top of page

5 วิธีเรียบง่ายที่จะช่วยให้คุณไม่จมดิ่งไปกับความคิดมากของตัวเอง

iSTRONG 5 วิธีเรียบง่ายที่จะช่วยให้คุณไม่จมดิ่งไปกับความคิดมากของตัวเอง

ไม่ใช่เพราะความทุกข์ที่ทำให้เราคิดมาก แต่เป็นเพราะความคิดมากที่ทำให้เราทุกข์” เป็นประโยคที่ผู้เขียนเคยอ่านเจอบ่อย ๆ แต่แม้ว่ามันจะดูคมคายน่าประทับใจ ผู้เขียนกลับพบว่ามันจะเป็นเรื่องที่ยากหากคนที่อยากเลิกเป็นคนคิดมากไม่รู้ว่าวิธีการที่เป็นรูปธรรมในการรับมือกับความคิดมากของตัวเองคืออะไร


การปลอบใจที่หวังดีว่า “อย่าคิดมาก” มันจึงมักทำให้คนที่กำลังคิดมากยิ่งคิดมากไปกันใหญ่เพราะมันเป็นประโยคที่ให้ชวนให้รู้สึกไปในทางถูกตำหนิว่า “คุณกำลังทำสิ่งที่มันผิดหรือไม่สมควร” ในขณะเดียวกันก็ทำให้รู้สึกว่าตัวเองไม่ได้รับความเข้าใจ


เพราะหากรู้ว่าตัวเองจะอยู่กับความคิดมากได้ยังไงก็คงไม่ปล่อยให้ความทุกข์จากความคิดมากมันสะสมมานานถึงขนาดนี้ อย่างไรก็ตาม การคิดมากมักทำให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดี ดังนั้น หากหยุดคิดมากไม่ได้ก็เปลี่ยนมาเป็นเรียนรู้ที่จะอยู่กับตัวเองอย่างเข้าใจ ซึ่งมันน่าจะง่ายกว่าการพยายามบอกตัวเองให้ “หยุดคิดมากเดี๋ยวนี้” ได้แก่


  1. รู้ว่าอะไรคือตัวกระตุ้น (Know your triggers)

    ค้นหาและระบุออกมาให้ชัดเจนว่าตัวเองกำลังคิดมากในเรื่องอะไรอยู่ เมื่อรู้แล้วว่าอะไรคือตัวกระตุ้นที่ทำให้คุณคิดมาก คุณก็จะสามารถจัดการกับมันได้อย่างเป็นรูปธรรม เพราะคุณมักจะไม่สามารถจัดการกับสิ่งที่คุณไม่รู้ว่ามันคืออะไรได้ คุณจึงต้องรู้ตัวให้ได้ก่อนว่าสาเหตุที่ทำให้คุณคิดมากนั้นมันมาจากอะไร


  2.  จงมีสติ (Be mindful)

    การมีสตินั้นไม่จำเป็นต้องเข้าวัดไปปฏิบัติธรรมเสมอไป แต่หมายถึงการใส่ใจสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบันหรือกำลังทำอยู่ในตอนนั้น รวมไปถึงการรู้ตัวว่าตัวเองกำลังอยู่ในสภาวะจิตใจยังไง เช่น กำลังคิด กำลังเศร้า หากเป็นไปได้ให้คุณเลือกทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดให้เสร็จไปทีละอย่าง ทำมันอย่างช้า ๆ ด้วยความใส่ใจ เมื่อคุณทำอะไรช้าลง จิตใจของคุณก็จะสงบลงตามไปด้วย


  3. ท้าทายตัวเอง (Challenge)

    เมื่อคุณรู้แล้วว่าตัวเองกำลังมีความคิดแบบไหนและอะไรคือสิ่งที่เป็นตัวกระตุ้น ให้คุณลองท้าทายตัวเองด้วยการตั้งคำถาม เช่น “สิ่งที่คิดมันจริงแค่ไหน?” “การคิดแบบนี้มันดีกับเราจริง ๆ หรือไม่?” หรือ “ถ้าลองคิดให้มันเป็นแบบอื่นมันจะเป็นอะไรได้บ้าง?”


  4. ลงมือทำ (Take action)

    ในที่นี้ไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องลงมือทำอะไรที่มันใหญ่โตหรือต้องเปลี่ยนแปลงแบบก้าวกระโดด แต่คุณสามารถเริ่มจากการลงมือทำอะไรที่มันเล็ก ๆ ก็ได้ เช่น หากคุณมีความรู้สึกกลัวหรือกังวลกับการเดินทางคนเดียวตามลำพัง


    คุณก็ลองไปคนเดียวในที่ใกล้ ๆ ก่อนแล้วค่อยขยับเป็นการไปในที่ที่มันค่อย ๆ ไกลออกไป ซึ่งการลงมือทำมันจะช่วยให้คุณค่อย ๆ เกิดความรู้สึกมั่นใจมากขึ้นเรื่อย ๆ  


  5. อย่าลืมว่าคุณไม่ได้โดดเดี่ยวตัวคนเดียว (Remember you are not alone)

