่ยวชาญด้านบุฟเฟ่ต์ รู้ลึกเรื่องภาพยนตร์ เป็นต้น แต่ถ้าเขาไม่ชอบจุดเด่นของเรา ก็ไม่ต้องฝืนเป็นคนอื่นนะคะ เป็นตัวของตัวเองดีที่สุดแล้ว เพราะอย่างน้อยคุณจะรักตัวเองมากขึ้นค่ะ


2. ให้เขารู้ไปเลยว่าเขาสำคัญ

เมื่อคุณเบื่อที่จะเป็นพี่น้อง อยากเกี่ยวดองเป็นครอบครัว ก็แสดงให้เขาเห็นไปเลยค่ะว่าเขาสำคัญกับเราขนาดไหน เช่น จำวันสำคัญของเขา จำสิ่งที่เขาชอบ พาไปทำกิจกรรมที่ถูกจริตกับเขา แต่ทั้งนี้มีกฎเหล็กอยู่ว่า “ดูแล” และ “ใส่ใจ” แต่อย่าไป “คุกคาม” เช่น ถ้าไปรับประทานอาหารกัน คุณสามารถรินน้ำให้เขา ตักอาหารที่เขาชอบใส่จานเขาได้ แต่อย่าถึงขนาดป้อนให้เขา หรือสบตาจนเขาทานอาหารไม่ได้เลยค่ะ เพราะถ้าไปถึงขั้นที่ว่ามาจะกลายเป็นคนคลั่งรัก ที่ทำให้เขารู้สึกอึดอัด และหลังจากนี้เขาจะพยายามหลบหน้าเรา หลีกเลี่ยงที่จะอยู่กับเรา เพราะเขากลัวเราคุกคามค่ะ หากเป็นเช่นนั้นแล้ว อย่าว่าแต่คนคุ้นเคย คนรู้ใจเลยค่ะ คนรู้จักก็น่าจะไม่ได้เป็น


3. มองให้เห็นข้อเสียของเขา

ในข้อนี้ออกจะแปลกแหวกแนวจากเทคนิคข้ออื่น ๆ สักหน่อย ที่แนะนำให้มองหาข้อเสียของคนที่เราแอบชอบ เพราะว่าเมื่อเราชอบใครสักคนเรามักจะคลั่งรักเขา แล้วความรักก็บังตา ทำให้มองไม่เห็นข้อเสียของเขา และถ้าจับพลัดจับพลูคบกันไปจริง ๆ แล้วพบว่าเรารับข้อเสียของเขาไม่ได้ ความสัมพันธ์ก็จะไม่ยืนยาว เสียเวลา เสียความรู้สึกกันไป ดังนั้นเพื่อความมั่นคงทางความสัมพันธ์ในระยะยาว จึงขอให้ท่านตั้งสติสักนิด แล้วพิจารณาตัวเขาว่าเขามีอะไรที่เป็นข้อเสียหรือไม่ หรือมีอะไรที่เราไม่ชอบในตัวเขาหรือไม่ แล้วย้อนกลับมาถามตนเองว่า เราสามารถรับข้อเสียของเขา หรือสิ่งที่เราไม่ชอบในตัวเขาได้หรือไม่ หากรับได้ก็ลุยต่อเลยค่ะ แต่ถ้าคิดว่ารับไม่ได้ ก็ลองพิจารณาความสัมพันธ์กันใหม่อีกที


4. จีบแบบมีกาลเทศะ

หากเราคิดจะข้าม Friend Zone หรือก้าวข้ามพี่น้องแล้วละก็ต้องเดินหน้าจีบเต็มอัตราค่ะ แต่การจีบของเรานั้นต้องมีชั้นเชิงเสียหน่อย ไม่ใช่ว่าบุกอย่างเดียว ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นคุกคามชีวิตเขา แล้วเขาจะรำคาญ หรือกลัวเราจนยุติทุกความสัมพันธ์ไป ดังนั้นจะจีบใครต้องมีกาลเทศค่ะ คือ รู้ว่าเวลาไหนควรโทรหา เวลาไหนควรชวนไปเที่ยว ไปออกเดท หรือจะจีบแบบเนียน ๆ ให้เหนือไปอีก ก็คือ หาเหตุผลที่จะได้เจอเขา ใกล้ชิดกับเขา ไม่ว่าจะเป็นลงเรียนวิชาเดียวกัน Section เดียวกัน เพื่อให้ได้มีโอกาสเจอกัน หรือไปทำกิจกรรมที่เขาจะทำอยู่แล้ว เช่น ไปเที่ยว ไปดำน้ำ ดูปะการัง ปลูกป่า เอาที่เราไหว เราก็จะได้ใกล้ชิด และสนิทกับเขามากขึ้นค่ะ ทั้งนี้ทั้งนั้น อย่าลืมนะคะว่า “อย่ารีบจู่โจมในทุกการสนทนา” ปล่อยโอกาสให้เขาได้เป็นผู้นำในการสนทนาบ้าง แล้วเราค่อยลื่นไหลไปกับเรื่องราวของเขา แล้วไม่นานเราจะกลายเป็นคนรู้ใจของเขาค่ะ


5. ฟังให้มาก

ข้อดีอย่างหนึ่งของคนที่แอบชอบแล้วไม่กล้าบอก ก็คือ เราจะเป็นนักฟังที่ดีค่ะ เพราะเราเขินเกินกว่าจะเป็นฝ่ายชวนเขาคุย หรือเขินจนไม่รู้จะพูดอะไร ทางคนที่เราแอบชอบเลยได้โอกาสพูดเต็มที่ ดังนั้น ถ้าเขาคนนั้นมาพูดอะไรให้เราฟังขอให้รับฟังอย่างตั้งใจ เพื่อให้เข้าใจ (Understand) และเข้าอกเข้าใจ (Empathy) เขา เมื่อเราฟังเขามากขึ้น เราจะรู้จักเขามากขึ้น รู้จักลึกถึงความคิด ความรู้สึก ทัศนคติ และตัวตนของเขาเลยทีเดียวละค่ะ ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถตัดสินใจได้ว่าจะเดินหน้าไปต่อเต็มกำลัง หรือชะลอความเร็ว ๆ ค่อยเรียนรู้กันไป หรือพอแค่เป็นเพื่อน เป็นคนรู้จัก ก็ตัดสินใจจากสิ่งที่ได้รับฟังนะคะ


6. สร้างความประทับใจ

เมื่อเดินทางมาถึงเทคนิคจิตวิทยาข้อนี้แล้ว รับรองเลยค่ะว่าความประทับใจจะเกิดขึ้นมาแล้วระหว่างคุณสองคน นั่นก็เพราะคุณได้แสดงศักยภาพให้คนที่คุณแอบชอบได้เห็น ได้แสดงความรู้สึกในใจให้เขารับรู้ว่าเขาสำคัญ ได้เรียนรู้ตัวตนของเขาทั้งข้อดี และข้อเสีย รวมถึงได้มีกิจกรรมร่วมกัน รับฟังเรื่องราวของเขามากขึ้น สิ่งเหล่านี้จะทำให้เราได้รู้จักกันมากยิ่งขึ้น เห็นตัวตนของกันและกัน และความจริงใจที่เราแสดงออกมานี้ละค่ะที่ทำให้เขาประทับใจในตัวเรา


พี่แสตมป์ อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข บอกว่าว่า “ฉันชอบใครเขาก็ไม่ชอบฉัน พอเขามาชอบเรา เราก็ไม่ชอบเขาเหมือนกัน ความรักมันประหลาด ไม่ค่อยมีโอกาสเกิดขึ้นพร้อมกัน” นั่นหมายความว่าในการที่จะเปลี่ยนคนรู้จัก เป็น “คนรู้ใจ” ได้นั้นช่างยากลำบาก และมีเงื่อนไขพิเศษมากมายที่อธิบายออกมายาก เพราะมันเป็นเรื่องความรู้สึกของคนสองคน แต่ถ้าหากเรามีตัวช่วยในการเร่งปฏิกิริยาให้สองคนได้มาสัมผัสใจกัน เช่น 6 เทคนิคจิตวิทยาที่ได้นำเสนอข้างต้น โอกาสที่จะเปลี่ยนคนคุยเป็นคนคุ้นเคยย่อมเพิ่มขึ้นมากแน่นอนค่ะ


สำหรับใครที่กำลังเครียด กังวล คิดมาก ทั้งเรื่องของปัญหา Burn Out จากการทำงาน ปัญหาความสัมพันธ์ต่างๆ ในครอบครัว คนรัก ไปจนถึงภาวะต่างๆ เช่น ซึมเศร้า ทุกปํญหาสำคัญและเป็นเรื่องใหญ่สำหรับเราเสมอ


iSTRONG ยินดีให้บริการ ปรึกษาด้านสุขภาพจิตโดยผู้เชี่ยวชาญ ทั้งจากจิตแพทย์และนักจิตวิทยา ดูรายละเอียดได้ที่นี่



 

iSTRONG Mental Health

ผู้ดูแลสุขภาพใจให้กับบุคคล ครอบครัว และองค์กร


บริการของเรา

สำหรับบุคคลทั่วไป

  • บริการปรึกษา จิตแพทย์และนักจิตวิทยา : http://bit.ly/3lmThUa

  • คอร์สฝึกอบรม การเป็นนักจิตวิทยาให้คำปรึกษา : http://bit.ly/3RQfQwS

สำหรับองค์กร

โทร. 02-0268949 หรือ Line : @istrong

 

บทความแนะนำ :


อ้างอิง : เฌอมาณย์ รัตนพงศ์ตระกูล. (2015, ตุลาคม). จิตวิทยาแค่ 1% ทำให้คุณ "เหนือ" คน : Do It 1% Smarter Than Them. กรุงเทพฯ : Double Days Publishing.

 

ประวัติผู้เขียน : จันทมา ช่างสลัก อดีตนักจิตวิทยาพัฒนาการเด็ก บัณฑิตจิตวิทยาคลินิก เกียรตินิยมอันดับ 2 จากรั้ว มช. และมหาบัณฑิตจาก NIDA ปัจจุบันเป็นคุณแม่ลูก 1 ผู้เป็นทาสแมว ที่มุ่งมั่นจะพัฒนาการเขียนบทความจิตวิทยาให้โดนใจผู้อ่าน และสร้างแรงกระเพื่อมทางสังคม ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกบนโลกใบนี้


facebook album post - square (1).png
1.พวกหลีกเลี่ยงความผูกพัน (2).png
บทความล่าสุด
bottom of page