    หากคุณรู้สึกว่าความคิดมากของตัวเองหรืออุปนิสัยบางอย่างมันรบกวนความสุขของคุณ คุณไม่จำเป็นต้องพยายามพาตัวเองให้ผ่านปัญหาที่เกิดขึ้นไปแบบโดดเดี่ยวลำพัง เพราะคุณสามารถขอความช่วยเหลือจากคนอื่นได้เสมอทั้งจากคนที่คุณสนิทสนมไว้วางใจหรือจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต


    โปรดอย่าได้รู้สึกอับอายหรือกลัวที่จะขอความช่วยเหลือจากคนอื่นเพราะเมื่อคุณขอความช่วยเหลือออกไปจะมีอย่างน้อยคนหนึ่งที่สามารถให้ความช่วยเหลือคุณได้ นอกจากนั้น บนโลกไม่ได้ก็ไม่ได้มีเพียงแค่คุณที่เป็นแบบนี้ แต่ยังมีผู้คนประมาณ 73% ของประชากรในช่วงอายุ 25 – 35 ปีบนโลกใบนี้ที่กำลังเผชิญอยู่กับปัญหาเกี่ยวกับการคิดหรือกังวลเรื่องใดเรื่องหนึ่งซ้ำ ๆ และมากเกินไปอย่างต่อเนื่อง 


นอกจากวิธีที่กล่าวมาทั้งหมดในข้างต้น ผู้เขียนขอเพิ่มเติมอีก 7 วิธีซึ่งเป็นวิธีดูแลสุขภาพจิตที่เรียบง่ายแต่หลายคนมักจะมองข้ามความสำคัญของมันไป ได้แก่

  1. การออกกำลังกายแบบแอโรบิก (Aerobic exercise)

  2. ให้ความสำคัญกับการนอนหลับ หากเป็นไปได้ควรเข้านอนไม่ดึกจนเกินไปและหลีกเลี่ยงการใช้หน้าจอก่อนนอน รวมถึงทำให้อากาศในห้องนอนมีอุณหภูมิที่เย็นสบายแบบพอดี 

  3. เลือกกินอาหารที่มีประโยชน์และสร้างสมดุลให้กับร่างกาย

  4. หายใจเข้าออกลึก ๆ เมื่อคุณรู้สึกเครียดให้หยุดพักตัวเองจากกิจกรรมต่าง ๆ ลงชั่วคราวแล้วสูดหายใจเข้าช้า ๆ ผ่านทางจมูกจากนั้นจึงค่อยปล่อยลมหายใจออกและพักระหว่างช่วงที่หายใจ

  5. ฝึกฝนหรือทำกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการนั่งนิ่ง ๆ หายใจลึก ๆ หรือการตั้งจิตใจให้สงบเพื่อเพิ่มความผ่อนคลายและการมีสติ ตั้งใจฟังเสียงต่าง ๆ รอบตัวไม่ว่าจะเสียงของธรรมชาติหรือเสียงความวุ่นวายในเมือง ลองจดจ่ออยู่กับเสียงนั้น ๆ เพื่อสร้างสมาธิและการรู้ตัว 

  6. ปลูกฝังสำนึกขอบคุณ (Gratitude) เช่น เขียนสามสิ่งที่น่าชื่นชมยินดีที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน

  7. ฝึกให้ตัวเองโอเคกับความไม่โอเค ยอมรับข้อผิดพลาดและความไม่สมบูรณ์แบบ เรียนรู้และทำความเข้าใจว่าความล้มเหลวคือส่วนหนึ่งของการเติบโต 


iSTRONG Mental Health

ผู้ดูแลสุขภาพใจให้กับบุคคล ครอบครัว และองค์กร


บริการของเรา

สำหรับบุคคลทั่วไป

  • บริการปรึกษา จิตแพทย์และนักจิตวิทยา : http://bit.ly/3lmThUa  

  • คอร์สฝึกอบรมทักษะด้านจิตวิทยา : http://bit.ly/3RQfQwS 

สำหรับองค์กร

โทร. 02-0268949 หรือ Line : @istrong

บทความที่เกี่ยวข้อง 

อ้างอิง:

5 Simple Steps to Stop Overthinking | Buddhism In English. Retrieved from https://www.youtube.com/watch?v=VQL15uSAeRU

7 Ways to Support Your Mental Health. Retrieved from

ประวัติผู้เขียน

นิลุบล สุขวณิช (เฟิร์น) เคยมีประสบการณ์ทำงานเป็นนักจิตวิทยาการปรึกษาในมหาวิทยาลัยและเป็นวิทยากรเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพจิต/การพัฒนาตนเองให้แก่นักศึกษาเป็นเวลา 11 ปี ปัจจุบันเป็นนักเขียนบทความให้กับ ISTRONG และเป็นทาสแมวคนหนึ่ง


Nilubon Sukawanich (Fern) have had experience working as a counseling psychologist at a university and as a speaker on mental health issues and self-development for students for 11 years. Currently, I am a writer for ISTRONG and a cat slave.


iSTRONG ผู้ให้บริการด้านสุขภาพจิต Solutions ด้านสุขภาพจิต ให้คำปรึกษาโดยนักจิตวิทยา นักจิตบำบัด นักจิตวิทยาคลินิกที่มีใบรับรอง รวมถึงบทความจิตวิทยา

© 2016-2025 Actualiz Co.,Ltd. All rights reserved.

contact@istrong.co                     Call 02-0268949

  • Facebook Social Icon
  • YouTube Social  Icon
  • Instagram
  • Twitter
bottom of page